PROLOGUE
“อนธการ”
ความเงียบงันที่ซ่อนเร้นอยู่ในความมืด
คือสิ่งที่โลกได้สร้างขึ้นเพื่อกั้นขวางระหว่างมนุษย์กับภูตผี
และมันก็คือคำสาปร้าย...
...ที่มนุษย์ไม่ควรยุ่งเกี่ยว
...ริมฝีปากที่บดเบียดกันอย่างเร่าร้อนกับเสียงครางต่ำดังอื้ออึงอยู่ในลำคอทำให้ร่างหนาๆ ที่อยู่ด้านบนอยากจะกลืนกินความหวานจากโพรงปากของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้สองมือกดแขนทั้งสองข้างของร่างที่อยู่ข้างใต้ก็เปลี่ยนเป็นมาลูบไล้แผ่นท้องที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงเพราะลมหายใจที่เร็วกระชั้น นิ้วที่เรียวแหลมของร่างหนาๆ ได้กรีดกรายไปบนแผ่นอกสีขาวชมพูจนกระตุ้นให้ส่วนที่อ่อนนุ่มของร่างที่อยู่ข้างใต้นั้นแข็งขืน ความพยศกลายเป็นกระสันที่กระหายในรสรัก การขัดขืนกลายเป็นความใคร่อยากในร่างกายของผู้ที่กำลังนอนคร่อมตน เสียงครางต่ำในลำคอกลายเป็นเสียงครางหวานที่กระตุ้นให้ร่างที่อยู่ด้านบนเกิดตัณหามากขึ้น พอรู้ตัวอีกที...เสื้อผ้าที่เคยปกคลุมก็อันตรธานออกไปจากกาย
ร่างบางอ้าปากหอบเมื่อร่างหนาๆ เริ่มไซ้คอของเขาอย่างหื่นกระหาย สองมือเรียวบางจิกที่นอนแน่นเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับจนทำให้ร่างที่อยู่ด้านบนซุกไซ้หนักเข้าไปอีก ทั้งเสียงชีพจร...ทั้งเสียงครางที่แสนยั่วยวน ทั้งสองสิ่งนี้ก็ทำให้เลือดในกายของร่างหนาๆ เดือดพล่านจนแทบอยากจะหาทางระบายออกมาเสียโดยไว ร่างที่อยู่ด้านบนได้ผละออกจากซอกคอสีขาวที่น่าขย้ำนั้นก่อนปลดกระดุมเสื้อของตนออกที่ละเม็ดๆ แล้วขยับตัวเข้ามาอยู่ระหว่างขาสองข้างของร่างบาง ร่างที่นอนอยู่ได้ค่อยๆ แหงนขึ้นมามองร่างที่นั่งอยู่ระหว่างขาทั้งสองของตนด้วยความเหนื่อยอ่อน ใบหน้าสีขาวราวกับหิมะที่โปรยปรายกับดวงตาสีแดงฉานราวกับหยาดโลหิตที่สดใหม่ และคมเขี้ยวที่ซ่อนอยู่ในยิ้มร้าย ไม่ว่าจะตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าหรือไม่ “อนธการ” ก็อยู่กับเขาแล้ว...