ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์รัก(แท้)
อารัมภบท
...............
ระยะทางพิสูจน์ฝีเท้าของม้า และกาลเวลาก็สามารถพิสูจน์อะไรได้หลายๆอย่าง
รวมทั้งเรื่องราวระหว่างเขาและเธอด้วย ที่ไม่ว่าจะต้องผ่านอุปสรรคมากมายเพียงใด
หรือว่า วันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่ความรักระหว่างเธอกับเขาก็ยังคงมั่น
เพราะมันเป็นรักแท้นั้นเอง
.................
“ ได้โปรดเถอะพี่ลุฟ ช่วยเลือกเอาสักหลังเถอะ ขืนเลือกมากอย่างนี้พอดีสิ้นปีนี้เงาะก็ยังไม่ได้บ้านให้พัก”
เด็กสาวโอดครวญ เธอกับเขาเข้ากรุงเทพมาจะครบสัปดาห์แล้ว ตระเวนดูบ้านมากันก็หลายหลัง แต่ก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจของชายหนุ่มที่เอาแต่ติโน้นตินี่อยู่ร่ำไป ช่างเรื่องมากแท้ๆในความคิดของเด็กสาว
“ บ้านน่ะ ไม่ใช่ปลาเค็ม จะได้ซื้อเอาง่ายๆโดยไม่ต้องเลือก”
เขาย้อนด้วยประโยคที่เธอเคยว่าไว้เมื่อก่อนจะมา
“ โห พี่ลุฟก็เลือกมากไป เงาะว่าเอาไอ้หลังชั้นเดียวนั้นก็ได้ ขนาดกะทัดรัดเหมาะที่จะอยู่คนเดียวดี”
เด็กสาวพูดถึงบ้านหลังหนึ่งที่เคยไปดูด้วยกันมา
“ ไม่เอาหรอก หลังนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยปลอดภัยเพราะอยู่ใกล้แหล่งมั่วสุมของพวกวัยรุ่น”
ชายหนุ่มแย้งทันที
“ งั้นก็เอาหลังสองชั้นสีเขียวนั้น”
“ นั้นก็อยู่ห่างมหาวิทยาลัยไป คงต้องตื่นแต่เช้ามืดจึงจะไปทันเรียนและตอนเย็นกว่าจะถึงบ้านก็คงดึกดื่น”
ทุกเหตุผลของเขาดูเหมือนจะยึดเอาความปลอดภัยของเด็กสาวเป็นใหญ่ทั้งสิ้น
“ โธ่ พี่ลุฟขา แล้วชาตินี้เงาะจะได้มาเรียนไหม”
เด็กสาวทำเสียงอ่อนอกอ่อนใจเธอพลิกตัวลงนอนคว่ำแล้วดึงเอาหมอนอิงมารองใต้คาง จ้องมองเขาด้วยตาแป๋วกลมโต
“ ใจเย็นๆสิ ที่พี่เลือกมากอย่างนี้ก็เพราะเป็นห่วงเงาะมากรู้ไหม”
น้ำเสียงจริงจังกับประกายบางอย่างในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาลดอาการงอแงของเด็กสาวได้เกือบหมดสิ้น
“ แต่เงาะเหนื่อยนี่ค่ะ”
“ เหนื่อยก็อยู่ห้องพัก พรุ่งนี้พี่จะไปหาคนเดียวเอง”
เขาสรุปสั้นๆ
“ ทำไมพี่ลุฟถึงได้เป็นห่วงเงาะขนาดนี้ค่ะ”
เสียงใสใสไม่วายซักถาม เพราะเห็นว่าเขาไม่จำเป็นต้องมาหาเรื่องลำบากอยู่อย่างนี้ แค่ตัดสินใจซื้อๆไปเขาก็จะหมดภาระไม่ต้องมาทนเหนื่อยอยู่กับเด็กกะโปโลอย่างเธอ
“ ก็เงาะเป็นน้องสาวของพี่ไง”
ชายหนุ่มตอบพลางเบนสายตาไปทางอื่นที่ไม่มีดวงตาใสวาวราวกับนิลเนื้อดีจ้องจับผิดอยู่ และเพราะจ้องอยู่เด็กสาวจึงได้เห็นว่าหน้าขาวๆของเขาแดงเรื่อขึ้นมาอย่างมีพิรุธ สาวน้อยจึงลุกขึ้นมาจ้องดูใกล้ๆ
“ แค่นั้นเองเหรอค่ะ”
“ อืม...แค่นั้นแหละ”
ชายหนุ่มทำท่ารำคาญกลบเกลื่อน พยายามจะหันหน้าหนี
“ แต่เงาะไม่เชื่อ”
เด็กสาวใช้สองแขนเรียวกอดล๊อคคอเขาไว้ไม่ให้หันหนีไปไหนพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างจะค้นคว้าหาคำตอบ
กิริยาสดใสไร้เดียงสานั้นทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหวไม่น้อย แต่ก็ต้องข่มใจไว้
“ ตอนนี้รู้แค่นั้นพอ”
เขาพยายามทำเสียงเข้ม แต่ก็ไม่กล้าสบตากับเธอ
“ พูดอย่างนี้แสดงว่าต้องมีตอนอื่นอีก”
บุญทิวากล่าวอย่างตื่นเต้นแล้วตามจ้องตาเขาไม่ลดละ
“ อย่าดื้อสิ”
ชายหนุ่มทำเสียงดุ พยายามจะปลดแขนเด็กสาวออก
“ บอกมาก่อนว่ามีตอนอื่นอีกใช่ไหม บอกมาน่ะ”
เด็กสาวยังคงคาดคั้น
“ ไว้ให้โตเป็นสาวกว่านี้ก่อน”
เขาต่อรองออกมาในที่สุด
“ ทำไมต้องรอให้โตเป็นสาวด้วย ตอนนี้ก็บอกได้”
เด็กสาวกล่าวอย่างดื้อดึงไม่ยอมแพ้
“ เหรอ...”
ชายหนุ่มทำเสียงยืดยาด หยุดอาการดิ้นรนพยายามหลบตาเด็กสาวลงแล้วกลับมาจ้องตาเธอเขม็งจนเด็กสาวเป็นฝ่ายชะงัก แล้วริมฝีปากสวยได้รูปของเขาก็โฉบเข้ามาสัมผัสกับริมฝีปากอิ่มงามเหมือนกลีบกุหลาบแรกแย้มของเด็กสาว
....................
ด้วยรักและขอบคุณจาก...ลภัสรินทร์
( ด้านล่างคือลิ้งค์อีบุคของนิยายเรื่องนี้ )
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiODIzMDY3IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTExODA2Ijt9
หมายเหตุ : ที่ลงสถานะของนิยายว่า จบแล้ว นั้นคือหมายถึงว่านักเขียนได้เขียนนิยายเรื่องนี้จนจบแล้วและได้นำไปวางขายในรูปแบบของอีบุคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตรงนี้คือการนำมาลงให้ทดลองอ่านกันแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งถ้าใครสนใจจะอ่านต่อจนจบก็ตามลิ้งค์ที่ได้นำมาลงไว้ให้ไปได้เลย หรือจะติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ กานติณัฎฐ,กันตินันท์ หรือเฟสบุค กันตินันท์,กานติณัฎฐ ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจนะคะ
งานเขียนเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติกฎหมายลิขสิทธิ์ทุกประการ ห้ามมิให้ผู้ใดทำการคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของงานเขียนเล่มนี้เพื่อนำออกเผยแพร่ไม่ว่างช่องทางใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และถูกดำเนินคดีการตามกฎหมาย