The Last Night II
บทนำ
เมฆหมอกปิดฟ้าหนาแน่น สายลมโหมรุนแรง ฝนกระหน่ำปนเสียงอึกทึกคำรามและแสงสายฟ้าถี่รัว ..เด็กสาวพยุงร่างมาถึงบ้านหลังน้อยกลางป่า
แสงเทียนลอดออกหน้าต่างมาไหวๆ เธอมั่นใจว่ามีใครอยู่
หลังเคาะประตูเบาๆ แต่แล้วความเงียบก็ตอบสนองมา เธอเคาะอีกครั้ง..
"ขอโทษนะคะ มีใครอยู่ไหมคะ"เธอกระซิบร่องประตู
แล้วความเงียบก็ตอบกลับมาอีกครั้ง เธอตัดสินใจเสียมารยาทผลักเข้าไป
ผลึ่บ !!!
แล้วความว่างเปล่าก็ให้เธอเห็น ไม่มีใครอยู่สักคน มีแต่เทียนเล่มน้อยแท่งยาวกลางโต๊ะ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านครบครันจัดเป็นระเบียบ เธอเดินสำรวจทุกซอกมุมแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่
เสียงอึกทึกบนฟ้าดังเนืองๆ..
เด็กสาวแอบส่องไปนอกหน้าต่าง ซึ่งข้างนอกมืดมิดพลันเห็นเงาดำจางๆจากฟ้าแล่บ
เธอเข้าใจว่านั่นคือ"ปีศาจ"จาก"คืนแห่งความมืด" มันจะมาเอาชีวิตเธอ เธอต้องซ่อนตัว !!
แสงเทียนดับลงจากลมปาก บ้านหลังนี้เนียนไปกับความมืด เด็กสาวเร้นกายอยู่มุมบ้าน
ฟ้าแล่บอีกครั้ง เธอเห็นมันชัดเจน รูปร่างใหญ่กว่าคนสามเท่า ไม่มีศีรษะ มือขวาถือขวานเล่มใหญ่ กำลังกระวนกระวายด้วยท่าทางวิปริต
หากมันเห็นเธอเข้าคงถูกสับเป็นชิ้นๆแน่ เธอนึกถึงศพเพื่อนก่อนหน้านี้ ที่แทบจำไม่ได้ว่าเป็นใครบ้าง มันคือชิ้นเนื้อรวมกันเป็นกองดีๆนั่นเอง ทว่า!!ภาพสยองนั้นดันหลอกหลอนในหัวเธอผิดเวลา
เธอควบคุมสติไม่ได้จึงกรี๊ดลั่น.. ครั้นแล้ว..คมขวานก็สับลงหลังคาและปาดออกทันใด!!
มันเห็นเธอเข้าแล้ว !!!
"ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตา ข่ะข่ะข้าๆข้า..."เธอนั่งพับเพียบก้มหน้า ประกบมือทั้งสอง"ข่ะ ข้า ข้า ......."
เสียงง้างขวานหวูดหวือดังขึ้น เธอตกใจเงยหน้ามอง ปากสั่นพั่บๆ เสียงอธิฐานบ่นไม่เป็นภาษา จากนั้น...คมขวานก็พุ่งเร็วหมายบั่นหัว....
อ๊าาาาาาาา !!!!!
ราตรีนี้คงถูกเขียนไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เช่นเคย"โศกนาฏกรรมดีๆนั่นเอง" มนุษยชาติราวกับเหยื่ออันโอชะรสเลือดเลิศ ความหมายของความตายเหยื่อยังกล่าวกันว่าเป็นความโชคร้ายเท่านั้น
ไม่เพียงแค่นั้น ตามชนบทกลับก่อเกิดลัทธิบูชาความมืดไปทั่วสารทิศจากความกลัว แต่นั่นไม่สามารถหยุดยั้งคืนแห่งความมืดได้แม้บูชายัญด้วยมนุษย์ก็ตาม
=================
..บันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถูกเขียนขึ้นโดยตั้งใจจากเหตุการณ์เด็กสาวผมดำนัยน์ตาฟ้าคราม ผู้ซึ่งหยุดความชั่วร้ายในความมืดได้ จากการเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในสามพันกว่าคนยังชนบทแถบตะวันตกเทือกเขาเออเนส ซึ่งมหัศจรรย์มากหากจะมีใครทำแบบนั้นได้หลังยุคดารุส
ข่าวลือเด็กสาวขจรเกียรติไกลทั้งโลก แต่ไม่อาจเปิดเผยชื่อและรายละเอียดได้ จากการที่เธอเป็นพลเมืองจักรวรรดิลามิเรสซึ่งถูกสั่งห้ามเด็ดขาด
จักรพรรดินีสั่งปิดข่าวทันที ต่อมาจึงเกิดกระแสสังคมและการสืบเสาะอย่างหนักจากหลายหน่วยงานต่างๆเพื่อหาความจริงและแย่งชิงเธอผู้นั้นมาให้ได้
ขณะเดียวกัน โลกวุ่นวายหนักมากขึ้น กลุ่มคาสึยะบุกอนุทวีปเออาร์-ติกะ เข้าไปผนึกอสูรเรดดายแห่งพาราโรน่า ขโมยคริสตัลวาราไซด์ ปิดแกนพาเวล สร้างกองกำลังใหม่และสร้างพันธมิตรเพิ่มหลายกลุ่ม
ความสำคัญที่แท้จริงอยู่ที่วาราไซด์ ลักษณะคือคริสตัลม่วงครามดวงใหญ่ มีอานุภาพทำลายล้างและปกป้องด้วยบาเรียจากสายอัสนีหากถูกใช้โดยผู้ใช้ศาสตร์แห่งมนตราสายอธิฐาน การที่ถูกขโมยมานั้นจึงสร้างความสั่นคลอนให้โลกเป็นอย่างมาก
ความตรึงเครียดเพิ่มขึ้น ทุกจักรวรรดิต้องการสิ่งนั้น เพื่อต่อต้านคือแห่งความมืด ปกป้องแผ่นดิน สร้างฐานอำนาจและความมั่นคง หน่วยทหารฝีมือดีจากทุกมุมโลกถูกส่งไปล่าชิงมัน ซึ่งอาจรวมถึงสังหารกลุ่มคาสึยะให้สิ้นหากจำเป็น
ซึ่งเหมือนคำกล่าวติดตลก หากจะสังหารกลุ่มคาสึยะได้พวกทหารต้องดุร้าย โหดเหี้ยมและแข็งแกร่งกว่าปีศาจหรือพระเจ้าเท่านั้น กลุ่มคาสึยะไม่หวั่นใจแม้แต่น้อยกับการรอรับมือทหารทั้งโลก
"ธาราเทพ"ผู้นำกลุ่มคาสึยะ ระดับบารมีนั้นเป็นที่นับถือของพวกสุดโต่งรวมทั้งพันธมิตรต่างๆทั่วโลก ขณะนี้มีการประมาณการกันว่าถ้ารวมพันธมิตรทั้งหมดกับกองกำลังกลุ่มคาสึยะอาจมีมากพอจะล้มสองจักรวรรดิได้พร้อมกัน อีกทั้งพวกเขายังครอบครองวาราไซด์อีกด้วย คำถามที่น่าสนใจจึงเกิดขึ้นคือ.."กลุ่มคาสึยะคิดจะทำอะไรกันแน่??"
=============
อีกฟากฝั่งท้องฟ้า คณะเดินทางกลุ่มหนึ่งเดินทางถึงปากประตูมหึมาจักรวรรดิลามิเรส พร้อมความหวังจากเด็กสาวผมดำนัยน์ตาฟ้าใส
สาวนักรบชุดเกราะคือผู้นำกลุ่มกิเรเร่นามว่า"เพียล่า" ลงจากมอนโซท้วงท่าสง่างาม เดินไปสามสี่ก้าวแล้วชูตราศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์จักรพรรดินี!!
ทันใด!! บานประตูทั้งสองก็เปิดออกรับแสงสุดท้ายและคณะเดินทาง...
เนเน๊ะหวั่นใจ หันมองด้านหลังก่อนประตูปิดสนิทลง ในใจหวังว่าคืนนี้คงไม่มีลางมรณะจากคืนแห่งความมืด... !?
'การผจญภัยบทใหม่ใกล้เข้ามาแล้วแน่ๆ..'บุรุษชุดดำเชิดหน้า จุดบุหรี่มวนโต'คำอธิฐานอันศักดิ์สิทธิ์ของดารุสอยู่ที่นี่สินะ'
ราตรีสีดำเดือดยึดฝืนฟ้า เมฆหมอกซ่อนรอยยิ้มผวาในริ้วร่อง ความเย็นยะเยือกปนในสายลมพริ้วแผ่วบาง..
ชะตากรรมของเด็กสาวกำลังเผชิญชีวิตบทใหม่และอาจไม่สามารถโกงความตายหรือมีใครช่วยได้...
ด้วยสนธิสัญญาจากเหล่าเทพเทพีแห่งนครเกลซาโร่กับดารุสแห่งวารัสติเซียว่า..เมื่อใดก็ตามที่เนฟร่าย่างกายเข้าสู่ลามิเรสแล้ว ทุกการช่วยเหลือไม่ว่าทางใดก็ตามหรือแม้มอบพลังบางส่วนกลับคืนให้แก่เธอก็ไม่สามารถทำได้ หากผิดสัญญาเนฟร่าจะสูญสลายและความทรงจำของทุกคนเกี่ยวกับเนฟร่าจะถูกลบออก
การดำเนินการนี้เป็นไปเพื่อเนฟร่า ด้วยเหตุผลการหลบหลีกบารมีพระแม่เอวาและสร้างจิตใจกล้าหาญต่อคืนแห่งความมืดให้เนเน๊ะ..
_________________
*ภาคนี้เป็นภาคต่อจากภาคที่แล้วนะครับ
การเขียนภาคนี้จะใช้มุมมองเนเน๊ะเป็นหลักในการเล่าเรื่อง
*เนื้อเรื่องและภาษาอาจไม่สนุกหรือเร้าใจเท่าไร แต่ยังคงความเป็นนิยายนอกกระแสและดาร์คเช่นเดิมครับ
*ภาคที่แล้วเป็นการเขียนครั้งแรกอาจดูขาดๆเกินๆไปบ้างและยังไม่รีไรท์ แต่ภาคนี้จะเขียนให้ดีที่สุดครับ
~ขอบคุณครับ~