เอก นักศึกษามหาวิทยาลัย ปี4 แฟนหนุ่มของริน
ริน นักศึกษาสาวปี 3 แสนสวยและเซ็กซี่ผู้เป็นที่หมายปองของทุกคน
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่มีเค้าโครงเรื่องจริง แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
เรื่องย่อ เอกและรินสองนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งสองคนรักกันมากทั้งคู่วางแผนในอนาคตว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ก็ต้องมาเกิดเหตุการณ์ที่แสนชั่วร้ายกับทั้งสองคน ทำให้ต้องคิดหาทางออกและเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ และบทสุดท้ายจะจบลงอย่างไร โปรดติดตามในนิยายเรื่องนี้ได้เลยครับ
แผนลับแหกคุกสวาท
ณ โกดังร้างแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครติดริมน้ำเจ้าพระยา เวลา 02.00 น. ซึ่งเป็นที่รกร้างมานานหลายปี ไม่มีผู้ใดมาเช่าหรือซื้อเพื่อทำธุรกิจ ที่นี่ถูกใช้เป็นที่นัดหมายของ 2 กลุ่มผู้มีอิทธิพล ในการทำธุรกิจผิดกฎหมาย เพราะเงียบ และปราศจากผู้คนภายนอกจะเข้าถึง ไม่มีผู้ใดมาเพ่นพ่าน และลับสายตาผู้คน
“ครืนนนน” เสียงเปิดประตูเหล็กบานใหญ่ด้านหน้าของโกดังที่ถูกเลื่อนออกจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลกลุ่มหนึ่งที่พึ่งมาถึงตามที่นัดหมาย
“เฮ้ยย พวกเอ็งทำไมมาช้ากันจังวะ ปล่อยให้พวกข้ารอกันอยู่ตั้งนาน” เสียงของเสี่ยประเสริฐ ที่รออยู่ภายในโกดังพร้อมกับลูกน้อง 5 คน ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราด เสี่ยประเสริฐ อายุ 55 ผู้มีลักษณะอ้วนท้วม ผิวขาว มีหนวดใต้จมูก มีนิสัยขี้โกง จอมกะล่อน ร่ำรวยจากการทำธุรกิจผิดกฎหมายมานาน
“ใจเย็นๆสิเสี่ยประเสริฐ แหมม ทำเป็นคนแก่อารมณ์ร้อนไปได้ อั๊วก็รีบมาตามนัดอยู่ สายนิดสายหน่อยจะเป็นอะไรไป”
เสียงของเสี่ยทวี กล่าวขึ้น หลังจากที่เดินผ่านประตูเหล็กด้านหน้าโกดังเข้ามา กับลูกน้องอีก 3 คน พร้อมมีอาวุธปืนครบมือ เสี่ยทวี อายุ 53 ปี รูปร่างสูงขาว เป็นกลุ่มอิทธิพลอีกกลุ่มหนึ่งของเมืองราชบุรี มีนิสัย ใจเย็น สุขุม รอบครอบ แต่ก็ขี้โกงเจ้าเล่ห์ ไม่แพ้ เสี่ยประเสริฐ
“ไหนหละของ” เสี่ยประเสริฐถาม
“เฮ้ย! ไปหยิบของมาซิ” เสี่ยทวีบอกกับลูกน้องของตนให้ไปหยิบของ ด้วยน้ำเสียงเข้มดุ
สักพักลูกน้องคนหนึ่งของเสี่ยทวีก็หยิบกระเป๋าสีดำมาวางไว้บนโต๊ะไม้กลางโกดัง คล้ายกับกระเป๋าสายลับทำนองนั้น แล้วก็เปิดกระเป๋าด้านหนึ่งขึ้นหันหน้าไปให้เสี่ยประเสริฐดู
ใช่แล้วมันคือเฮโลอีนอัดแน่นไว้เต็มกระเป๋า น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ซึ่งเสี่ยทั้งสองนัดหมายรับของกันเป็นล็อตสุดท้ายของปี มูลค้ากว่า 10 ล้านบาท
“เป็นไงของอั๊ว กลิ่นหอมสดใหม่ สีขาวสะอาดตาดีมั้ยหละ ฮ่าๆๆ “ เสี่ยทวีพูดพร้อมกับหัวเราะด้วยความชอบใจ เพราะมั่นใจในของและก็กำลังจะได้เงินสดไปใช้เที่ยวกินเหล้า เที่ยวผู้หญิงอย่างเปรมปรีดิ์
