คุณคะ แม่ฉันอยากแต่งงานกับคุณคะ
42
ตอน
17.9K
เข้าชม
47
ถูกใจ
12
ความคิดเห็น
3
เพิ่มลงคลัง

“คุณคะ แม่ฉันอยากแต่งงานกับคุณคะ”

ตอน “วันเดินทางไปเรียนต่อของไอซ์”

“ไอซ์ ไอซ์ ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวไปขึ้นเครื่องบินไม่ทัน ไอซ์

ไอซี่ ไอซี่ ไอศรินทร์ แม่บอกว่าตื่นได้แล้ว ลูกตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เป็นสิบเครื่องมันดังจนหูแม่จะระเบิดแล้วนะจ๊ะ”

“เดี๋ยวกระะะ ได้คะะะะแม่ ไอซ์ขอนอนอีกกกห้านาทีนะคะะะะแม่ ขอไอซ์กอดแม่อีกห้านาทีนะคะแม่ แม่ใจร้ายจัง แม่ไม่คิดถึงไอซ์เหรอคะ แม่ไอใจร้าย แม่ไอส่งไอซ์ไปเรียนตั้งไกล ไอซ์คิดถึงแม่ไอตั้งแต่ยังไม่ได้เดินทางเลยนะคะ”

“ทำไมแม่จะไม่คิดถึงไอซ์ละลูก แม่เป็นแม่ของไอซ์          แม่มีลูกสาวคนเดียว ไอซ์ไม่อยู่แม่ก็ต้องคิดถึง ก็ต้องเหงาแม่ต้องอยู่บ้านหลังใหญ่โต แถมตั้งสองชั้นคนเดียว แม่จะขายบ้านไปเช่าห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ อยู่ดีไหมน้าาาา”

“ไม่เอาอะแม่ ไอซ์มีบาร์บี้ และตุ๊กตาของไอซ์อีกละ แม่อย่าขายบ้านนะ แล้วของที่ปาปี้สะสมไว้แม่จะทำยังไง แล้วถ้าไอซ์กลับมาไอซ์จะไปอยู่ที่ไหนละ ไอซ์รักบ้านรักนี้ ไอซ์รักแม่ไอ รักปาปี้ รักเมืองไทย”

“ถ้าไอซ์รักบ้านรักนี้ ไอซ์ก็ต้องรีบเรียนให้จบเร็ว ๆ ซิจ๊ะ อีกอย่าง แม่ไอบอกแล้วไงจ๊ะ ว่าหลังปีใหม่ แม่ไอลางานได้ แม่ไอจะไปเยี่ยมไอซ์ที่โน่น แม่สัญญานะจ๊ะคนดี ไปอาบน้ำไปลูกไป แม่จะเตรียมนมเปรี้ยวและก็เฟรสโทส แบบที่ปาปี้ไอซ์ ทำให้พวกเราทานดีไหมไอซ์ วันนี้เราสองคนหยุดรักษาหุ่นหนึ่งวันดีไหมจ๊ะไอซ์ กว่าเครื่องจะออกไอซ์จะได้ไม่หิว และไอซ์จะได้มีแรงต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้”

“ไม่เอาหลอกค่ะแม่ ไอซ์ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ เวลาไอซ์งอแงแม่จะได้ให้ไอซ์กินแต่ของหวาน ไอซ์ไม่อยากอ้วน แบบปาปี้แล้วไอซ์ก็ไม่อยากไป ไอซ์ไม่ไป ๆ ไม่ไปมันแล้วเรียนต่อบ้าบออะไรเนี่ย ไอซ์ไม่ไป ไอซ์จะอยู่เป็นควายที่นี่ ไถนาที่บ้านยายที่บ้านนอกก็ได้ ไอซ์ไม่ไป ไอซ์จะนอน แม่อยากไปสนามบินแม่ก็ไปคนเดียว ไอซ์โกรธแม่แล้วด้วย ไอซ์มีแม่ใจร้าย มีพ่อก็ใจร้าย ตัวเองไม่อยู่ยังฝากฝังเพื่อนตัวเองไว้อีก ถ้าไอ้รู้ว่าจดหมายบ้า ๆ นั่นทำให้ไอซ์ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ไอซ์ขวางทิ้งไปดีกว่า”

“ถึงเราไม่ได้รับจดหมายจากเพื่อนของปาปี้ แม่ก็ต้องส่งไอซ์ไปเรียนเมืองนอกอยู่ดี ก็ปาปี้สั่งแม่ไว้แบบนั้น ไอซ์คนเก่ง คนสวยของแม่ ไอซ์เป็นเด็กดีของแม่มาตลอด ไอซ์อย่างอแงนะลูก ปาปี้กับแม่ไอทำเพื่ออนาคตของลูกนะจ๊ะ แล้วไอซ์เองก็อยากเรียนดีไซด์ไม่ใช่เหรอ ความฝันของไอซ์ไม่ใช่เหรอจ๊ะ ที่อยากเป็น ดีไซด์เนอร์ชื่อดัง แล้วความฝันของแม่ละ ถ้าไอซ์ไม่ไป แล้วแม่จะได้ลายเซ็นของฟิลลิปส์แฟนแม่ได้ยังไงกันน้า แม่ไอผู้น่าสงสาร แม่คงจะต้องตายไปแบบแห้งเหี่ยวตาย แบบหมดสิ้นความหวังเป็นแน่แท้  โถแม่ไอผู้น่าสงสาร แม้แต่ลายเซ็นต์ดาราคนโปรดแม่ก็คงจะไม่ได้เห็นในชาตินี้”

“แม่พูดแบบนี้อีกแล้ว ก็ได้ ๆ ไอซ์จะทำเพื่อแม่ ไอซ์ทำเพราะว่าไอซ์กลัวแม่แห้งเหี่ยวตายหลอกนะ ลำพังไอซ์เอง ไอซ์เป็นควายไถนาได้อยู่แล้ว งั้นแม่ต้องสัญญากับไอซ์นะว่าแม่จะไปเยี่ยมไอซ์ทันที ที่แม่ลางานได้ ห้ามเบี้ยวด้วย ไม่งั้นไอซ์จะดื่อและไม่ฟัง สองคนผัวเมียเพื่อนของปาปี้เลยด้วย ไอซ์ไม่ได้พูดเล่นนะแม่ ถ้าแม่ไม่ไปหาไอซ์หลังปีใหม่ ไอซ์จะหนีกลับเมืองไทย แล้วไม่มาบ้านหลังนี้อีกเลยคอยดูนะ ไอซ์จะหนีไปให้แม่ไอ ตามหาไอซ์ไม่เจอเลยด้วย”

“จ๊ะแม่ไอสัญญา แม่ไอไม่เบี้ยวเด็ดขาด ไปอาบน้ำนะคะ เดี๋ยวแม่ไปเตรียมอะไรให้ไอซ์กินนะคะ ไอศรินทร์คนสวยของแม่ไอ มาให้แม่ไอหอมก่อนมาเร็ว คราวนี้หอมแบบครบชุดเลยนะ หน้าผาก แก้มข้างขวา แก้มข้างซ้าย จมูก ปาก ชื่นใจที่สุดในโลกเลย อย่าลืมสระผมด้วยนะลูก อยู่บ่นเครื่องบินนาน ๆ มันจะได้สบายตัว วันนี้แม่ไอจะเก็บที่นอนให้เองนะจ๊ะคนสวยของแม่ไอ”

“ก็ได้ ไอซ์รักแม่ไอที่สุดในโลกเลย”

สองคนแม่ลูก ไอรดา และไอศรินทร์ มาถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง เพราะว่าไอรดา เปลี่ยนนาฬิกาปลุกทุกเครื่องในบ้าน ให้เดินเร็วไปหนึ่งชั่วโมง เพราะว่าเธอรู้ว่าลูกสาวจอมขี้เซาของเธอจะต้องงอแง

และก็มีพิธีรีตรอง หลายขั้นตอนกว่าจะตื่นนอนได้ จนถึงสนามบิน ไอศรินทร์ก็ยังไม่รู้ตัว แต่เธอก็มองดูที่นาฬิกา  ข้อมือของเธอมันบอกเวลาเจ็ดโมงครึ่งเช้า ไอซ์เด็กสาวที่ยังคงมีอาการเศร้าเสียใจ ทำหน้างง ๆ กับเวลาที่เธอเห็นนาฬิกาของสนามบิน

“แม่ไอ นาฬิกาของไอซ์มันคงจะเสียและ มันเดินช้าไปตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง โอ้ย รางไม่ดีเลยแม่ไอ ไอซ์ว่าเราไปเปลี่ยนตั๋วเครื่องบินกันดีกว่านะแม่ โบราณว่าจิ้งจกทักเรายังต้องฟังเลย แต่นี้ นาฬิกาเรือนโปรดของไอซ์มันเสียนะแม่ มันอยู่กับไอซ์มาตั้งแต่ไอขึ้นมอหนึ่งเลยนะ แม่ไอเป็นคนซื้อให้ไอซ์ด้วยเรือนนี้”

“ไม่ใช่หลอกลูก ไหนให้แม่ไอดูซิว่ามันเดินหรือเปล่า มันก็เดินนี่จ๊ะลูกไอซ์ แม่ว่าเราลองดูนาฬิกาของสนามบินดีไหม เพราะว่านาฬิกาสนามบินไม่เสียแน่นอน”

“ก็ไอซ์เห็นนาฬิกาของสนามบินนะซิคะแม่ ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงครึ่ง เวลาเดียวกับนาฬิกาไอซ์เปี๊ยะเลย สงสัยนาฬิกาบ้านเราจะเสียเนาะแม่ไอว่าไหม เดินเร็วไปเกือบชั่วโมง แต่ก็แปลกนะแม่ไอว่าไหม มันเสียทั้งบ้านเลย”

“จ๊ะแม่คงต้องไปตั้งใหม่หมดเลย ไม่งั้นแม่คงไปทำงานแต่ไก่โฮ่แน่ ๆ เลยพรุ่งนี้”

“แปลกจังนะคะแม่ ปกตินาฬิกาบ้านเราเดินตรงจะตาย แต่ว่าวันนี้ดันมาเดินเร็วสะอย่างงั้น เหมือนกับว่าใครไล่เปลี่ยนเวลานาฬิกาทั้งหมดในบ้านของเรา”

“บ้าน่าไอซ์เหลวไหล นาฬิกาบ้านเราเป็นสิบ ๆ เรื่อน ไหนจะนาฬิกาปลุกของไอซ์อีก ใครจะไปเปลี่ยนไหว ใครทำไหวก็บ้าแล้ว แม่ไม่เอาด้วยคนหลอก เหนื่อยเปล่า ๆ”

“นั่นซิ แม่ไอนะขี้เกียจจะตาย วัน ๆ ก็เอาแต่นอน ขนาดให้กินยังไม่ค่อยจะกินเลย แม่ต้องสัญญากับไอซ์นะว่าแม่จะกินข้าวให้ครบสามมื้อ และก็ออกกำลังกายเข้ายิมที่โรงแรม ก่อนกลับบ้าน และก็เปิดสไกป์ทุกวันตอนเช้าหลังตื่นนอน เช็คข้อความ และก็ห้ามกลับบ้านเกินห้าทุ่ม ไอซ์จะโทรกลับมาเช็คแม่ไอทุกวันเลย เป็นแม่ที่ดีของไอซ์นะคะ เออแม่ ไอซ์ว่าหลังจากเช็คกระเป๋า ก่อนไอซ์เข้าไปข้างใน เราไปหาอะไรกินกันดีไหม ไอซ์จะหาซื้อหนังสือด้วย จะได้นั่งอ่านบ่นเครื่องแก้เบื่อนะคะ”

“เอาซิจ๊ะ ไอซ์อยากได้หนังสือ หรืออะไรก็ได้ วันนี้แม่ไอจ่ายไม่อั้นเลย เอาเงินส่วนของแม่ไอจ่ายก็ได้นะ ไอซ์จะได้มีเงินสดติดตัวไปเยอะหน่อย เพื่อว่าตอนต่อเครื่องจะได้เอาไว้ซื้ออะไรทานดีไหมจ๊ะ เก็บเงินแยกกันอย่างที่แม่ไอบอกหรือเปล่า แล้วกระเป๋าใบนี้สะพายติดตัวตลอดเลยนะลูก บัตรเครดิต บัตรเดบิตก็เก็บให้ดี อย่าใช้แล้วลืมเหมือนครั้งก่อนละ รู้ใช่ไหมว่าถ้าลืมต้องทำอย่างไง โทรไปธนาคาร ก่อนโทรหาแม่”

“จ๊ะแม่ไอ พูดแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ ไอซ์จะท่องได้อยู่แล้ว เรื่องเงินซื้อของเดี๋ยวไอซ์จัดการเอง ไอซ์กับแม่เราแบ่งเงินเดือนเท่ากัน ถ้าไอซ์ใช้ส่วนของแม่เดือนนี้ แม่ก็ต้องกินอย่างประหยัดอีก ไม่เอา ๆ ไม่ยุติธรรม เอาอย่างนี้นะแม่ไอจ่ายส่วนของแม่ไอ ไอซ์ก็จะจ่ายส่วนของไอซ์ เราสองคนจะได้ไม่ต้องได้เปรียบหรือเสียเปรียบดีไหม ไอซ์ขอบคุณแม่ไอมากนะ ที่ยุติธรรม แบ่งเงินเดินของแม่ ให้ไอซ์ใช้ตั้งครึ่งหนึ่งทุกเดือน จริง ๆ แม่ไม่ต้องให้เงินไอซ์ก็ได้ เงินที่ปาปี้ฝากให้ไอซ์ ก็พอใช้ไปทั้งชาติแล้วมั้งแม่ไอ”

“ไม่ได้นะจ๊ะไอซ์ แม่บอกหลายครั้งแล้วว่าห้ามคิดแบบนั้น เราจะใช้เงินที่ปาปี้ของไอซ์ให้ไว้แบบไม่มีเหตุผลไม่ได้    เงินนั่นเป็นทุนการศึกษาของไอซ์ และก็เป็นเงินที่ไอซ์ต้องเก็บเอาไว้เลี้ยงชีพ ตอนที่แม่ไอไม่ได้อยู่กับไอซ์ วันหนึ่งไอซ์ของแม่ไอ ก็ต้องแต่งงานมีครอบครัว ตอนนั้นแม่ก็คงจะทำงานไม่ไหวแล้ว ตอนนี้แม่ยังมีแรงทำงาน ยังหาเงินให้พวกเราสองคนพอกินพอใช้”

