"Friend with benefit!!? พี่หมายถึงอยากมีอะไรกับผมอีกเรื่อยๆ แต่จะไม่คบกันเป็นแฟนอ่ะเหรอ"
"ใช่ เฮ้ย ไม่ใช่ดิ เอ่อ ไม่ได้หมายถึงอยากมีเรื่อยๆ แต่พี่จะพูดว่าให้คิดว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ one night stand ระหว่างเรามันก็ไม่ใช่แบบนั้นไง คือเราก็จะไม่ได้เจอกันครั้งนี้ครั้งเดียวใช่ป่ะ ก็ยังต้องเจอกันอีกไหนจะต้องทำงานร่วมกัน แล้วที่สำคัญพี่ไม่มีเพื่อนไปกินบุฟเฟต์ที่ไหนแล้วนะ พี่มีแค่กรณ์คนเดียว"
เฮ้ย! เธอแคร์แค่เพราะกลัวไม่มีคนไปกินบุฟเฟต์ด้วยเนี่ยนะ ผมแอบใจเต้นนิดๆ กับประโยคสุดท้ายว่าเธอมีแค่ผมคนเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะเรื่องกินก็เหอะ อะไรของเธอเนี่ย ข้อเสนอของเธอทำให้สมองผมปั่นป่วนมึนงงไปหมด
"พี่ไม่คิดจะผูกมัดกับกรณ์ หรือให้กรณ์มารับผิดชอบอะไร แค่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหรอกนะ กรณ์ก็รู้ว่าพี่ไม่อยากมีแฟน และพี่ก็รู้ว่ากรณ์เองก็ไม่ได้คิดกับพี่แบบนั้น เหมือนกับที่พี่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับกรณ์มากไปกว่าพี่น้องที่เป็นมา"
"งั้นก็แปลว่าเราจะมีอะไรกันอีกก็ได้ใช่มั้ย"
ผมถามด้วยเสียงกรุ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย แม้จะรู้สึกโกรธอยู่บ้างที่เธอมาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับผม พูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำ แค่พี่น้อง ทั้งที่เมื่อคืนยังครางเรียกแต่ชื่อผมทั้งคืนอยู่เนี่ยนะ พี่น้องที่ไหนเค้าทำแบบนั้นกันเล่า
แต่เอาเถอะ ถ้าผมรุกไล่ขอพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอไปมากกว่านี้ ผมอาจจะหมดโอกาสใกล้ชิดเธออีกต่อไปก็เป็นได้ เมื่อเธอยังยืนกรานว่าจะไม่ยอมคบผมเป็นแฟน
อย่างน้อยสถานะนี้ก็ยังฟังดูเป็นแนวทางที่ดีสำหรับผมที่เธอเริ่มจะเปิดใจขึ้นมาบ้าง ตลอดเวลาที่รู้จักกันผมยอมรับเลยว่าไม่เคยคิดกับเธอแค่พี่น้อง หรือแค่เพื่อนกินของเธอเท่านั้น แต่ผมไม่กล้าที่จะจีบเธอ เพราะกลัวเธอจะไม่สนิทใจกับผมเหมือนเดิม ผมก็ทำได้เพียงเก็บงำความรู้สึกนั้นไว้อยู่คนเดียว
แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ผมก็แน่ใจตัวเองแล้วว่าผมชอบเธอมากเหลือเกิน เผลอๆ จะหลงใหลเธอมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก เมื่อตอนนี้เธอเป็นของผมแล้ว ผมจะไม่ยอมให้เรื่องระหว่างเรามันจบแค่นี้แน่นอน
"เอ่อ ก็อาจจะได้มั้ง พี่ไม่ซีเรียสนะ ตอนนี้เราทั้งคู่ต่างก็ไม่มีใคร ถ้ากรณ์ไม่ซีเรียสที่จะอยู่ในสถานะแบบนี้อ่ะนะ และถ้าหากวันนึงกรณ์หาแฟนจริงๆ ได้เมื่อไหร่ พี่ก็ไม่ว่า เราสองคนจะยกเลิกสถานะนี้เมื่อไหร่ก็ได้เพราะมันจะเป็นแค่ sex ไม่มีการผูกมัดใดๆ ระหว่างกันทั้งสิ้น จะไม่มีการหึงหวง ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน และสุดท้ายมันจะต้องเป็นความลับแค่เราสองคนเท่านั้น"
เธออธิบายเงื่อนไขยืดยาว แถมยังจะมาเปิดโอกาสให้ผมหาแฟนจริงๆ ไปอีก ผมอยากได้พี่เป็นแฟน พี่ไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือไงว้อยย
เฮ้อ เป็นแค่เพื่อนนอนก่อนก็ได้ ก็ยังดีกว่าเป็นแค่เพื่อนกินล่ะว่ะ
"เอาเป็นว่าผมตกลง ดีล!!! "
พอพูดจบผมก็ดึงตัวเธอลงมานั่งตักผมบนเตียง แล้วหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่ๆ
"หอมจัง"
"อะไรของกรณ์เนี่ย ปล่อยพี่นะ ยังทำแผลไม่เสร็จเลย"
"ก็พี่ผ้าเพิ่งบอกเองว่า เรามีอะไรกันอีกได้ ผมก็โอเค ดีลด้วยแล้วไง"
"เดี๋ยว อย่าบอกนะ"
"ดีลแล้วก็ต้องทำตามที่พูดไง ผมขอเริ่มใช้ดีลวันนี้เลยแล้วกันนะครับ มาเสม็ดทั้งที่เดี๋ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึงนะ"
************
พรรณทิภา วายุบุตร
(ผืนผ้า หรือ ผ้า เพื่อนชอบเรียกว่าเป็น อิผ้ายับ ตามนิสัยของเจ้าตัว) สาวโสดอายุ 33 หุ่นอวบเหมือนตุ๊กตาหมี โปรดิวเซอร์ ประจำบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ขนาดเล็กที่ร่วมหุ้นกันเปิดกับเพื่อนสมัยมหาลัย หลังจากอกหักตอนอายุขึ้นเลขสาม ก็เลิกศรัทธาในความรักไปเลย หาความสุขจากการติ่งนักร้อง และมุ่งสู่การตระเวนชิมอาหารตามรีวิวจากในเน็ต
ความฝัน ยูทูบเบอร์สายกิน
อาหารที่ชอบ แซลม่อน อาหารญี่ปุ่น เสต็กเนื้อ เนื้อย่าง ชีสเค้ก ฯลฯ
มณกรณ์ จิรธำรงเวช
(กรณ์) หนุ่มตี๋หุ่นล่ำ หนุ่มโสดขี้เหงา อายุ 28 บ้านรวยมากแต่ติสท์จัดอยากออกมาค้นหาวิถีชีวิตด้วยตัวเอง ช่างภาพฟรีแลนซ์มีฝีมือ ที่เพิ่งค้นพบตัวเองว่าอยากเป็นเชพ เพราะมีความสุขเวลาเห็นคนกินอาหารที่ตัวเองทำอย่างเอร็ดอร่อย ชอบตระเวนชิมอาหารตามร้านต่างๆ เพื่อแกะสูตรเอาไปฝึก
ความฝัน เป็นเชพ เปิดร้านคาเฟ่ของตัวเอง
อาหารที่ชอบ ชีสเค้ก บิงซู เนื้อย่าง
***************