ให้รักเรานำทาง NC20+
50
ตอน
72.9K
เข้าชม
239
ถูกใจ
116
ความคิดเห็น
134
เพิ่มลงคลัง

เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่อง ใต้ปีกแห่งรัก ตัวละครหลักคือ  

หม่อมหลวง วิชชาบรูณ์ พิชญเดชา  

น้ำพราว,พราวฟ้า เด็กสาวที่แพรยาแม่ของคุณตั้มรับมาเลี้ยงเป็นลูกสาวอีกคนตั้งแต่แรกเกิด 

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน  

           วันนี้แพรยาและหม่อมย่า มาสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน เพื่อบริจาคสิ่งของซึ่งทำเป็นประจำทุกปี ที่สำคัญวันนี้เป็นวันเกิดของคุณตั้มด้วย ปัจจุบันคุณตั้มอายุ 4 ขวบ ระหว่างนั้นแพรเดินไปที่ห้องเลี้ยงเด็กแรกเกิด เด็กทุกคนกำลังนอนหลับอย่างน่ารักน่าเอ็นดู จนกระทั่งเดินเลยมาอีกห้องเห็นพี่เลี้ยงกำลังอุ้มเด็กที่ร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุด เป็นเด็กผู้หญิงผิวขาวสะอาดตา ปากนิด จมูกหน่อยน่าเอ็นดู และเธอก็นึกเอ็นดู พี่เลี้ยงพยายามกล่อมก็แล้ว พาเดินก็แล้วเธอก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดร้อง จนแพรยาเดินเข้าไป 

           “ขอแพรอุ้มหน่อยได้ไหมคะ” เธอเอ่ยพูดกับพี่เลี้ยงคนนั้น จากนั้นพี่เลี้ยงเด็กก็หันมาแล้วส่งเด็กให้อุ้ม  

           “ดูเอาเถอะ ทีแบบนี้เงียบเชียว” พี่เลี้ยงเอ่ยแซว เพราะทันทีที่เด็กคนนี้มาอยู่ในอ้อมกอดของแพรยา เธอหยุดร้องไห้ แล้วยิ้มเล่นกับแพรยาเหมือนไม่เคยร้องไห้มาก่อน จนแพรยานึกเอ็นดู  

           “น้องชื่ออะไรคะ” เธอถามพี่เลี้ยงเด็กออกไป  

           “ยังไม่ได้ตั้งเลยค่ะ น้องเพิ่งมาอยู่ได้ 2 วัน ทางโรงพยาบาลเพิ่งส่งมา แม่เด็กคลอดเสร็จแล้วก็ทิ้งไปเลย เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าทำคลอด” 

           “แล้วไม่ติดต่อไปที่บ้านเหรอคะ”  

           “เห็นว่าติดต่อไปแล้วนะคะ คือไปถึงบ้านเลย พบแต่ยายแก่ๆ คนนึงกับสภาพบ้านที่ทรุดโทรมแทบจะพัง ส่วนแม่เด็กคิดว่าเป็นหลานสาวค่ะ ไม่เจอตัว”  

           “เฮ้อ น่าสงสาร ไม่พร้อมก็น่าจะป้องกัน ดูแกสิ น่าตาจิ้มลิ้มน่ารักขนาดนี้ ทิ้งกันได้ลงคอ” ระหว่างที่เธอคุยกับพี่เลี้ยงเด็ก ก็กล่อมจนน้องหลับ แต่พอจะส่งคืนเธอก็กรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง พอกลับมาอยู่ที่อ้อมกอดแพรยาเด็กก็เงียบ 

           “สงสัยน้องจะชอบคุณแพร แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะคะเนี่ย” พี่เลี้ยงเอ่ย 

           “ถ้าแพรจะขอรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงต้องทำยังไงบ้างคะ” เธอเอ่ยถามออกไปแล้วมองเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างรู้สึกรักและสงสาร  

           “คุณแพรลองไปติดต่อที่สำนักงานนะคะ แต่ตอนนี้จะทำยังไงดีกว่า พอส่งมาให้พี่แกก็ร้องไห้”  

           “เดี๋ยวแพรอุ้มเองค่ะ ถ้าเอากลับไปวันนี้ได้จะพากลับไปด้วยเลย” แพรยาเอ่ยบอกแล้วก็อุ้มเธอไว้แล้วเดินกลับไปที่สำนักงาน  

           หม่อมย่าที่นั่งคุยกับครูใหญ่อยู่ก็หันมาเห็น 

           “อุ้มเด็กที่ไหนมาแพร”  

           “หม่อมย่าขา หนูน้อยคนนี้ไม่ยอมห่างแพรเลยค่ะ แพรอยากรับเลี้ยงเป็นลูก”  

           “หม่อมย่าพิจารณารูปร่างหน้าตาเด็ก ก็เอ็นดู ด้วยผิดพรรณสะอาดสะอ้าน ใบหน้าจิ้มลิ้ม นึกแล้วก็เอ็นดู”  

           “ถามพี่ชายเราก่อน ย่าไม่มีปัญหานะ เด็กน่าเอ็นดูขนาดนี้”  

           “งั้นแพรรบกวนหม่อมย่าอุ้มไว้ให้แพรนะคะ ขอโทรหาพี่ชายก่อน” แล้วเธอก็ส่งเด็กให้หม่อมย่าอุ้ม ซึ่งก็แปลกไม่ยักกะจะร้อง แพรยาหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปแล้วกดส่งให้คุณชายดู  

 

Line : 

Peary : <<ส่งรูป>>>>> 

Virakorn : ??? 

Peary : ลูกของเรา 

แล้วเธอก็กดสายคอลไลน์ทันที  

“พี่ชายขา คนนี้ลูกของเราได้ไหมคะ” แพรยาเอ่ยถามปลายสาย  

           “พี่แล้วแต่หนู หนูชอบเด็กคนนี้เหรอ” ชายวิรากรเอ่ยถาม  

           “ค่ะ เธอน่าสงสาร แพรนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ พี่ชายไม่อยากมีลูกสาวเหรอคะ” เธอถามกลับ  

           “อยากครับ แต่พี่ไม่อยากให้หนูต้องทรมานเวลาแพ้ท้องอีก ตกลงครับเรารับเด็กคนนี้เป็นลูกนะครับ”  

           “ขอบคุณนะคะ คืนนี้เดี๋ยวหนูมีรางวัลให้”  

           จนกว่าจะทำเรื่องเสร็จ แพรยาถึงจะสามารถรับเด็กคนนี้ไปได้ แต่เนื่องจากดูท่าแล้วเด็กจะติดแพรยามาก ทางสถานเลี้ยงเด็ก จึงอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้รับกลับวันนี้ได้เลย  

           เมื่อกลับถึงวัง คุณตั้มที่กำลังเล่นซนก็วิ่งมาหาแม่แพร  

           “ม้ามี่ ม้ามี่” แล้วเขาก็หยุดชะงักมองบางอย่างตรงหน้าที่แม่อุ้มไว้ ดิ้นดุ๊กดิ๊ก 

           “น้อง น้องของตั้มไงลูก หนูมีน้องแล้วนะครับ” คุณตั้มมองเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดของแพรยาแล้วค่อยๆเอานิ้วไปแตะน้องเบาๆ แล้วก็เงยหน้ายิ้มให้กับแพรยา เด็กทารกที่อยู่ในมือชี้นิ้วขึ้นมาแตะกับนิ้วของคุณตั้มแล้วหัวเราะ  

           “นี่พี่หนูนะคะ ต่อไปมาเป็นลูกของแม่นะน้องพราว”  

           “พี่น้อย ฝากดูแลน้องพราวด้วยนะคะ เลี้ยงไหวไหมอีกคน”  

           “สบายค่ะ” น้อยเอ่ย มีคนช่วยแล้วพี่ไม่เหนื่อย          

           แพรยาเลี้ยงทั้งคุณตั้มและน้องพราวมาด้วยความรัก สอนให้คุณตั้มรักน้องและน้องก็รักคุณตั้ม  

           คุณชายวิรากรเองก็รักและเอ็นดูน้องพราวเหมือนลูกแท้ด้วยเช่นกัน น้องพราวเป็นเด็กขี้อ้อนมาก ใครเห็นก็ต้องหลงรัก เรียกว่าอ้อนยิ่งกว่าคุณตั้มเสียอีก เลยทำให้ทุกคนในวังรักเธอและเอ็นดู  

 

ปัจจุบัน  

           เวลาผ่านไป คุณตั้มและน้องพราวโตขึ้น ตอนนี้คุณตั้มอายุ 4 ขวบแล้ว ส่วนน้องพราวอายุ 2 ขวบ คุณตั้มเป็นคนฉลาดเรียกว่าอัจฉริยะได้เลย อายุ 4 ขวบสามารถเข้าเรียนชั้น ป.1 ได้ทันทีไม่ต้องเรียนชั้นอนุบาล ความฉลาดและเก่งนี้พ่อกับปู่หลงรักลูกและหลานชายยิ่งนัก   

           “ตั้มๆ จุ๊บๆ” หญิงสาวตัวน้องวิ่งตึงๆๆๆๆๆ ไปโผกอดพี่ชายเมื่อคุณตั้มกลับมาจากโรงเรียน แล้วกะพยายามเขย่งตัวจะหอมแก้มแต่เพราะคุณตั้มตัวสูงเธอเลยไม่ถึงคุณตั้มเลยย่อตัวลงมาให้เธอได้หอมสมใจ  

           น้องพราวติดคุณตั้มมากเวลาอยู่บ้านมักจะเกาะติดไม่ห่าง ส่วนคุณตั้มเองก็รักน้องตามใจน้องแทบทุกอย่าง ชอบอ่านหนังสือให้ฟัง เล่านิทานให้ฟังแม้จะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ทั้งหมดมักจะเห็นภาพนี้เสมอ  

เวลาผ่านไป จนกระทั่งตอนนี้คุณตั้มอายุ 9 ขวบ กำลังจะขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ส่วนน้องพราวอายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ ป.2 ตามเกณฑ์ 

           สาวน้อยวัย 7 ขวบกำลังยกถาดขนมและเครื่องดื่มมาบริการพี่ชายที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ คุณตั้งกับน้องพราวอายุห่างกัน 2 ปี แต่ด้วยความฉลาดของคุณตั้มทำให้เพียงอายุแค่ 9 ขวบ ก็ขึ้นสู่ชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นได้แล้ว น้องพราวนั่งทำการบ้านอยู่เงียบๆ ข้างพี่ชายที่อ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียด หากการบ้านข้อไหนทำไม่ได้คุณตั้มก็จะสอนจากนั้นก็หันมาสนใจหนังสือของตัวเองต่อ ภาพเหล่ามีให้เห็นจนชินตา  

            

เวลาผ่านไปจนกระทั่งคุณตั้มเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ด้วยอายุเพียง 15 ปี ส่วนน้องพราวยังเรียนอยู่มัธยมต้น อายุ 13 ปี  

             “พี่ตั้มเก่งที่สุดเลยค่ะ น้องพราวรักพี่ตั้มที่สุด” ในวันจบการศึกษา น้องพราวมีของขวัญให้คุณตั้มเป็นปากกาที่เธอเก็บค่าขนมและรับจ้างแม่แพร กับคุณพ่อทำงานเล็กๆน้อยๆ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นค่าขนมนิดหน่อย ซึ่งตอนที่คุณแม่กับคุณพ่อถามจะเอาเงินไปทำอะไรเธอไม่ยอมตอบ จนมาวันนี้ทุกคนรับรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอขอนั้นเพื่ออะไร  

           แพรยาดีใจที่ลูกทั้งสองคนรักใคร่กันดีไม่เคยทะเลาะ ถึงแม้คุณตั้มดูโตเกินวัย สมองดี เรียนเก่ง แต่ก็ไม่เคยมีนิสัยข่มผู้น้อยเลยสักครั้งเดียว  

           คุณตั้มจะติดพ่อมาก ช่วงปิดเทอมมักจะตามคุณชายวิรากรมาที่บริษัทด้วยเสมอ ที่สำคัญทั้งสองมักจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษเสียส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ว่าเรื่องบางเด็กรับใช้ในบ้านก็ไม่ควรรู้ หากเกี่ยวกับเรื่องงานซึ่งทั้งท่านชายวิชชุกรผู้เป็นปู่ กับ ท่านชายวิรากรผู้เป็นพ่อ ก็เห็นด้วยกับเหตุผลนี้ ยิ่งเรื่องด้านมืดแล้วจะไม่มีการพูดภาษาไทยเด็ดขาดถ้าไม่ภาษาอังกฤษ ก็จะไปภาษาเยอรมันหรือภาษาจีนไปเลย ระยะหลังทั้ง 3 คนมักจะคุยกันเรื่องงานมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่ท่านชายวิชชุกร กับ ท่านชายวิรากรมักจะคุยกันที่ห้องทำงาน แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาคุยกันที่ห้องนั่งเล่นบ้าง โต๊ะอาหารบ้าง ถึงจะไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไรมาก แต่ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้เพราะคุณตั้มมักจะชอบมีคำถามเรื่องงานมาถามท่านปู่และคุณพ่อเสมอ  

           วันนี้คุณตั้มเพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจรับน้องในรั้วมหาวิทยาลัยวันแรก ทันทีที่มาถึงหน้าประตู สาวน้อยวัยใส่ อย่างน้องพราวก็วิ่งมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำที่อบกลิ่นดอกไม้จางๆ แล้วนำผ้าไปแช่เย็นเล็กน้อย ยื่นส่งให้คุณตั้ม  

           “ขอบใจนะน้องสาวพี่” คุณตั้มเอามือไปโยกหัวเธอเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม  

           “วันนี้เหนื่อยไหมคะ อยากทานอะไรไหม อ้อ วันนี้น้องพราวช่วยคุณทวดทำขนมด้วย พี่ตั้มอยากรับขนมไหมคะ”  

           “อืม..... “ คำตอบสั้นๆ เท่านั้นเด็กสาววัยใสก็วิ่งจู้ดไปห้องครัวทันที แล้วเดินกลับมาพร้อมกับถาดสาคูไส้หมู จานเล็กๆ วางลงตรงหน้า  

           “นี่น้องพราวทำเองเหรอ” คุณตั้มที่มองเอ่ยถาม  

           “ทำเองค่ะ พี่ตั้มลองชิมดูสิคะอร่อยไหม”  

           “อืม พี่อยากอาบน้ำ” เขาว่าแล้วก็ลุกขึ้น คุณชายผู้เริ่มที่จะสู่วัยรุ่นก็เริ่มที่จะคุยเล่นกับน้องพราวน้อยลง  

           “เดี๋ยวพราวไปเตรียมน้ำให้ค่ะ”  

 

           ........................................  

           เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ติดตามในภาคต่อของเรื่อง หัวใจไม่ไร้รัก นะคะ  

อย่าลืมกดไลค์ให้กันด้วยน๊าาาาาาาาา จุ๊บๆ  

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว