คุณๆที่รักคะ...
เรื่องนี้เป็นนิยายไทยพีเรียดแนวชิงรักหักสวาท
เขียนขึ้นมาด้วยเจตนาให้คนอ่านย่อยง่ายไม่ซับซ้อน
เป็นเรื่องราวของพระยาหนุ่มผู้เถรตรง กับเชลยสาวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
บังเอิญพลาดท่าตกมาเป็นเชลยของพี่พระยาใจร้าย
ต้องจำใจถูกลงทัณฑ์ด้วยรสรักอันแสนหวาน
เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นเช่นไร ตามมาเอาใจช่วยแม่เฟื่องคนงามได้ ใน “ทาสรักเรือนพระยา” หน้าถัดไปค่ะ
***********************
วิ่งมานานก็ยิ่งเหนื่อยหอบ รู้สึกจุกเสียดแล่นเป็นริ้วขึ้นมาถึงลิ้นปี่ ทั้งในลำคอก็แห้งผากกระหายนัก เฟื่องจึงเลือกที่จะหยุดใต้โคนตะเคียนแลยืนค้ำกายหอบเหนื่อยอยู่อย่างนั้น
“หมดแรงแล้วฤา พี่นึกว่าน้องจักวิ่งได้ไกลกว่านี้เสียอีกหนา...”
เสียงบุรุษที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ดึงหัวใจของเฟื่องให้ร่วงลงมาถึงตาตุ่ม นางไม่คิดเลยว่าทัพจะตามมาดักหน้า นึกใจหายที่แผนชักจูงความสนใจของป้าจวงและนิ่มหลอกล่อเขาไม่ได้ตามประสงค์
“หน้าซื่อตาใส...ไม่นึกเลยว่าน้องจะอำมหิตคิดแค้นได้ถึงเพียงนี้ ต่อหน้าพี่เอามารยาเข้าหลอกล่อ แสร้งวางท่าพูดจาดีให้รับแม่เพ็งเข้าร่วมเรือน แล้วไยจึงซ้อนแผนทำแกงพิษให้เขากินจนตายเล่า?”
ทัพเหยียดยิ้ม ก่อนจะล้วงเอาเชือกเส้นหนึ่งออกมาจากชายพก จับเชลยสาวที่หันหลังพิงต้นไม้ทั้งน้ำตามัดมือไว้ เฟื่องที่หมดทางขัดขืนก็ได้แต่ยืนร้องไห้ ปล่อยให้เขาพันธนาการและอุ้มตนเองไปวางบนหลังม้า ที่ผูกซ่อนอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นเท่าใดนัก
“มีเรื่องหนึ่งต้องบอกให้กระจ่าง ก่อนมาไล่ล่าหาตัวน้อง หลวงพิเภกได้กล่าวมอบสิทธิ์ขาดให้แก่พี่แล้วทั้งหมด ท่านบอกว่าแม้นว่าพี่จับตัวน้องคืนมาได้ พี่จักเอาไปต้มยำแกงเยี่ยงไร ล้วนได้หมด” เขากระโดดตามขึ้นมาบนหลังม้า นั่งซ้อนกายประกบจากทางด้านหลัง มือซ้ายโอบรั้งเอวเชลยเข้ามาจนชิดกาย ก่อนจะกระซิบตามมาอีกคำรบหนึ่ง จนคนฟังถึงกับสั่นสะท้านแหละหวาดกลัวถึงขีดสุด
“เพราะเหตุนี้ พี่จึงคิดวิธีสอบสวนสนุกๆ รอน้องไว้เยอะเลย ช่วงนี้ก็พักอยู่ที่เรือนพี่ไปก่อนหนา รับรองได้ว่าทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีกแม่...”