เนื้อเรื่องนิยายหลัก
นิยายเฉินเฮ่าเทียนเทพสงครามรวมแผ่นดิน แผ่นดินใหญ่ทางตอนเหนือเมื่อนานมาแล้วมีเรื่องเล่าถึงจอมทัพผู้หนึ่งเก่งกาจราวกับเป็นเทพสงครามจากสวรรค์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์
จอมทัพผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นสายเลือดของมังกรที่พลัดพราก ภายหลังได้กลับสู่ฐานันดรทั้งยังช่วยฮ่องเต้ผู้เป็นพี่รวบรวมแผ่นดินที่แตกออกเป็นหัวเมืองย่อยเป็นหนึ่งเดียว จนกระทั่งเหลือเพียงสองแคว้นคือเสียนหยางและอันหยาง
แต่ทว่า... เส้นทางของเทพเซียนผู้นี้ก่อนที่จะได้เป็นเทพแห่งสงครามยังต้องผ่านด่านเคราะห์กรรมถึงสองครั้งในชีวิตก่อนจะได้พบรักแท้
ครั้งหนึ่งเมื่อครั้งยังวัยเยาว์ถูกเล่ห์กลในวังหลวงจนต้องจากแผ่นดินเกิดไปไกล ถูกขายเป็นทาสทั้งยังต้องเอาชีวิตรอดในสนามประลองที่สามารถตายได้ทุกเมื่อจนกระทั่งได้เจอกับ หลินอ๋องซือจือทายาทเจ้าเมืองเสียนหยางเข้าช่วยเหลือซึ่งนั่นก็คือเคราะห์กรรมครั้งที่สองของเขา
เทพสงครามผู้สูงศักดิ์ถูกกลั่นแกล้งจากคนในวังอ๋อง ต้องแบกรับกับคำเรียกขาน ‘นายบำเรอ’ อย่างเหยียดหยาม ภายหลังฮ่องเต้เฉินเทียนตี้ผู้เป็นพระเชษฐาสืบจนพบตัวเขาจึงเข้าช่วยเหลือ
หลังจากที่หนีมาได้จึงช่วยฮ่องเต้ผู้พี่ทำความฝันให้เป็นจริงด้วยการรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง จนกระทั่งเหลือเพียงเสียนหยางและอันหยาง เฉินเทียนตี้เลือกที่จะเข้าตีเสียนหยางก่อนด้วยความไม่พอพระทัยที่มีต่อหลินอ๋องซือจือ
หลังจากที่ยึดเมืองมาได้จึงสั่งให้จับหลินซีหยวนที่เพิ่งครองตำแหน่งต่อจากพระบิดาได้ไม่นานมาคุมขังที่ต้าเหลียงแต่ก็ไม่อาจลงโทษได้ตามพระทัยเพราะคำขอร้องของอนุชา เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณ จึงได้มีราชโองการสมรสพระราชทานให้หลินซีหยวนแต่งเป็นอนุเพื่อเป็นการหยามเกียรติ ให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของอดีตเจ้าเมืองผู้นี้ต้องจมอยู่กับความรู้สึกที่ตนเคยทำกับเฉินเฮ่าเทียน
หลินซีหยวนอดีตเจ้าครองแคว้นเสียนหยางผู้เป็นเพียงบททดสอบเล็ก ๆ ของเทพสงครามได้ถูกส่งไปอยู่ในเรือนที่อยู่ไกลจากชีวิตเฉินเฮ่าเทียนที่สุดและจบชีวิตลงอย่างเงียบ ๆ ณ ที่แห่งนั้น ลูกน้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็ถูกประหารจนหมดสิ้น ตลอดชีวิตของเขามีเรื่องให้กล่าวถึงเพียงไม่กี่บท แต่กลับต้องแบกรับคำครหาจากผู้คนลงหลุมฝังศพอยู่นานหลายปี
หลินซีหยวน เจ้าครองแคว้นไร้ความสามารถไม่อาจปกป้องเสียนหยางทั้งยังพาลูกน้องผู้ภักดีสี่ขุนพลไปตาย ซ้ำร้ายยังเป็นต้วนซิ่วไร้ยางอายหลงใหลใฝ่ฝัน ไล่ขอความรักจากเฉินเฮ่าเทียนอย่างไม่อายแต่กลับไม่ได้รับการตอบสนอง จนกระทั่งภายหลังหันไปพึ่งคุณไสยมนต์ดำ เล่นพิเรนทร์จนตัวตาย
เส้นทางชีวิตของเทพสงครามเฉินเฮ่าเทียน ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยการปราบกบฏจนกระทั่งยึดเสียนหยางคืนมาได้จากฮั่นจงหลีผู้เป็นพระอนุชาอีกพระองค์ของฮ่องเต้
ฮั่นจงหลีหรือฮั่นอ๋อง กระทำการลับหลัง ซ่องสุมกำลังทาบทามเหล่าแม่ทัพนายกองเข้าเป็นพวกตน จากนั้นจึงอาศัยจังหวะที่ทุกคนมัวแต่วุ่นวายกับหลินซีหยวนแอบโยกย้ายกำลังทหารไปตั้งหลักที่เสียนหยาง ตั้งตนเป็นอ๋องครองแคว้นทั้งยังจับพระอนุชาเพียงคนเดียวของหลินซีหยวนเป็นองค์ประกัน
เหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้บัลลังก์ของเฉินเทียนตี้สั่นคลอนเพราะทหารกว่าเจ็ดในสิบถูกโยกย้ายไปจนหมด เทพสงครามเฉินเฮ่าเทียนแม้จะเก่งกาจแต่ก็ยังไม่ได้รับยอมรับจากเหล่าทหารหาญเท่ากับฮั่นจงหลีที่ถวายงานรับใช้ฮ่องเต้มานาน
ทหารเจ็ดในสิบส่วนรวมเข้ากับทหารของเสียนหยางที่มีอยู่เดิมนับแสนทำให้ต้าเหลียนไม่อาจบุ่มบ่ามกระทำการปราบกบฏจึงคิดหาวิธีขอเจริญสัมพันธไมตรีกับเจ้าเมืองอันหยาง องค์หญิงมู่หรงถิงจึงถูกส่งมาเป็นนักการทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีในครั้งนี้ จนกระทั่งพบรักกับเทพสงครามเฉินเฮ่าเทียน
ทั้งสองตกลงหมั้นหมายและแต่งงานกันอย่างรวดเร็ว กองกำลังสองหัวเมืองรวมกันยกไปปราบปรามกบฏฮั่นจงหลีจนเป็นผลสำเร็จ ความสงบสุขกลับคืนสู่ภายใต้แผ่นดินที่รวมกันเป็นหนึ่งไร้ศึกสงครามไปอีกร้อยปี
..............จบบริบูรณ์.............
........................................................................................
บทนำ
“.......สายฝนโปรยปรายในคืนที่มืดสนิทไร้ซึ่งแม้แต่แสงสว่างจากดวงจันทร์ เป็นคืนที่เต็มไปด้วยลางร้ายและความมืดหม่น บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย
ในห้องนอนที่ปิดกั้นจากโลกภายนอก เงาดำบนเตียงเคลื่อนไหวเสียดสีกับที่นอนเสียงดังสวบสาบคล้ายกับกำลังดิ้นรนจากบางสิ่งด้วยความทรมาน สองมือกุมลำคอของตัวเองแน่น ริมฝีปากอ้าออกกว้างคำรามออกมาอย่างไร้ซุ้มเสียง
‘เจ็บปวด หวาดกลัว... ไม่อยากตาย’
“ข้าอยากกลับไปอีกครั้ง ไม่อยากยอมแพ้ไปเช่นนี้ ขอโอกาสที่จะได้กลับไปแก้ไขอีกครั้ง..... ได้โปรด....”
สายฟ้าแลบแปลบปลาบที่ด้านนอกหน้าต่างราวกับกำลังตอบรับคำขอต่อลมหายใจสุดท้ายของใครบางคน ที่กำลังจะพรากเอาวิญญาณไปจากโลกใบนี้อย่างไม่ยินยอม......
ใบหน้างามสองตาเบิกโพลง สองมือตกลงที่ข้างตัวจากความพยายามเฮือกสุดท้าย ลำคอถูกบีบจนบวมช้ำไม่อาจตอบได้ว่าด้วยน้ำมือของตนเองหรือผู้ใด เล็บทั้งสิบเต็มไปด้วยเลือดแห้งที่เริ่มแห้งแข็ง เลือดที่บาดแผลค่อย ๆ หยุดไหลไปพร้อมกับลมหายใจของเจ้าตัว....”
........................................................................................
คัดซีน
“มาทำกันเถอะ”
“เอ๊ะ?”
หลินซีหยวนคิดอยู่นานก็เข้าใจว่าพระเอกพูดถึงเรื่องอะไร ยิ่งเห็นสายตานักล่าที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายของพระเอกแล้วหนังหน้าบาง ๆ ของคุณชายก็ให้แดงเถือกไปทั้งใบหน้าและลำคอ
‘ทำไมนายพูดเหมือนชวนทานข้าว’ ปากคอคุณชายเริ่มสั่น
หลินซีหยวนพลันกระถดกายหนีด้วยความหวาดหวั่น
“ฮะ..เฮ่าเทียน เจ้ายังต้องไปเข้าเฝ้าอีกไม่ใช่หรือ? ไหนจะแผลของเจ้าอีก! หายดีแล้วหรือ?”
“ข้าแข็งแรงดี... ปึ๋งปั๋งเชียวล่ะ”
‘เดี๋ยวนะ! อะไรปึ๋ง อะไรปั๋งวะ!? หรือเขาจะหมายถึงหรรม?’ หลินซีหยวนช็อกจนเกือบขิต วิญญาณแทบหลุดลอยออกจากร่าง ใบหน้าคุณชายก็หดเหลือสองนิ้ว ตะเกียกตะกายทำท่าจะวิ่งหนีพระเอกแต่กลับโดนรวบตัวเข้าไปกอดได้อย่างง่ายดาย
“หยวนหยวน ข้าชอบเจ้า” โดนคำนี้เข้าไปทีไรคุณชายถึงกับระทวย ตัวเหลวเป็นขี้ผึ้งอยู่ในอ้อมกอดเฉินเฮ่าเทียน แต่แล้วก็ต้องตกใจจนสองตาเบิกโพลง เมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“คืนนี้....เป็นของข้านะ”
“!!!”
‘ได้ยินแล้วไม่อยากให้ถึงกลางคืนเลยว่ะ’