เมื่อปั้นหยาถูกอลันผู้เป็นพี่ชายที่เป็นตำรวจ ใช้ให้ไปสืบคดีการซื้อขายยาเสพติดในค่ายเพลง Q มิวสิค โดยปลอมเป็นผู้ชายเข้าไปเป็นผู้จัดการวงให้กับนักร้องวง THE EST ทำให้เธอต้องไปดูลาดเลาในผับที่พวกเค้าเป็นเจ้าของอยู่ ในวันนั้นปั้นหยาก็ได้รู้จักกับซันเข้าโดยบังเอิญ และในวันเดียวกันนั้นเองปั้นหยาก็ได้พบกับสมาชิกทั้งสองคนของวง THE EST ซึ่งก็คือคิมมือกีต้าร์ กับออกัสมือเบส ต่อมาคิมได้ช่วยปั้นหยาจากพวกแก๊งอันธพาล จนรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับคิมมากขึ้นไปอีก
หลังจากวันนั้นปั้นหยาก็ปลอมตัวเข้ามาในค่ายเพลงในฐานะผู้จัดการวง เพื่อที่จะเข้ามาสืบคดีอย่างลับๆ ทำให้เธอรู้จักสมาชิกอีกสองคนที่เหลือซึ่งก็คือ คือแม็กนักร้องนำที่ควบตำแหน่งหัวหน้าวง กับชินที่เป็นมือกลอง และผู้ต้องสงสัยอีกคนก็คือคุณภาคีนัย ที่เป็นผู้จัดการใหญ่ของที่ค่ายเพลง Q มิวสิค
แต่เข้ามาทำงานได้แค่วันเดียว ก็ถูกคิมจับได้ว่าเป็นผู้หญิง เมื่อคิมรู้จึงมีการแลกเปลี่ยนข้อตกลงกันเล็กน้อย (ที่ไม่น้อย) เพื่อให้คิมปกปิดความลับให้พร้อมกับช่วยเธอสืบคดีต่อไป จนจึงทำคนทั้งคู่รู้จักและสนิทกันมากขึ้น ต่างก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน
และในที่สุดปั้นหยาก็ได้ข้อมูลสำคัญมาจากคิม ว่าจะมีการส่งของกันในระหว่างที่ทัวร์คอนเสิร์ตทั้งสี่ครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นที่ไหน เธอจึงจำเป็นต้องตามผู้ต้องสงสัยไปทุกที่ที่เค้าเดินทางไป แต่ก็มาพลาดท่าให้กับซันทำให้เกือบเอาตัวเองไม่รอด
และเมื่อกลับจากทัวร์คอนเสิร์ตที่เชียงใหม่ ความรู้สึกดีๆ ของปั้นหยาและคิมก็มีมากขึ้นเช่นกัน จนกระทั้งแนทคนรักเก่าของคิมเดินเข้ามา ทำให้คิมลืมความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ปั้นหยาไป
จนกระทั้งคอนเสิร์ตครั้งที่สองที่จังหวัดอุดรธานีได้เริ่มขึ้น ปั้นหยาก็มารู้ความจริงว่าจริงๆ แล้ว คิมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการเดียวกันกับผู้ต้องสงสัยเหมือนกัน ถึงแม้จะเจ็บใจและเสียใจมากแค่ไหน เธอก็ต้องตามติดคิมทุกฝีก้าวเพื่อให้ได้รู้ข้อมูลมากขึ้นกว่านี้ แต่ยิ่งตามก็ยิ่งโดนคิมทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งตามเท่าไรก็เหมือนจะไม่ได้อะไรคืบหน้าเลยซักนิดเดียว เพราะคิมขัดขวางเธอไว้ตลอดเวลา
แล้วปั้นหยาจะทำยังไงต่อไปกับความรู้สึกของตัวเอง รวมทั้งจัดการกับคนใจร้ายอย่างคิมได้ยังไง โปรดติดตามได้ใน สายลับหน้าใสล็อกหัวใจนายวายร้ายสุดฮอตฉับบเต็มได้ค่ะ