“โอเคคะแม่ไอ ไอซ์พูดเรื่องเงินทีไร แม่ไอพูดแบเดิมประโยคเดิม ๆ ซ้ำ จนไอซ์ท่องได้แล้วนะคะ ไอซ์สัญญาว่าจะรู้จักค่าของเงิน เคารพเงิน ไม่ขยำเงินเล่น และใช้เงิน   แบบมีเหตุผล และใช้เท่าที่จำเป็น และก็แบ่งปันกับคนที่ด้อยโอกาสตามสมควร และไอซ์ก็จะไม่ใช้ของแพง หรือกินของแพง และไอซ์ก็จะทำบัญชีใช้จ่ายเหมือนอย่างที่แม่ไอทำทุกเดือนดีไหมคะ”

“จ๊ะไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เอาเป็นว่าไอซ์ใช้เงินเท่าที่ไอซ์จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำ และในการเรียน ใช้ให้มันเหมาะสมแค่นั่นก็พอแล้วละจ๊ะ อีกอย่างอย่าลืมนะจ๊ะไอซ์

ไอ้ต้องเชื่อฟังเพื่อนของพ่อ คิดเสียว่าเขาเป็นปู่ย่าตายายและก็อย่าถือวิสาสะ หยิบของใช้ในบ้านเขาโดยไม่ขออนุญาติ หรือถามหาเจ้าของก่อนนะลูก อย่าทำตัวเกเรให้เสียชื่อปาปี้พ่อของลูกได้”

“คะแม่ไอ กระเป๋าไอซ์มีแค่ใบเดียวไม่ใช่หรือคะแม่ ทำไมวันนี้ไอซ์มีกระเป๋าสองใบ แถมใบนี้ก็ใหญ่กว่าใบของไอซ์อีกนะคะแม่ไอ ไอซ์ไปเรียนต่อนะคะไม่ได้ไปขายของชำ”

“เอาน่า ก็ใบนี้เป็นของที่แม่เตรียมไว้ให้ไอซ์ไง ของจำเป็นที่ไอซ์ต้องใช้ ในเวลาจำเป็น และก็ของบางอย่างที่ไอซ์ลืมเอาไป แม่คิดว่าไอซ์จำเป็นต้องใช้ ถึงแม้ว่าแม่ไอไม่เคยได้ไปอยู่ต่างประเทศนาน ๆ แต่แม่ก็เคยไปเที่ยวต่างประเทศกับปาปี้ของไอซ์อยู่บ่อย ๆ แม่ไอพอจะรู้ว่าไอซ์ต้องการอะไรเวลาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง และเวลาที่ไอซ์ไปอยู่ใหม่ ๆ”

“คะ แม่ไอของไอซ์เป็นฮีโร่ของไอซ์เสมอ ถ้าไอซ์ไม่มีแม่สักคนไอซ์จะอยู่บ่นโลกใบนี้ได้ไหมน้า เฮ้อแล้วไอซ์จะทำยังไงเวลาที่ไอซ์ต้องการความช่วยเหลือเวลาไอซ์อยู่ที่โน่นะละคะแม่ไอ ไม่รู้ว่า มิสเตอร์และมิสซิส เฮ็นดี้ จะเป็นยังไงก็ไม่รู้”

“แม่ว่าสองผัวเมียคู่นั้นใจดีออก แม่เคยเจอเขาสองคนตอนที่เขามาเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อน แม่เชื่อว่าเขาจะช่วยลูกทุกอย่างถ้าลูกรู้จักที่จะถามขอความช่วยเหลืออย่างสุภาพชน ขนาดปาปี้เสียไปตั้งนาน พวกเขาสองคนยังรักษาคำพูด เขียนจดหมายมาบอกว่าเขาสัญญากับปาปี้ไว้ ถ้าเขาทำเป็นเพิกเฉยพวกเราสองคนก็ไม่รู้จริงไหมจ๊ะ มิสซิสเฮ็นดี้ ยังส่งอีเมลล์มาหาแม่ว่า เขาจะไปรับลูกที่สนามบินที่แอลเอ และก็จะพาลูกไปหาซื้อของใช้ที่จำเป็น ถ้าลูกไม่เหนื่อยจากการเดินทางมากจนเกินไป”

“หนูก็หวังว่าพวกเขาจะเป็นอย่างที่แม่กับที่ปาปี้สองคนคิดนะคะแม่ไอ”

“ก็ถ้าลูกไอซ์ของแม่งามอย่างมีคุณคุณค่าสมกับเป็นลูกสาวของปาปี้และแม่ไอ ใครที่ไหนจะไม่หลงรักลูกสาวของแม่” “คะ ไอซ์จะเป็นสาวไทยที่งามอย่างมีคุณค่า ด้วยราคาน้ำอัดลม ใช่ไหมคะแม่ไอ ไอซ์ฟังไม่ค่อยถนัด”

“ก็แหมแม่ไอเล่น บ่นยาวเหยียด จนไอซ์เริ่มเบื่อแล้วนี่คะ ไอซ์ฟังที่แม่พูดแบบนี้ ซ้ำไป ซ้ำมา ไอซ์นะหัวดีนะคะ จำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่แม่พูดแล้ว ร้านหนังสือร้านนั้นดูเหมือนจะมีหนังสือเยอะแยะเลยคะ ไอซ์เดินนำไปก่อนนะคะ”

“จ๊ะ เดี๋ยวแม่จะซื้อของกินเล่นไปให้นะจ๊ะ แล้วไอซ์มีหมากฝรั่งมาหรือเปล่า เวลาขึ้นเครื่องจะได้หูไม่อื้อไง”

“ไม่มีคะ เดี๋ยวไอซ์จัดการเองคะแม่ ร้านหนังสือคงมีหมากฝรั่งขาย แม่ไออย่าซื้อขนมมาเยอะนะคะ บ่นเครื่องเขาก็มีอาหารให้อยู่แล้ว ไอซ์ขี้เกียจถือนะคะ”

“จ๊ะรอแม่ที่ร้านหนังสือนะ แม่จะไปหาห้ามเดินไปร้านอื่น และก็เปิดมือถือด้วยนะจ๊ะ เพื่อว่าแม่จะหาไม่เจอ”

 

ถึงเวลาที่สองคนแม่ลูกจะต้องลากันจริง ๆ ทั้งสองคนแม่ลูก กอดกันด้วยน้ำตาที่เต็มใบหน้า หลังจากที่ไอซ์เดินเขาจุดตรวจคนออกนอกประเทศ ไอซ์ก็กลายเป็นเด็กสาวที่ซึมเศร้าเงียบครึมไปทันที ไอซ์เดินไปถึงที่ประตูห้องรอผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

“ฮะโหล แม่ไอหรือคะ แม่ไอ โทรมาหาไอซ์จะเป็นสิบรอบแล้วนะคะ ตกลงแม่จะให้ไอซ์ไปหรือเปล่า ไอซ์ยิ่งไม่อยากไปอยู่นะ เดี๋ยวไอซ์ก็วิ่งออกกลับไปหาแม่ไอเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่รู้ละ ถ้าแม่ไอโทรมาหาไอซ์อีกครั้งหนึ่งไอซ์จะเปลี่ยนใจแล้วก็ไม่ไปแล้วด้วย คนย่ิงคิดถึงอยู่นะ แม่ไอทำแบบนี้ไอซ์ใจหายรู้ไหมคะ เอาไว้ไอซ์ถึงที่เซียงไฮ้แล้วไอซ์จะโทรหานะคะ ไอซ์ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนตั้งหลายครั้งแม่ไม่เห็นโทรหาไอซ์แบบนี้เลย”

“ก็แม่รู้ว่าไอซ์ไปกับเพื่อน เป็นกลุ่ม มีอาจารย์ไปด้วย ไปอาทิตย์เดี๋ยวไอซ์ก็กลับ แต่ครั้งนี้ไอซ์ไปหลายปีเลย แล้วแม่ไอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ไปหาไอซ์ กว่าจะปีใหม่ก็ตั้งสามสี่เดือนแม่ก็ต้องคิดถึงไอซ์เป็นธรรมดาซิจ๊ะ”

“เอ๊าแล้วแม่ไอซ์จะร้องไห้ทำไมละคะ ไอซ์บอกแล้วไงว่าไอซ์ย่ิงไม่อยากไปอยู่นะ”

“จ๊ะ แม่ไอจะไม่โทร ไม่ร้องไห้ ไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ แต่ไอซ์ต้องสัญญานะว่า ไอซ์จะโทรหาแม่ตอนที่ไอซ์ต่อเครื่องที่เซียงไฮ้ แม่จะรอโทรศัพท์นะ โทรมาหาแม่ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ และก็อย่าลืมถ่ายส่งมาให้แม่ดูด้วยนะจ๊ะ”

“แม่เขาประกาศเรียกแล้ว ไอซ์ไปแล้วนะ ไอซ์ต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว ไอซ์รักแม่นะ ไอซ์รักแม่มากที่สุดในโลกเลย แล้วไอซ์จะโทรหานะคะแม่ไอราดา คนสวยของไอซ์”

