สิบปีก้าวผ่าน ทุกสิ่งล้วนผันเปลี่ยน
เหล่าเด็กน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่
คลื่นลูกเก่ามากมายถูกเงื่อนไขของเวลากลืนกินจนสิ้นสูญ
ของเก่าถูกแทนที่ด้วยของใหม่
ตลาดสดซึ่งเคยเป็นหัวใจของบางเขย่ง บัดนี้ส่อเค้าซบเซาจนหลายชีวิตต่างได้รับผลกระทบถ้วนหน้า
ไจ๋กับพี่สาวรับช่วงกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าดังต่อจากบิดา พวกเขาจึงลอยตัวอยู่เหนือปัญหา
แต่ใช่ว่าเฝ้าร้านไปวันๆ แล้วปัญหาจะไม่พุ่งเข้าใส่เสียหน่อย
ซ้ำร้ายปัญหาที่ว่ายังยกโขยงกันมาเป็นขบวนการ
โดยที่หนึ่งในนั้น คือ บุคคลไม่พึงปรารถนาที่แฝงตัวมาพร้อมกับความยียวนกวนประสาทขั้นสูงสุด...
“ทำไมถึงไม่ไปกับตะวัน”
“คิดว่าอยากมาด้วยนักหรือไง”คนพูดได้ยินเสียงถอนหายใจฟัดเฟียดเลยสวนกลับอย่างไม่ยอมกัน “ก่อนจะถามคนอื่น ช่วยไปคุยกับเพื่อนตัวเองให้รู้เรื่องก่อนดีไหม หน้าจะได้ไม่แหก”
“ปากเสีย! ถ้าพูดดีๆ ไม่เป็นก็หุบปากไปเหอะ”
“นี่ไม่ได้เริ่มก่อนเลยน้า”คุนจุปากพลางส่ายหัวพร้อมกับแค่นหัวเราะเยาะเย้ย “ขนาดอยู่เฉยๆ ไม่ได้เล่นกับหมา หมามันยังหันมาเลียปากได้เลยแฮะ”
“ว่าใครหมา?!”
“เอ๊า! ใครอยากรับก็รับไปสิคร้าบ”
ไจ๋โกรธจนควันออกหูแต่ก็ไม่รู้ว่าจะด่าอย่างไรให้สาสมแก่ความรู้สึกหมั่นไส้ ชายหนุ่มจึงได้แต่แดกดันไปตามระดับทักษะความหยาบคายที่ต่ำต้อยจนน่าน้อยใจ “มีแต่หมานั่นแหละที่เถียงกับหมารู้เรื่อง!”
คนเกิดก่อนฟังคำตอบโต้อย่างจนแต้มของลูกกระต่ายแล้วก็อมยิ้มชอบใจ เขาหักพวกมาลัยเลี้ยวเข้าบ้านหลังใหญ่ที่รั้วด้านหน้าเปิดอ้าคล้ายกับรอต้อนรับการมาเยี่ยมเยือน พร้อมกันนั้นก็โก่งคอร้องเพลงด้วยน้ำเสียงเหน่อสุพรรณจนได้ยินเสียงฮึดฮัดจากแอนตี้แฟนหมายเลขหนึ่งที่ถลึงตามองกันไม่หยุด“สวัสดีครับ ผมก็หมา แฟนผมก็หมา เราสองคนต่างคนต่างหมา เห็นมั้ยล่ะว่าหมากันทั้งสองคน!”
กลับมาตามที่สัญญากันเอาไว้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านภาคแรกของนิยายเรื่องนี้
กดตรงนี้ได้เลยค่ะ เราแปะลิงค์ไว้ให้แล้วเด้อ ^_^
(ถ้าลิงค์ด้านบนใช้ไม่ได้ ลองค้นกูเกิ้ลแล้วมองหาเพจชื่อ A Smile of Silence AKA Malimaru ดูน้า)
ส่วนใครที่ติดตามกันมาตั้งแต่ยุคลูกกระต่ายวัยใสก็ขอต้อนรับกลับบ้านนะคะ
รักทุกๆ คนเช่นเดิม อ่านให้สนุกนะคะ!!