ทิวาเจ้าลดเลือนหายกลางเวหา
ดวงดาราประดับแสงราตรีใหม่
แม้นเราสองต้องพลัดพรากจรจากไกล
หากอรุณทอแสงใหม่ให้หวนคืน...
SUDA.
เปิดเรื่อง 23/9/65
--------------------------------------
เพราะรับคำสั่งจากเบื้องบนให้มาสืบหาเรื่องทุจริตของขุนนางต่างเมือง
หมื่นทิพเสนา... ขุนนางหนุ่มวัย ๒๐ ปีจึงต้องแสร้งระเหเร่ร่อนมาอยู่หัวเมืองเล็ก ๆ อำพรางตนเป็นพรานป่าคอยล่าสัตว์เลี้ยงชีพ
แต่เมื่อมาถึงแล้ว...ปริศนาที่ต้องแก้นั้นมิใช่เพียงราชการลับ แต่มียังเรื่องของเขา...และเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เคยพบกันเมื่อสิบปีก่อนด้วย
เด็กหญิงตัวน้อย ดวงตากลมสุกใส และมักร้องไห้ใส่เขาทุกครั้งเมื่อพบหน้า...
จากกันไปสิบปีแล้ว...ป่านนี้เธอคงเติบโตเป็นหญิงสาวแรกแย้มและงดงาม
แต่เมื่อเขากลับมาคราวนี้...เธอหายไปที่ใด... ?
ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่...
เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่...
------------------------------
สายลมยามเย็นวันนี้พัดผ่านกายเขาชวนให้รู้สึกอ้างว้าง ยามอาทิตย์อัสดงส่องผืนนภาให้เปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม นกน้อยบินเป็นกลุ่ม ๆ กลับรังตนเองพร้อมส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
ร่างสูงนั่งพิงระเบียงพลางทอดสายตามองธารน้ำหน้าเรือนตน มองไกล ๆ เห็นเรือนร้างของเศรษฐีมิ่ง... เขายิ่งนึกถึงเด็กหญิงตัวน้อยที่ตนเคยรู้จัก
ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ...
ชายหนุ่มพลันถอนหายใจเสียงเบา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันหลังหมายจะเข้าไปข้างในเรือน...
แต่ก็ต้องผงะด้วยความตกใจเมื่อเห็นแม่พิกุลยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า หญิงสาวส่งยิ้มสดใส ดวงหน้ายังหวานละมุนดังเดิม...เรือนผมดำขลับปลิวไสวเบา ๆ ตามแรงลม
“ตกใจหรือเจ้าคะ”
“ใครให้เจ้ามาเงียบๆเช่นนี้เล่า”
“โธ่คุณพี่...”
“ก็ข้าเป็นผี หากไม่ให้มาอย่างนี้...แล้วจักให้มาอย่างไรเล่าเจ้าคะ”
---------------------------------