จตุรัสล้อมเบญจรงค์
9
ตอน
23.5K
เข้าชม
328
ถูกใจ
18
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

บทเกริ่น แนะนำ

เรื่อง “จตุรัสล้อมเบญจรงค์”

นางเบญจรงค์ ใจงามดี สาวม้าย วัยเพียงยี่สิบหกปี ต้องตกเป็นม้ายตั้งแต่ยังสาว และการเป็นม้ายของเธอในครั้งนี้นั้น ก็เป็นการตัดสินใจของเธอเอง เพราะว่าเธอไม่สามารถมีลูกกับ นายเม้ง ค้าเจริญสุข สามีสุดที่รัก ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงสีใหญ่ และนายเม้งก็ยังเป็นหลานชายคนเดียวของเฒ่าแก่ร้านท้องชื่อดังในจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ทางภาคกลางตอนบ่นสุด ของประเทศไทย

นายเม้ง กลายเป็นอดีตสามีของเบญจรงค์ ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เบญจรงค์ ตัดสินใจ เซ็นใบหย่าให้กับนายเม้งสามี และก็เก็บเสื้อผ้าหอบผ้า หอบผ่อน ย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่ ที่เคยเป็นเรือนหอของเธอและนายเม้ง ที่พ่อกับแม่สามีของเธอปลูกไว้ให้ในรั้วเดียวกับโรงสีข้าวเปลือกที่ใหญ่โต เพื่อนอนาคตทั้งคู่จะได้ช่วยกันบริหารโรงสีต่อจากครอบครัว

เบญจรงค์ ไม่สามารถทนกับความกดดัน จากครอบครัวของสามีได้ต่อไป ทุกอย่างตกมาอยู่เบญจรงค์ แต่เพียงผู้เดียว เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ไร้ค่า ไร้ความสามารถ ไม่มีบุญวาสนา ชาติที่แล้วทำบุญมาน้อย ดวงชงกับสามี ไม่มีราศรีคุณนาย ของเจ้าสัว และที่เบญจรงค์ทนไม่ได้ ก็คือ พ่อกับแม่สามีของเธอรวมทั้ง ปู่ย่าตายาย ของนายเม้ง ต่างก็มาขอให้นายเม้ง มีเมียน้อย เพื่อที่จะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ และยังบอกว่าพวกตนนั้นสิ้นหวังกับลูกสะใภ้ที่ชื่อเบญจรงค์แล้วในเรื่องการมีหลานชายให้สืบสกุล ประมาณว่า อย่าว่าแต่ลูกชายเลย ลูกสาวก็ยังไม่มีปัญญา

เบญจรงค์ อันล้ำค่า สาวงามประจำจังหวัด ที่มีรูปร่างหน้าที่สวยเป็นทรัพย์ เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์และความสวย ประกวดเวทีไหนเป็นได้ถ้วย เพราะว่าเธอสวยสมชื่อ เบญจรงค์ ตอนนี้เธอกับกลายเป็นชามตาไก่ ไปเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากที่เธอไม่สามารถมีลูกให้ครอบครัวสามีได้ในวันและเวลาที่พวกเขาต้องการ

ถึงแม้ว่านายเม้งสามีของเบญจรงค์ จะยังรักเธอ และไม่เคยคิดที่จะขอหย่ากับเธอ และก็ไม่เคยคิดจะมีภรรยาใหม่ เขาได้แต่ปลอบใจเธอตลอดเวลาที่เบญจรงค์ถูกครอบครัวเขาต่อว่าและพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ แต่ว่าเบญจรงค์เธอรู้สึกผิด และก็สงสารเม้งผู้เป็นสามี ที่เป็นทั้งหลานชาย และลูกชายคนเดียวในตระกูลค้าเจริญสุข และหน้าที่ของนายเม้ง ก็คือผลิตลูกชายให้กับครอบครัวเพื่อสืบสายพันธ์ ค้าเจริญสุข แต่ว่าบุญของเบญจรงค์ กับนายเม้งคงทำกันมาแค่นี้ เธอถึงไม่สามารถมีลูกกับนายเม้งสักที ทั้ง ๆ ที่สองคนนี้ก็แต่งงานกันมาตั้งห้า หกปี ก็ตาม

เบญจรงค์ เธอไม่ต้องการเป็นเมียหลวง และไม่ต้องการเป็นแค่โรงงานผลิตลูก พอผลิตไม่ได้ก็หมดค่า กลายเป็นเครื่องสีข้าวรุ่นเก่าลงทันที จากลูกสะใภ้คนโปรด หลานสะใภ้คนสวย กลายเป็นหญิงไร้ค่า เพราะว่าไม่มีทาญาติให้สามี