“ไหนหละเงิน เอามาให้ดูหน่อย” เสี่ยทวีรีบทวงถามเสี่ยประเสริฐ
“เฮ้ย ไปเอาเงินมา.” เสี่ยประเสริฐบอกลูกน้องของตน
“นี่ครับนาย” ลูกน้องคนหนึ่งของเสี่ยประเสริฐหยิบกระเป๋าใส่เงินใบใหญ่มาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมเปิดโชว์ให้เสี่ยทวีและลูกน้องของเสี่ยทวีทั้ง 3 คน ให้ดู
“เฮ้ย ไปเช็คเงินซิ” เสี่ยทวีผู้มีนิสัยรอบคอบบอกกับลูกน้องของตน และรู้สันดานเสี่ยประเสริฐเป็นอย่างดี ถึงแม้จะทำธุรกิจกันมานานแต่ก็ไม่เคยมีความไว้ใจซึ่งกันและกันเลย
ลูกน้องของเสี่ยทวีหยิบเงินด้านหน้าแถวบนที่จัดมาเป็นอย่างดีออกจนหมด จนสังเกตเห็นแถวที่ 2 ของเงินในกระเป๋า “เฮ้ยย! นี่มันกระดาษนี่หว่า” ลูกน้องของเสี่ยทวีตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห เพราะจับได้ว่าเสี่ยประเสริฐกำลังโกงค่าเฮโลอีน และกำลังหลอกตน
เสี่ยทวีได้ยินดังนั้นจึงบอกเสี่ยประเสริฐไปว่า “นี่มึงโกงกูเหรอ มึงตาย! “ ลูกน้องของเสี่ยทวีก็รีบคว้ากระเป๋าเฮโลอีนวิ่งกลับมาทางฝั่งของตน พร้อมกับชักปืนที่พกมา ยิงกระหน่ำไปทางเสี่ยประเสริฐ
ทางด้านเสี่ยประเสริฐพอรู้ตัวว่าถูกจับได้ ลำลังจะโดนยิง ก็รับชักปืนออกมายิงสวนกลับไป
ทั้งสองกลุ่มเปิดฉากยิงกัน ปัง! ปัง! ปัง!ปัง! พร้อมกับวิ่งหาที่กำบังกัน เสียงปืนดังสนั่นในโกดังร้าง ต่างฝ่ายต่างหาที่กำบัง ต่อสู้กันด้วยปืนประมาณ 10 นาที ทางฝ่ายเสี่ยทวีเห็นท่าไม่ดี เพราะฝ่ายตนพวกน้อยกว่าจึงตัดสินใจถอยหนีออกมาจากโกดังทั้งสามคน แล้วกุรีกุจอ รีบขึ้นรถเบนซ์ สีดำหรู ที่จอดอยู่ด้านหน้าโกดัง ให้ลูกน้องสตาจ์รถและรีบขับออกมาจากซอยของโกดังให้เร็วที่สุด
“บรื้นนนนน เสียงรถที่ถูกเหยียบด้วยคันเร่งมิดตีน”
ขณะที่กำลังขับออกมาจากโกดัง ลูกน้องของเสี่ยทวีมองเห็นรถสายตรวจตอนกลางคืนจอดอยู่หน้าปากทางของถนนใหญ่อยู่ไกลๆ แต่ยังคงสามารถมองเห็นได้ระยะไกล และเหมือนกำลังทำท่าว่าจะขับเข้ามาทางซอยของโกดัง ซึ่งรถของตนกำลังจะขับสวนออกไป เพราะมีทางเข้าและออกแค่ทางเดียว โดยที่เสี่ยทวีและลูกน้องไม่คาดคิดมาก่อน
“ชิบหายละ แม่งงเอ๊ย ตำรวจมาได้ไงวะ” เสี่ยทวีบ่นด้วยความหงุดหงิด
“เอาไงดีครับเจ้านาย “ ลูกน้องคนขับของเสี่ยทวีถามด้วยความสับสน และทำอะไรไม่ถูก
ทันใดนั้นเสี่ยทวีเหลือบไปเห็นรถเก๋ง สีขาว จอดอยู่กลางซอย จึงสั่งให้ลูกน้องเอากระเป๋าเฮโลอีนไปแอบไว้ข้างรถด้านที่ติดกำแพงของรถเก๋งสีขาวคันนั้น แทนที่จะโยนทิ้งข้างทาง เพราะกลัวตำรวจคิดว่าจะมาจากรถของตนที่เพิ่งจะขับสวนออกไป และเพื่อไม่ให้ตำรวจมีหลักฐานและเกิดความสงสัยเอาผิดกับตนได้ จึงตั้งใจจะป้ายความผิดให้กับรถคันอื่นที่ไม่รู้จักนั่นเอง
ความซวยจึงมาบังเกิดกับสองนักศึกษา ที่กำลังมาเสพสมรักกันในรถกลางซอยเปลี่ยวมืด หลังจากที่เสร็จจากงานเลี้ยงวันเกิดของนักศึกษาสาว และยังไม่รู้ว่าชะตากรรมข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน เพราะเพียงแค่มาหาที่เสพสุขกามอารมณ์กันระหว่างทางกลับบ้านเท่านั้นเอง