หลังจากที่ไอซ์ ไอศรินทร์ แม็คคอย ขึ้นเครื่องบินไปแล้ว

ไอรดา ก็ยังคงไม่ได้ขับรถออกจากลานจอดรถ เธอยังคงนั่งร้องไห้ คิดถึงลูกสาวของเธอด้วยหัวใจที่เศร้าส้อย ไอรดา อยู่กับไอศรินทร์มาตั้งแต่สามีของเธอจากไป โดยที่เธอไม่เคยคิดที่จะมองใคร หรือหาใครมาแทนที่สามี ของเธอ แอลลี่อาจจะเป็นสามีที่มีอายุแก่กว่าเธอหลายรอบ แต่เขาก็ไม่ได้ทำตัวแก่ตามอายุ ตลอดเวลาที่เธออยู่กับแอลลี่สามีของเธอ เธอมีความสุขดี และได้รับการดูแลเอาใจจากสามีของเธอ จนเธอไม่เคยคิดว่าสามีของเธอนั้นแก่คราวพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดี่ยว

“แอลลี่คะ ถ้าคุณยังอยู่ป่านนี้เราคงได้มาส่งไอซ์ลูกสาวเราไปเรียนต่อด้วยกัน ป่านนี้เราคงจะยืนบอกมือลาลูกไอซ์ด้วยรอยยิ้ม วันนี้ฉันกลับบ้านไปฉันคงจะเหงาและคงจะนอไม่หลับไปอีกหลายวัน คุณช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะคะ ฉันจะทำตัวให้เข็มแข็ง เหมือนกับลูกไอซ์คะ ฉันสัญญา”

“ไอซ์ นั่งหลับบ่นเครื่องบิน จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปจนถึงเซี่ยงไฮ้ โอยที่ไม่ได้ดื่มแม้แต่น้ำสักแก้ว จนพนักงานต้อนรับบ่นเครื่องต้องมาปลุกให้เธอเตรียมตัวลงจากเครื่อง เพราะว่าเครื่องกำลังจะลงจอดอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีข้างหน้าด้วยความเป็นห่วง

“คุณคะ คุณคะ เครื่องบินของเราจะแลนดิ้งอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีแล้วนะคะ คุณต้องการจะดื่มน้ำหรือว่าต้องการจะให้ดิฉันช่วยกรอกเอกสารผ่านประเทศไหมคะ คุณจะลงที่     เซียงไฮ้ หรือว่าต่อไปประเทศอื่นคะ”

“ต่อไปอเมริกาคะ คือฉันจะขอน้ำดื่มสักหน่อยได้ไหมคะ พอดีว่าฉันเหนื่อยก็เลยหลับตลอดทางเลย”

“คะรอสักครู่นะคะ พี่เห็นน้องร้องไห้ตลอดทางเลย จนหลับไป มีอะไรให้พี่ช่วยไหมคะ คงจะคิดถึงเมืองไทยมากซิคะ

ไปเรียนต่อเหรอคะ พี่เห็นน้องหลายคนมักจะร้องไห้ตอนขึ้นเครื่องบินไปครั้งแรก พออยู่นาน ๆ ก็ไม่มีใครอยากจะกลับ ติดใจบ้านเมืองเขากันทั้งนั้นเลย พี่ก็เขยเป็นแบบน้อง สู้สู้นะคะ พี่ขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำดื่มขวดเล็กมาให้นะคะ น้องจะได้เอาติดไปเดิมหลังจากลงจากเครื่องด้วย น้องหิวไหม อาหารก็ไม่ได้ทานพี่มีสเน็คสนใจไหมคะ เป็นของพี่เองนะคะพี่จะแบ่งให้น้อง ร้องไห้เป็นชั่วโมงคงเหนื่อย โชคดีนะคะที่วันนี้เบาะข้างน้องว่าง เพราะว่าผู้โดยสารไม่เต็มในเที่ยวนี้ ถ้าเป็นเที่ยวบ่ายน้องคงจะอึดอัดแย่เลย”

“พี่ใจดีจังคะ สวยด้วย แต่นี่ไม่ใช่สายการบินของไทย ทำไมพี่ถึงมาทำงานสายการบินนี้ได้ละคะ”

“อ้อก็พี่เป็นลูกครึ่งไทย กับจีนนะคะ สายการบินนี้ ถ้าพูดภาษาได้สามภาษาก็สามารถบินกับสายการบินนี้ได้ จีนกลาง และไทย และอังกฤษนะจ๊ะ น้องสนใจอยากเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเหมือนกันหรือค่ะ อย่างน้องพี่ว่าเป็นได้สบายเลยนะคะ สวยและก็สูงแบบนี้ พี่ขอเดานะ น้องต้องเป็นลูกครึ่งแน่เลย พี่เห็นจมูกของน้องแล้วพี่อยากจะขอเก็บเอาไว้ใช้เองจังคะ”

ไอซ์ รู้สึกดีขึ้นทันที หลังจากได้ดื่มน้ำจากพี่สาวคนสวยที่มานั่งคุยด้วยกับเธอก่อนที่เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ แสดงว่าพนักงานสายการบินนี้ สนใจผู้โดยสาร ขนาดว่าไอซ์แอบร้องไห้เงียบพี่คนสวยของเธอยังสังเกตุเห็นและยังเขามาพูดปลอบใจ ทำให้ไอซ์รู้สึกดีขึ้นได้อย่างประหลาดใจ การเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง บางครั้งได้คนที่พูดภาษาเดียวกันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ ไม่ใช่ญาติก็เหมือนกับญาติกัน เวลาอยู่ต่างถิ่น คนไทยไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้ว เวลาที่นึกสถานการณ์ที่ขับขัน คนไทยมักจะผ่านมันไปได้ด้วยดี นั่นเป็นความคิดของไอซ์ในตอนนั้น หลังจากไอซ์ยืนขึ้นและเตรียมจะเดินต่อคิวลงเครื่องพี่สาวคนสวยของเธอก็ยังบอกลา และขอบคุณ พร้อมอวยพรให้ไอซ์โชคดีในการเดินทางด้วย ทำให้ไอซ์ใจชื้นขึ้นเยอะ

ไอซ์มองดูนาฬิกา เมื่อกี้กับตันประกาศเวลาท้องถ่ิน ไอซ์เลยมองดูนาฬิกาของเธอ เธอยังพอมีเวลาที่จะเดินเล่นเตร็ดเตร่ไปได้อีกสามสี่ชั่วโมง ก่อนที่จะต้องขึ้นเครื่องอีกครั้งหนึ่ง เธอจึงรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ และก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่แม่ของเธอเปิดให้ใช้โทรออกต่างประเทศได้ชั่วคราวเพื่อสะดวกในการติดต่อ

“โทรหาแม่ไอดีกว่า ป่านนี้นอนร้องไห้ขี้มูกโปร่งแล้วมั้ง”

“ไอซ์หรือลูก ไอซ์เป็นยังไงลูก นั่งเครื่องสนุกไหม แล้วไอซ์หลับบ่นเครื่องเหมือนเคยหรือเปล่า แล้วกินอะไรบ้างหรือยัง แม่รอโทรศัพท์ไอซ์อยู่ ไอซ์จะทำอะไรจ๊ะ ต้องรอเครื่องอีกตั้งหลายชั่วโมง แม่ขอโทษนะลูกที่แม่เลือกซื้อตัวเครื่องบิ่นที่ราคาไม่แพงมาก ลูกไอซ์เลยต้องนั่งรอต่อเครื่องตั้งเกือบสี่ชั่วโมง แม่ขอโทษนะจ๊ะ นี่แม่ไองกไปหรือเปล่า แม่นี่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม ลูกไอซ์ไม่ได้เดินทางบ่อย ๆ ซะหน่อย เพ่ิมเงินอีกหน่อย ป่านนี้ไอซ์ของแม่ก็คงได้ขึ้นเครื่องไปแล้ว ไอซ์เลยต้องตื่นแต่เช้า และก็ต้องรอต่อเครื่องอีก แม่ว่า”

“แม่ไอ แม่ให้ไอซ์พูดบ้างซิจ๊ะ แม่คิดมากไปหรือเปล่า ก่อนที่เราจะจองตั๋ว แม่ก็ถามไอซ์แล้ว แล้วก็อธิบายให้ไอซ์รู้แล้วว่าไฟส์ไหน ต้องต่อกี่ชั่วโมง และเหตุผลของแม่มันก็ดี

จะจ่ายแพงกว่าเป็นหมื่น ทำไม ในเมื่อไอซ์ก็ไม่ได้รีบร้อน อีกอย่างไอซ์ เคยไปที่เบจิง ไอซ์ได้ลงมาต่อที่เซียงไฮ้ก็ดีออกนี่แม่ ไอซ์จะได้เดินดูของ แม่อย่าคิดมากนะ ไอซ์ต่อแล้วนะแม่ ลำบากอะไรที่ไหน ไอซ์ไม่ยกของสักหน่อย ไอซ์เดินเล่นได้ตั้งหลายชั่วโมง แต่ว่าไอซ์ต้องไปผ่านซีคิวริตี้อีกรอบแล้วนะแม่ ที่นี่มันเหมือนกันหมด ต้องเช็คไหมหมด เดี๋ยวไอซ์ไปต่อแถวก่อนนะแม่ แค่นี้ก่อนนะ ใกล้ถึงคิวไอซ์แล้ว ไอซ์เห็นหน้าพวกเจ้าหน้าที่ดูแล้วมันไม่ค่อยจะเป็นมิตรเลยนะแม่ ไอ้ประเทศนี้มันเป็นอะไรของมัน มากี่รอบก็เหมือนเดิม มันไม่คิดจะทำให้ประเทศมันเปิดเหมือนประเทศอื่นเขาบ้างเลยเนาะ ดูฮ่องกงซิแม่มันยังดีกว่านี้ เราไม่เห็นต้องผ่านจุดบ้าบอเลย แค่มาต่อเครื่องนะเนี่ยเฮ้อ”

“แม่ดีใจจัง ตอนนี้แสดงว่าลูกสาวแม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว พูดเก่งเหมือนเดิม ขี้บ่นเหมือนเดิม จ๊ะไปเถอะ ยิ้มไว้ลูก ยิ้มให้เจ้าหน้าที่มันอายไปเลย ลูกแม่ยิ้มแล้วสวยจะตาย  แล้วก็เอาพลาสป็อตอเมริกาให้มันตรวจนะลูก มันจะได้ให้ผ่านไว ๆ พวกนี้มันบ้าของนอก พ่อบอกแม่ว่าให้ทำแบบนั้นจำได้ไหม ใช้พาสป็อตของอเมริกานะลูก”

“จ๊ะแม่ ไอซ์จัดเต็มแน่นอน จะฝึกพูดภาษาอังกฤษซะหน่อย ฮะฮะ ไอซ์จะได้พูดภาษาอังกฤษแบบกะแดะสักทีดีไหมแม่”

“จัดเต็มเลยลูก สู้สู้นะคะ ไอเลิฟยูนะคะ”

“ไอ เลิฟ ยู ทู บ๊าย มัม”

ไอซ์ผ่านการตรวจ อย่างง่ายดายหลังจากที่เธอโชว์พลาสป็อตของอเมริกา เป็นอย่างที่พ่อของเธอบอก ว่าประเทศแถบเอเชีย ชอบเอาใจต่างชาติมากกว่าเอเชียด้วยกัน ถ้าโชว์พาสป็อตไทย ก็คงจะถามหลายคำถามกว่านี้ แน่นอน พวกนี้ยิ่งไม่ค่อยมีมารยาทอยู่ด้วย ไอซ์เธอคิดในใจ และนึกถึงพ่อของเธอเอามาก ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะได้อยู่กับพ่อเพียงแค่ หกเจ็ดปี แต่เธอก็ผูกพันกับพ่อของเธอมากไม่แพ้แม่ของเธอ

ทุกอย่างดูเหมืนว่าจะไปได้ด้วยดี แต่ว่าไอซ์เกิดปัญหาเสียแล้ว เพราะว่าตั๋วที่นั่งของเธอ ดันไปซ้ำกับผู้โดยสารชาวอเมริกันท่านหนึ่ง ที่ทำท่าโมโห มองหน้าเธอด้วยความไม่เป็นมิตร และก็พูดใส่หน้าเธอเป็นภาษาอังกฤษ

“เด็ก ๆ อย่างเธอคงจะไม่รู้หลอกว่า ฉันนะมีธุระด่วนต้องทำ ฉันต้องการไปเที่ยวบินนี้ จะให้ฉันมานั่งรอ เที่ยวต่อไปฉันคงไม่เอาด้วย ถ้ายังไง ฉันขอไปเที่ยวบินนี้ก็แล้วกันนะ”

พนักงานประจำเคาว์เตอร์ ได้ยินเช่นนั้นก็เลยจัดการให้ผู้โดยสารที่เจ้าอารมณ์นั้นได้ที่นั่งไป แต่ว่าเธอขยิบตาให้กับไอซ์ แบบว่าสงสัญญานว่ารอแป๊บเดี๋ยวเขาจะจัดการให้

“ขอโทษนะครับ ทางสายการบินของเราต้องขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอนาน เราขอตอบแทนด้วยการ อับเกรดตั๋วของคุณเป็นตั๋วชั้นเฟริสคลาส โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่างใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าผมยังไม่ได้ยินคุณพูด หรือต่อว่ากับผมเลยสักคำ ขอบคุณมากนะครับ ที่เป็นผู้โดยสารที่ใจเย็นที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ขอให้มีความสุขกับการเดินทางนะครับ อีกครึ่งชั่วโมง เราจะเรียกผู้สารเฟริสคลาสก่อน นั่นก็แสดงว่าผู้โดยสารท่านก็คงจะได้ขึ้นเครื่องทีหลังคุณ”

“ขอบคุณมากคะ ฉันทราบซึ้งในน้ำใจที่คุณปรับตัวเฟริสคลาสให้ฉัน ตั้งแต่ฉันเสียพ่อไป ฉันก็เดินทางโดยชั้นประหยัดมาตลอด คุณทำดีมากคะ”

 

ไอซ์โต้ตอบ กับพนักงาน ด้วยภาษาอังกฤษ อย่างแคล่วคล่อง และก็พูดภาษาอังกฤษได้ดี จนดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นผู้โดยสารที่มาจากเมืองไทย โดยเฉพาะหน้าตาของไอซ์ก็ออกไปเกินครึ่งฝรั่งในสายตาของผู้พบเห็น นอกจากผมสีดำของเธอแล้ว อย่างอื่นไอซ์ก็คือฝรั่งคนหนึ่งนั่นเอง จึงทำให้ไอซ์รู้สึกมั่นใจ และกล้าพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่อาจารย์ หรือเพื่อน ๆ คนไทยของเธอ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว