บทนำ
โรงอาหาร
ผลัวะ!!!
แรงตบที่ยังไม่รู้ที่มาแน่ชัด แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มันได้โบกลงมาบนหัวสวยๆ ของผมเต็มๆ เอาซะหน้าผมนี่แทบจะทิ่มลงไปในจานข้าวที่ผมยังไม่แตะแม้แต่ปลายช้อน
ใคร! ใคร!! คร้ายยยยยยย มันช่างไม่รู้ที่ตายของตัวเอง วันนี้ผมจะทำให้มันได้รู้!!!
ว่าใครที่กล้ามาย่ำยีหัวผมมันจะต้องไม่ตายดี ฮึ!
ผมว่างหนังสือการ์ตูนที่กำลังอ่านบนโต๊ะ ก่อนจะตวัดสายตาพิฆาตหันไปมองไอ้มือตบที่ยังคงยืนนิ่งไม่รู้ชะตากรรมด้านหลัง ผมไล่สายตาตั้งแต่เอวสอบที่แทบจะชิดหน้าบ่งบอกให้รู้ว่าไอ้มือตบมันเป็นคนที่ตัวสูงพอสมควร (ถ้าบอกว่ามันสูงมากๆ มันก็เท่กว่าผมนะสิ) แต่ก่อนที่ผมจะไล่สายตาขึ้นไปผมว่าเข็มขัดมันดูคุ้นๆ ตาชอบกลนะครับ แต่ช่างมันเถอะ ใช่ว่าเข็มขัดแบบนี้ ‘มัน’จะมีอยู่คนเดียวซะเมื่อไร
หลังจากสำรวจเอวมันได้ที่แล้ว ผมก็ไล่นับกระดุมเสื้อนักศึกษาขึ้นไปที่ละเม็ด...ทีละเม็ด...และสามเม็ด! สามเม็ดเนี้ยนะ ‘แมร่งจะโชว์ไปไหนวะ’ (เกรงใจกูนิดนึง)ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง (อย่างอิจฉาตาร้อน) เพราะจากการนับกระดุมเสื้อที่ไอ้มือตบมันติด มีเพียงแค่สามเท่านั้น ที่เหลือมันปล่อยโชว์ ก้มทีนี่คงเห็นไปถึงสะดือ!
‘เอ๊ะ แล้วทำไมกูต้องอารมณ์เสียด้วยว่ะ’
และจากการใส่เสื้อโชว์เนื้อหนังมังสาของมัน ยิ่งทำให้คิ้วผมยิ่งขมวดขึ้นไปอีก เพราะสีผิวคร้ามแดดจากการเล่นกีฬาแบบนี้มันช่างคุ้นตาผมเหลือเกิน แต่คงไม่ใช่ ‘มัน’ หรอก เพราะมันโทรมาบอกผมแล้วว่าวันนี้มันมากินข้าวด้วยไม่ได้ เพราะติดพรีเซนต์ห่าเหวอะไรของมันก็ไม่รู้
จากหน้าอกแกร่งที่ทำเอาผมแทบเลือดกำเดาพุ่ง ผมก็เลื่อนสายตาขึ้นไปอีกหน่อยก็เจอกับลำคอแกร่งที่ชายหญิงคนใดได้เห็นเป็นต้องอยากไซ้ (แต่ไม่ใช่ผมหรอกนะ) ขึ้นมาอีกนิดก็เจอกับคางเรียวคม...ริมฝีปากบางแดงหน้าจูบ...จมูกโด่งสันตรง...และสุดท้ายดวงตาที่แสน...น....
แมร่งมาได้ไงว่ะ
“เชี่ยอิ้งตบหน้ากูที”
ทันทีที่ได้สบตากับดวงตาเข้มดุสีดำสนิท ทำเอาผมนี่อยากจะให้ตัวเองกลายเป็นวิญญาณ อย่างในเพลงพี่แสตมป์ เพราะว่าฉันนั้นคือวิญญาณที่ทุกข์ทรมานนนนนนน (ขอสักท่อน)
“แรงป่ะ”
‘อิ้ง’ หรือถ้าเอาแบบเต็มๆ กระแดะๆ หน่อย คือ ‘อังกฤษ’ ครับ ผมก็ไม่รู้ว่าครอบครัวมันตั้งชื่อจากอะไร แต่บอกเลยว่าพ่อแม่มันสร้างสรรค์มาก (ประชด) ซึ่งเพราะชื่อมันนี่เองที่ทำเอาผมอยากรู้จัก (เพราะหมั่นไส้) และเป็นเพื่อนกัน (เพราะเมา)มาตั้งแต่ปี 1และเพราะความชื่อยาวของมัน ผมผู้ที่สุดแสนจะหล่อและรวยมาก (เกี่ยว?) เลยบัญญัติชื่อให้มันใหม่ว่าอิ้งซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้คัดค้าน (สาบานเถอะ) ทั่วทั้งคณะ (ในและนอก) เลยรู้จักมันในชื่อไอ้อิ้ง จนปัจจุบันทุกคนแทบจะลืมชื่อเดิมมันไปแล้วครับ
ไอ้อิ้งตอบกลับผม ขณะที่มันกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับจอมือถือ มึงสนใจกูมากเลยไอ้เพื่อนเวรรรร
“อย่าได้ยั้ง”
ผมตอบกลับมันขณะที่สายตายังคงจดจ้องประสานสายตากับดวงตาคู่คม ผมหวังว่ามันคงจะเป็นแค่การฝันกลางวันของผม พอไอ้อิ้งมันตบหน้า ผมก็จะสะดุ้งตื่นและไอ้เหี้ยมตรงหน้าจะหายไป...
ผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น....
“เชี่ยจะให้กูตบป่ะเนี้ย หันมาดิว่ะ”
ไอ้อิ้งพูด และแล้วมันก็เงยหน้าขึ้นมาจากการโดนจอมือถือดูดจนได้ ก่อนที่มันจะเตรียมง้างมือ 45 องศา ผมก็ละสายตาจากภาพตรงหน้า หันไปทางไอ้อิ้งที่อยู่ตรงข้ามผม รอรับฝ่ามือมันเต็มที
“เอาล่ะนะ”
มึงจะบอกเพื่อ กูยิ่งเสียวๆ อยู่สัส
“เอ๊ะ แต่กูว่ามันไม่น่าจะแรงนะ เอาสูงขึ้นอีกดีกว่าเนอะ”
“สาดดดด จะตบก็ตบจะเอาสูงเอาต่ำมึงตบมาเหอะ”
“อ้าวเหรอ แหะๆ”
ยังมีหน้ามาหัวเราะ เดี๋ยวกูถีบหัวทิ่มดิน
“หนึ่งงง...สองงง...สะ.....”
.
.
.
“เชี่ย พ่อมึงมาก็ไม่บอก”
มันยืนเป็นเจ้าที่ตั้งนานแล้วไอ้เวร มึงพึ่งเห็นเหรอ