"บอยซอยถี่ขายถุงที่ตลาด มีทุกขนาดเล็กใหญ่บอยก็มี....ว่างๆ มาลองวัดไซส์ที่ห้องผมได้นะครับ"
สโลแกนขายของที่ผมแหกปากข้างตลาดตรงหัวมุมทุกวัน
อันที่จริงเปิดร้านขายถุงพาสติกบังหน้ากันพ่อด่า เดี๋ยวหาว่าไม่ทำมาหากินบรรพบุรุษไม่สั่งสอน ผมก็เลยมาจองแผงเปิดขาย วันเว้นวัน เว้นสองวัน สามวัน หรือสัปดาห์ แล้วแต่ร่างกายผมจะคึก เพราะจริงๆ ผมไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ หน้าตาอย่างผม ความสามารถไม่มี ก็ฉายาซอยถี่ที่ได้มาก็บอกความสามารถชัดเจน
ผมมีพี่พิชชี่ที่รัก คอยเอาอกเอาใจ ดูแลผมทุกอย่างตั้งแต่ห้องน้ำยันเตียงนอน ระเบียงยันดาดฟ้า หลังคาหรือบนรถ พี่พิชชี่จัดหนักจัดเต็มเครมชั้นหนึ่งยิ่งกว่าประกัน คลุ้มครองยันเงาของบอยได้ทุกอย่าง เพราะงั้นวันๆ ผมเลยไม่ได้ทำเหี้ยอะไรนอกจากเล่นกินเที่ยว เป็นเพื่อนพี่พิชชี่คนงาม เรียกหาบอยตอนไหน บอยก็ไปทันที จากนั้นเขาก็มาส่งบ้านพร้อมค่าขนมสองสามหมื่น ชีวิตบอยซอยถี่จึงไม่มีปัญหาเรื่องเงิน จนกระทั่ง
"อ่ะ..ก้อนสุดท้าย พี่ให้ จากนี้เราคงจะไม่ได้เจอกันอีก พี่ต้องย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้วนะแม่ป่วย"
ข่าวร้ายยิ่งกว่าหวยร้อยล้านถูกขโมย
พี่พิชชี่ต้องย้ายกลับเชียงใหม่ และนั่นก็คือจุดจบความสีวิลัยของชีวิตบอยซอยถี่ จากนี้คือบรรลัยล้วนๆ เมื่อผมดันติดหนี้บ่อนตรงนั้น มันจึงส่งลูกน้องทวงเช้าทวงเย็น...แทบจะกระทืบหนังหน้าผม แต่คนอย่างผมมีทางออกเสมอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใครครับ"
"มาทวงที่ค้างไว้อ่ะ"
"ไม่มี บอกไปแล้วครับว่าไม่มี ถ้ามีผมต้องไปจ่ายอยู่แล้ว นี่มาทำไมทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรือไง"
"กูมาตามคำสั่งนาย"
"ปาดแว็คทรงผมใหม่มาทุกวัน แน่ใจนะครับว่าไม่ได้มาอ่อย ผมบอยซอยถี่ใครๆ ก็รู้"
"ควาย ! อย่าพูดมากจ่ายมา"
"ไม่มีหรอกครับ ทวงจัง เอ๋หรือว่าผมต้องจ่ายดอกก่อน เอาไหมครับสักดอก สองดอก..."
"เชี่ย !...ให้โอกาสอีกสามวัน ถ้าไม่มีมึงโดน...กลับกันพวกเรา"
"เอากลับแล้วเหรอ...ว่างๆ อย่าลืมมาวัดไซส์ถุงที่ห้องผมนะ เดี๋ยวผมจ่ายดอกให้ก่อน"