นักรักข้างสังเวียน
3
ตอน
1.98K
เข้าชม
31
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

ผมมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง เธอชื่อว่ามินา

เธอไว้ผมม้า รวบผมยาวไว้ด้านหลังด้วยหนังสติ๊กหลากสี ตาโตคิ้วโค้ง มองแล้วเเหมือนเด็กญี่ปุ่น

อายุเพิ่งได้ห้าขวบได้ไม่นาน

เธอเป็นเด็กซุ่มซ่าม โตขนาดนี้แล้วยังเดินล้ม ๆ สะดุดได้แม้แต่เท้าตัวเอง

คราวนี้ก็เหมือนกัน ปากเธอคาบขนมปัง มือเธอถือกล่องนม ส่วนอีกข้างถือแทปเลต

ขณะผมก้าวเข้าบ้าน เธอก็ขว้างสิ่งเหล่านั้นมาให้ผมพร้อม ๆ กัน พร้อมกับเสียงโครมเมื่อร่างของเธอกระทบพื้น

"หวาย..."

สิ่งที่ผมทำได้ตอนนั้น ปากคาบแทปเลต มือขวาคว้าขนมปัง มือซ้ายรับขวดนมไว้ได้ ทั้งหมดลอยมาพร้อมกันในอากาศ มันเป็นสัญชาตญานพิเศษที่ผมเองก็ยังงงตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำได้ยังไง

กระนั้นผมก็ต้องล้มก้นจ้ำเบ้า หงายผึ่งลงไปกับพื้นเพราะเสียหลัก

แล้วก็มีเสียงแปะ ๆ จากการตบมือของเจ้าตัวเแสบ

เธอไม่ได้ตบมือชื่นชมผม เธอตบมือไปมาเพื่อปัดฝุ่นที่มือของเธอ

"เอาของมินาคืนมา.."

"ไม่แปลกใจเลยรึว่าทำไมพี่ถึงรับได้ นมไม่หกแม้แต่หยดเดียว?"

ผมพูดอู้อี้เพราะปากคาบแทปเลตอยู่ เธอทำสีหน้าแปลก ๆ

"น้ำลายพี่ไหลเปรอะแทปเลตหนู่แล้ววว"

 

นั่นเป็นเรื่องของน้องสาว ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่บ้าง ไม่ต้องกล่าวถึงก็ยังได้

แต่ที่ผมเอามาเปิดเรื่องก็เพราะมันเหมือนจริง ๆ

มันเหมือนเรื่องในการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ที่ผมเคยอ่านมาตอนเด็ก ๆ มีการเปิดตัวพระเองด้วยฉากนี้แหละ

ผมซึ่งไม่ใช่พระเอก คืนข้าวของเหล่านั้นให้น้องสาวไป พร้อมกับนึกถึงฉากต่อไป

ในการ์ตูนจะต้องมีเพื่อนมาเรียก เป็นเพื่อนซี้มาตั้งแต่ชั้นประถม

เพื่อที่จะออกไปทำธุระอะไรกันซักอย่าง

แล้วผมก็ถึงกับใจหาย..เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมาจากรั้วบ้าน

"นายธัน..อยู่ป่าวววว?"

นั่นมันเสียงของยัยปาล์ม เพื่อนเล่นต่างเพศมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมของผมจริง ๆ

ตายล่ะหว่า หรือเรื่องนี้จะเป็นเหมือนในการ์ตูนจริง ๆ??

ในชีวิตจริงมีอย่างนี้ด้วยหรือ??

++++

 

เธอมาพร้อมกับสายฝน

สายฝนที่ทำให้ผมรีบกลับบ้าน เธอกลับมาชวนผมฝ่าสายฝนไปทำธุระกับเธอ

"เป็นเพื่อนซี้กัน ต้องไปด้วยกันสิ"

ผมมองดวงตากลมบ๊องแบ๊วนั้นอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี เพื่อนซี้ของเธอแปลว่าอะไรกันแน่?

ผมสั้นแค่คอตามปกติของเด็กสาวมัธยมต้น เธออยู่ในชุดสีทึม ๆ กับกางเกงยืดรัดตัว

ปากเธอแดง หูเธอกางออกมาจากไรผมเล็กน้อย

เธออายุสิบห้าเท่าผม

""แล้วจะไปไหนล่ะ?"

"เถอะน่า..ตามมาเถอะ"

เธอพูดเหมือนในการ์ตูนเรื่องนั้นเปี๊ยบเลย แต่ว่า ในการ์ตูนเพื่อนซี้ที่มาเรียกเป็นผู้ชายไม่ใช่รึ?

ผมแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

ขออย่าให้เหมือนในการ์ตูนเลยนะ

++++

 

สภาพถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำที่กระเด็นเจ๊าะแจ๊ะขึ้นมาเปื้อนรองเท้า ทำให้ผมไม่ค่อยอยากจะไปไหนไกลนัก

"ถึงหรือยังล่ะ?"

"นั่นไง.." เธอชี้มือไปที่แห่งหนึ่ง

เราสองคนยืนอยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่ฝั่งตรงข้าม ถนนรถราไม่มากนักขวางกั้นเราอยู่

ผมมองตาม..มันเป็นร้านคาร์แคร์ร้านเดียวที่เมืองของเรามีอยู่

"แล้วไง?"

เธอเพ่งตามองตามใครคนหนึ่ง ผมยาวประบ่า ใส่หมวกสีส้ม เสื้อยืดสีน้ำเงิน กับกางเกงกีฬาสีดำ

ผมมองเห็นแต่สันจมูกของเขาที่โผล่พ้นออกมา ขณะที่เขากำลังก้ม ๆ เงย ๆ ล้างรถหรูคันหนึ่งอยู่

"ใคร?"

"แฟนฉันเอง"

ผมถอนใจ ยัยปาล์มมักขี้ตู่อย่างนี้เสมอ

แม้แต่ผมเธอก็เคยทึกทักว่าเป็นแฟนกันมาพักหนึ่ง กระทั่งผมต้องใชคำพูดเด็ดขาดไปในวันหนึ่ง เธอถึงยอมเลิกลา

"ฉันไม่ชอบผู้หญิง"

 

"แล้วทำไมมายืนแอบดูอยู่ตรงนี้??" ผมถาม

เธอทำหน้าแดง ม้วนไปมา

"เขายังไม่รู้ตัวน่ะดิ ว่าเขาเป็นแฟนฉันแล้ว"

"คบกันมานานรึยัง?"

"ฉันแอบดูเขามาได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว"

"นานนะนั่น.."

"ใช่มะ ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องให้เขารู้ให้ได้ว่าเขาต้องเป็นแฟนฉันแล้วใช่มะ?"

ผมส่ายหัว

"ฉันยังไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย.."

ปาล์มทำสีหน้ากลุ้มใจ

"ช่วยฉันหน่อยสิ ขอแค่ให้ฉันได้รู้จักชื่อเขาก็พอ.."

ผมเกาหัว ฝนยังไม่มีทีท่าจะหยุดตก เราสองคนคุยกันในร่มคันเดียวกัน

"เป็นเหารึไง อย่ามาติดฉันนะ"

ผมคว้ามือเธอออกจากโคนไม้ใหญ่นั้น

"บุกเข้าไปเลยดีกว่า.."

"ว๊าย..."

 

ในทันทีที่เรามายืนอยู่หน้าร้านคาร์แคร์แห่งนั้น ยัยปาล์มที่หวีดว้ายเป็นพิธีก็เงียบกริบ

มีเหตุการณ์ที่เหมือนกับในการ์ตูนเรื่องนั้นเป๊ะ ๆ เกิดขึ้น

ชายฉกรรจ์สองคน ดูก็ออกว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่ของเด็กหนุ่มคนที่ยัยปาล์มแอบชอบอยู่ เดินเข้าไปผลักอกเขาจนฟองน้ำในมือของเขาก็เด็น ฟองแชมพูกระจาย เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว

"มึงทำอะไรของมึงวะ กูบอกแล้วไงว่าเด็กใหม่อย่างมึงต้องไปล้างผ้ายางก่อนไม่ใช่มาล้างรถ รถหรูอย่างนี้มึงทำของเขาเป็นรอยน้ำหน้าอย่างมึงจะมีเงินชดใช้เขารึวะ?"

มันเป็นเสียงหาเรื่องโดยแท้ ผมเองที่เป็นคนเรียบร้อยใจเย็นยังรู้สึกเลยว่าเสียงมันกวนตรีนจริง ๆ

แต่หมอนั่นใจเย็นยิ่งกว่า ร่างสูงของเขาสงบนิ่ง ตาคมวาว ปากบางเม้นแน่น

"ชิ ทำเป็นขยัน หัวหน้าเขาไม่พิศวาสอะไรมึงนักหรอก มาได้ไม่กี่วันทำตัวได้น่าเตะดีเหลือเกินนะมึง.."

เขายังคงเงียบ ผมก็เดาได้ ไอ้หนุ่มจมูกโด่งคนนั้นคงเป็นเด็กใหม่ที่ขยันซะจนเด็กเก่ารู้สึกเสียหน้านั่นเอง

"มองหน้าอีก มีปัญหารึไง" ไอ้รุ่นพี่อีกคนตะคอกมา พร้อมกระโจนเข้าใส่

ยัยปาล์มยกมือปิดปากตาเหลือก ผมหลับตาปี๊ ผมไม่เคยทนดูเรื่องพวกนี้ได้มาแต่ไหนแต่ไร

ได้ยินเสียงตุบตับไม่กี่ทีทุกอย่างก็เงียบกริบ

พอผมลืมตาขึ้นมา ภาพตรงหน้าก็ทำให้อ้าปากค้าง

ฉกรรจ์สองคนนอนเค้เก้อยู่กับพื้น ไอ้หนุ่มผมยาวเดินไปหยิบฟองน้ำตรงไปล้างรถต่อ

"นี่มันในการ์ตูนชัด ๆ "

ผมอุทานออกมาอย่างลืมตัว

++++

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว