ณ ห้องสี่เหลี่ยมสีขาว
“ใครว่าฮีลตัวเองบ่อยๆ แล้วจะสตรองขึ้นค่ะหมอ”
“……”
“ฉันเคยหวังอะไรมากๆ คิดว่าความหวังนั้นมันจะเป็นจริง ดีใจสุดโต้ง รู้มั้ยว่าสุดท้ายเป็นยังไง ความหวังนั้นมันถูกกระซากลงจนจมดิ่ง….”
ดวงตาคู่สวยนั่งเหม่อมองไปที่พนังสีขาว ปากฉีกยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะหันมามองคุณหมอที่เป็นจิตแพทย์คุยในยามเหงา
“เจ็บจังเลยนะคะ”
แต่ฉันฮีลตัวเองได้เสมอนั้นแหละ อาจจะมีร้องไห้บ้าง แต่มันก็แค่น้ำตาไม่กี่หยดใครจะสนใจกัน หึ
“คุณรักษาตัวเองโดยการสั่งสมองเท่านั้นแต่คุณไม่ได้รักษาสภาพจิตใจของตัวเองเลย” คุณหมอตอบกลับมา
“……”
ฉันเงียบไปพักหนึ่ง
“งั้นหรอคะ? ก็คงจะเป็นแบบนั้น”
รอนเป็นหมอที่ดี เขาช่วยรักษาจิตใจของฉัน เขาสามารถปลอบใจฉันได้ ที่สำคัญเขาเก็บความลับเก่ง แน่ล่ะมันเป็นจรรยาบรรณของหมอนี่เนาะ
“ฉันโอเคแล้วล่ะค่ะ ไว้มาหาใหม่นะคะคุณหมอรอน”
ฉันบอกลาพร้อมกับยิ้มทะเล้นส่งให้เขา ก่อนจะเดินออกมาจากประตูสีขาวนั้น
ฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า วันนี้ข้างบนนั้นช่างสดใสเหลือเกิน มวลเมฆสีขาวลอยเคว้งอยู่บนท้องฟ้า มือถูกยกขึ้นมาบังแสงอาทิตย์ที่กำลังแยงตา ฉันยิ้มรับกับภาพนั้นแต่…….ฉันรู้ว่าสภาพจิตใจฉันมันแย่เกินกว่าจะยิ้มรับกับอะไรทั้งสิ้นและแน่นอนว่ามันย้ำแย่เกินกว่าจะพึ่งแค่หมอรอนเพียงคนเดียว
ตึก
ตึก
ตึก
เสียงฝีเท้านักๆของใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่เธอ
“Hi darling” เสียงทุ่มนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง ฉันค่อยๆเอียวตัวหันไปมอง ปรากฏหนุ่มฮิปเตอร์ผมเซอร์ ตาอำพัน กำลังส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างเป็นมิตร
เขานี่เอง
เขาคือคนๆ นั้น
และฉันส่งยิ้มกว้างกลับไป………….
มีคนแปลกหน้ามากมายปรากฏตัวขึ้นมา บาคนหายไป บางคนยังคงอยู่ คนแปลกหน้าเหล่านั้นเป็นมิตรที่ดี และฉันสามารถไว้ใจพวกเขาได้ แต่…พวกเขาบางคนน่าสงสารเกินกว่าจะสามารถเก็บเอาไว้ได้ ฉันต้องปล่อย….ปล่อยให้พวกเขาหายไป หายไปจากจิตใจที่ดำมืดดวงนี้ของฉัน