ลิขิตรักใต้ผืนทราย
ชีคอัฟฟาน อับดุล ฮาหมัด คาริฟา
เจ้าชายมาดนิ่งที่นิ่งจนไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ไม่ยุ่งแต่ก็มองเป็นอาหารตาได้ ก็แหมเขาทั้งหล่อล่ำ กำยำ กล้ามเป็นมัดๆ ขนาดนั้น สาวที่ไหนไม่มองก็บ้าแล้ว ที่สำคัญเขาทั้งเก่งทั้งสุขุม ความสามารถก็รอบตัว ผู้ชายอะไรเพอร์เฟคสุดๆ นี่ไม่ได้อวยนะบอกเลย ถ้าไม่เชื่อก็เข้าไปอ่านดู
พรสวรรค์ หรือ มะลิ
สาวแว่นสุดเนิร์ด ที่จริงๆ ก็ไม่ได้เนิร์ดหรอก ใส่ไว้แค่พรางตาเท่านั้น ขืนไม่ใส่ดูสิ ได้เป็นตากุ้งยิ่งทั้งปีทั้งชาติแน่ ก็ไม่รู้ว่านี่คือพรสวรรค์ หรือว่าฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ที่ประทานตาแบบนี้มาให้ ตาเธอมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้ นี่ถ้าไม่มีแว่นหนาๆ มาพรางไว้ล่ะก็ ทรวดทรงองค์เอวนี่เดินกันให้ว่อน เห็นของผู้หญิงก็ดีหน่อย แต่เห็นของผู้ชายก็ดีกว่า เอ๊ย! ไม่ใช่ๆ ไม่ได้หมายความแบบนั้น เอ้อ! แบบนั้นก็ได้ (เห็นไหมล่ะคะคุณผู้ชม บอกแล้วว่านางไม่ได้เนิร์ดจริง แต่เรื่องหื่น นางหื่นจริงค่า เฮอะ! ไม่อยากพูดถึงนางเยอะ อิจฉา! นี่ล่ะค่ะโฉมหน้าผู้หญิงของชีค)
“อะเอ่อ...คือถ้าฉันจะขอเวลาทำใจก่อนจะได้ไหมคะ ฉันยังไม่พร้อมจะเสียตัวตอนนี้ คือ...คือฉันมีประจำเดือนค่ะ” เธอพยายามถ่วงเวลาเพื่อเอาตัวรอด
“หืม! เสียตัว? อะไรทำให้เธอคิดว่าคนอย่างฉันอยากจะได้ตัวเธอ” คำพูดของเขาทำเอาเธอหน้าเหวอ
“ก็เมื่อกี้คุณบอก...”
“จืดชืดไม่มีอะไรให้ดึงดูดอย่างเธอ บอกตรงๆ ฉันทำไม่ลง” เขาว่าพลางเลื่อนสายตาลงมาหยุดอยู่ที่หน้าอกของเธออย่างหมิ่นเหม่ ก่อนจะยิ้มเยาะให้เธอได้อาย
‘อื้อหือ! จุก จี้ใจดำ ย้ำปมด้อยกันสุดๆ โดนปฏิเสธงานเพราะเรื่องนม ยังไม่เจ็บเท่าถูกจี้ปมว่านมไม่มี’ เธอคิดอย่างแค้นเคือง พลันสองแขนก็ผลักอกเขาออกแรงๆ อย่างลืมตัว
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าฉันทำอะไรเธอ เพราะถึงฉันจะเป็นผู้ชาย ฉันก็เลือก”
“อื้อหือ! จุก จุกกว่าเดิมอีก” เธอจับไปที่อกข้างซ้ายทำท่าราวกับรวดร้าวนักหนา พลันความอดทนก็ถูกอารมณ์เดือดดาลบดบังจนสิ้น
“นี่! มันจะมากไปแล้วนะ คิดว่าตัวเองหล่อเลือกได้คนเดียวรึไง ถึงฉันไม่สวยเซ็กซี่ขยี้ใจ แต่ฉันก็เลือกได้เหมือนกันแหละ มีคนเข้ามาให้เลือกจนหัวกระไดบ้านไม่แห้งด้วย อะเอ่อ...แล้วแต่ละคนก็หล่อกว่าคุณด้วย” จากความเดือดดาลกลายเป็นความโอ้อวดเพื่อความสะใจ แม้จะแอบหวั่นๆ ใจอยู่บ้าง
‘ไปพูดแบบนั้น ใครเขาจะเชื่อเล่ามะลิเอ๊ย’