ด้วยความกดดัน เธอเลยตัดสินใจหย่ากับนายเม้ง เธอต้องการที่จะตัดความรำคาญ และตัดปัญหาความยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับชีวิตสมรสของเธอและสามี เธอพยามยามจะเข้าใจว่า บางครั้งความรักอย่างเดียวก็ไม่สามารถประคับประครองให้คู่สมรสนั้นครองครูู่กันไปได้ตามที่ใจเธอและสามีปรารถนาและวาดฝันเอาไว้

ปัญหานี้ควรจะหมดไปตั้งนานแล้ว มันไม่ควรจะมีอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศที่ออกกฎหมายให้ผู้หญิงใช้นามสกุลเดิมของตัวเองได้ แต่ว่ากฎหมายข้อนั้นไม่ได้ช่วยให้ชีวิตสมรสของ เบญจรงค์กับนายเม้งนั้นดีขึ้นเลย เพราะว่า กฎหมายเปลี่ยน แต่ว่าความคิดของคนเรานั้นมันยังไม่เปลี่ยนมันยังคงเป็นเหมือนเดิม โดยเฉพาะ กลุ่มคนที่มีความชื่อเกี่ยวกับการมีบุตรชาย นั่นเป็นเรื่องที่ต้องกระทำ ต้องทำให้ได้ ต้องมีให้ได้ เพื่อให้ตระกูลนั้นยังคงอยู่

เบญจรงค์ ย้ายออกจากบ้านสามี ทันทีหลังจากที่เธอเซ็นใบหย่า ด้วยความเจ็บปวด ชอกช้ำระกำใจ เธอเซ็นใบหย่าทั้งน้ำตา และก็ยังอาลัยอาวรในตัวสามี เม้งก็ได้แต่ยอมให้เธอเดินออกชีวิตเขาไป เพราะว่าเขาเองก็ต้องเลือกครอบครัว มากกว่าเมียรัก ไม่งั้นพ่อแม่เขาก็จะตกนรก ไม่สามารถทำหน้าที่ สืบสันดาน รุ่น ต่อ รุ่นที่บรรพบุรุษได้ทำสืบต่อกันมา เขาก็จะกลายเป็นลูกอักกตัญญูต่อบิดามารดา และก็จะต้องตกนรกไปตามกัน

เบญจรงค์ นั้นออกจากบ้านมา เธอไม่ได้ออกมาตัวเปล่า แต่ว่าเธอออกมากับลูกในท้อง ที่เธอไม่รู้ตัวเองว่าเธอนั้นตั้งท้องอ่อน ๆ แต่พอเธอรู้ว่าตัวเองท้องก็สายไปเสียแล้ว เพราะว่านายเม้ง อดีตสามีคนที่เธอรัก ได้แต่งงานใหม่เข้าหอกับเมียคนใหม่ที่พ่อกับแม่ของเขาเลือกเอาไว้ให้เขานั้นเรียบร้อยไปแล้ว

เบญจรงค์ เธอจึงเก็บเรื่องการตั้งท้องของตัวเองไว้เป็นความลับ และก็ย้ายหนีออกจากตัวจังหวัดที่เธอเคยอยู่ เบญจรงค์ไม่มีพ่อแม่มาตั้งแต่เกิด เธออยู่กับตายาย ตากับยายของเธอก็ตายจากไปหลังจากที่เธอแต่งงานได้เพียงไม่กี่วัน เธอเหลือเพียง แมว น้าสาว ญาติเพียงคนเดียวที่เธอมี

แมวเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านในกรุงเทพฯ หลังจากที่ตายายของเบญจรงค์ตาย เบญจรงค์ไม่มีที่ไป ถึงแม้ว่าเธอจะมีเงินติดตัวอยู่บ้างจากเม้งสามีที่ให้เธอไว้ แต่เธอก็ไม่รู้จักใครในกรุงเทพฯ และเธอก็ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ มาก่อน เธอจึงขอเข้าไปอยู่กับน้าสาวที่ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับเจ้านายที่เป็นระดับนายพลตำรวจเอก และตอนนั้นเขาก็มีตำแหน่งใหญ่โต เป็นถึงระดับสูงของกลมตำรวจ

นายพลตำรวจมโนธรรม ล้ำเลิศดี ที่ต่อหน้าสารธารณะชนเขาคือนายตำรวจใจ ที่มีจิตใจดี แต่เบื้องหลัง เขาคือผู้ชายแก่ที่บ้ากามไม่ต่างจากพวกโจรที่เขาจับลงข่าวหน้าหนึ่งอยู่ทุกวัน เขาเห็นผู้หญิงแปลกหน้าแปลกกลิ่นที่มาเป็นคนรับใช้ในบ้านไม่ได้ เป็นต้อง ย่องเข้าหาจับทำเมียหมดทุกคน และก็ดูเหมือนว่าคุณหญิงงามใส ล้ำเลิศดี ภรรยาของท่านนายพล ก็จะไม่ได้ว่ากล่าวโทษสามี และก็ไม่ได้ลงโทษคนรับใช้เช่นกัน ใครเต็มใจอยากจะเป็นเมียน้อยสามีของตนเธอก็ไม่เคยว่า เธอขอเพียงแต่ว่าห้ามนายพลมีลูกกับคนรับใช่เป็นพอ และต้องไม่ทำลุมล่ามนอกบ้าน เพราะว่าเธอไม่ต้องการเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เธอเพิ่งจะได้เป็นคุณหญิงเมื่อไม่นานมานี้

และเบญจรงค์ หรือ เบญ สาวม้ายวัยเพียงยี่สิบหกปี ที่ตั้งท้องลูกอ่อน ๆ จากนายเม้งสามีเก่า ก็ถูกนายตำรวจพลตำรวจบ้ากาม ขมขืน ปลุกปล่ำ เอาทำเมียเช่นกัน ถึงแม้ว่าเธอจะอ่อนขอวอนขอร้องก็ตามที เบญจรงค์ไม่ได้บอกกับน้าสาวของเธอว่าเธอตั้งท้อง และเธอเองก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะได้บอกกับท่านนายพลบ้ากามเช่นกัน

ส่วนท่านนายพลนั้นหลงรักในความสวยของเบญจรงค์เข้าอย่างเต็มเปา เพราะว่าเธอทั้งสาว ทั้งสวย และที่สำคัญเบญจรงค์นั้นเธอสวยกว่าคนรับใช้ของท่านนายพลทั้งหมดเท่าที่คุณหญิงจัดหามาให้ท่าน ท่านนายพลจึงกลายเป็นแขกประจำห้องของเบญจรงค์ไปโดยปริยาย

นายพลตำรวจเกิดติดใจในความสาวและสวยของเบญจรงค์ จึงบังคับคู่เข็นให้น้าสาวของเบญจรงค์ ให้รั้งตัวเบญจรงค์ไว้ ห้ามให้ย้ายออกหรือหนีไปไหน หลายเดือนผ่านไปท้องของเบญจรงค์นั้นโตขึ้น จนท่านพลเองก็เร่ิมสังเกตุเห็นพัฒนาการของเบญจรงค์ และท่านนายพลก็คิดว่าเบญจรงค์นั้นตั้งท้องกับตน เขาเลยเอาเรื่องไปบอกกับคุณหญิงภรรยาของเขา เพราะว่าเขารู้สึกว่าสงสารเบญจรงค์ และต้องการรับเลี้ยงเบญจรงค์ และลูกของเบญจรงค์ เพราะว่าสงสารและรักในตัวเบญจรงค์

คุณหญิงเองเธอก็มีแต่ลูกสาวและเธอก็ไม่ต้องการที่จะอุ้มท้องอีกเพราะว่าเธอกลัวว่าหุ้นของเธอจะเสีย เธอมีลูกสาวสามคน นั้นก็พอแล้วสำหรับเธอ เธอจึงได้เรียกแมวน้าสาวของเบญจรงค์และเบญจรงค์ และก็พูดขอร้องแกมบังคับกับเบญจรงค์ และน้าสาวของเธอว่า ถ้าลูกของเบญจรงค์เกิดมาเป็นผู้ชายเธอขอรับเลี้ยงลูกชายของเธอเป็นลูกของตัวเองโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ แต่ถ้าลูกของเบญจรงค์เป็นลูกสาว เธอก็ขอให้เบญจรงค์นั้นออกจากบ้านของเธอและเธอจะให้เงินเบญจรงค์เอาไปทำทุนเลี้ยงลูก แต่ว่าเบญจรงค์นั้นห้ามมาให้ท่านนายพลเห็นอีกเป็นอันขาด เพราะว่าเธอไม่ต้องการให้ลูกของเบญจรงค์มาเทียมหน้าเทียมตากับลูกของเธอซึ่งเบญจรงค์นั้นไม่มีทางเลือกเลย

เธอไม่รู้ว่าเธอโชคดีหรือโชคร้ายที่เธอได้ลูกชาย ทันทีที่เธอคลอดลูกชายของเธอที่โรงพยาบาล คุณหญิงก็มารับลูกของเธอไปทันที และก็บังคับให้เธอเซ็นยกลูกชายของเธอให้เป็นลูกของตนเองทันทีในวันคลอด แต่ว่าคุณหญิงเธอก็ยอมให้เบญจรงค์ได้เป็นแม่นม และเป็นพี่เลี้ยงลูกชายของเธอในฐานะแม่นม ซึ่งเบญจรงค์จำต้องจำทนทำตามที่คุณหญิงท่านขอ ไม่งั้นคุณหญิงจะไม่ให้เธอได้เห็นหน้าลูกชายของเธออีกเลย และชีวิตเบญจรงค์ก็จะต้องไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต

 

เรื่องราวของเบญจรงค์ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามอ่านในนิยายเรื่อง “จตุรัสล้อมเบญจรงค์” ได้ในเร็ว ๆ วันนี้

 

ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ แล้วเจอกันคะ

รักนะจุ๊บ ๆ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว