1
หญิงสาวผู้พิการ....กับความฝันอันยิ่งใหญ่
เรื่องโดย นริดา
*ขลุ่ยยังมีเลาเป่า ซอก็ยังมีสาย
คนยังไม่ทิ้งลวดลาย ยังมีไฟ ลมหายใจยังอุ่น
โชคชะตาหรือเพราะฟ้าลิขิต พาชีวิตมีร่างกายไม่ครบส่วน
จึงเสียดายความฝันอันโหยหวน มันเจ็บปวดเจียนจวนแทบขาดใจ
เคยสัญญาต่อหน้าเชิงตะกอน ต้องลุ่มร้อนเผากายใจแทบมอดไหม้
จะสืบสานฝันของพ่อ ต่ออย่างไร ที่ร่างกายลูกมาเหลือแค่ครึ่งเดียว
*ขลุ่ยยังมีเลาเป่า ซอก็ยังมีสาย
คนยังไม่ทิ้งลวดลาย ยังมีไฟ ลมหายใจยังอุ่น
ขาทั้งสองของลูกมาขาดเขิน ลูกมาเดินไม่ได้แสนลำบาก
คิดถึงพ่อทีไรเศร้าใจนัก ลูกนี้ไม่อยากมีชีวิตถึงวันใหม่
มาเหลียวมองสองมือที่มีอยู่ พ่อเคยเขียนคำว่าสู้ให้กำไว้
ถึงไม่มีสองขาให้ยืนไหว ต่อไปนี้ใจของลูกแข็งแรงพอ
ขลุ่ยยังมีเลาเป่า ซอก็ยังมีสาย
คนยังไม่ทิ้งลวดลาย ยังมีไฟ ลมหายใจยังอุ่น
กระดาษแผ่นเล็กๆแทบจะเป็นเศษกระดาษเจ้าของสมควรที่จะทิ้งมันไปตั้งนานแล้วนะ แต่ทว่าบทเพลงที่หญิงสาวบรรจงเขียนออกมาจากใจ เธอยังพอใจที่ได้เล่นร้องเพลงนี้อยู่เป็นหลายๆรอบเสียงซอ ผสานกับเสียงขลุ่ยเคล้าให้น่าชื่นชมยามเย็นเช่นนี้ มันเป็นความหมายคือความเศร้ามากๆ ของบทเพลง เนื้อหาที่ตรงกับสภาพของหญิงสาวทำให้เธอมีน้ำมาคลอที่เบ้าตาจนเอ่อล้นออกมาเลยทีเดียว
พ่อผู้ให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ ให้เกิดมาลืมตามองดูโลกอันสดใส แม่ผู้อุ้มท้องแสนลำบาก ต้องมาจากเธอไปหลังจากคลอดมีนชญา ได้ไม่นานแม่ก็สิ้นลมหายใจด้วยโรคหัวใจ จึงทำให้ลูกผู้ชายอย่างเพชรกล้าต้องกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่แบเบาะ ตอนเขายังหนุ่มเขาเคยได้เดินทางเข้าเมือง
หลวงฝึกวิชาเพลงขลุ่ยกับอาจารย์ท่านหนึ่งจนเชี่ยวชาญเจนจัด ครั้งหนึ่งในชีวิตที่พ่อคนนี้เคยได้รับโอกาสได้ไปทำการแสดงต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว เพชรกล้าจะเก็บรูปภาพวันนั้น ไว้ข้างๆ เสมอ และบนหัวนอนจะมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ด้วย เขาให้โอกาสมีนชญาผู้เป็นบุตรสาวได้ตัดสินใจเลือกสายการเรียนที่เธอถนัดและตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุด และเธอก็ทำให้หัวใจของผู้เป็นบิดาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจเมื่อเธอกำลังจะเรียนจบสายดนตรีไทย และเธอเลือกที่จะเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ มีนชญาถนัดเพลงขลุ่ยพอๆกับเพชรกล้า แถมยังมีซออีกอันหนึ่งที่เธอเริ่มฝึกหัด เธอชอบที่จะเล่นซอผสมกับเสียงขลุ่ยของเพชรกล้าทุกเย็น
ในฤดูการของการประกวดแข่งขันดนตรีไทย หญิงสาวเดินทางไปประกวดดนตรีไทยโดยมี
กำลังใจคนสำคัญนั่งรถไปด้วย
ต่อหน้าคณะกรรมการครั้งนี้เป็นการประกวดระดับภาค ก่อนจะก้าวไปสู่ระดับประเทศด้วยฝีมือที่ฝึกปรือภายใต้การดูแลของผู้เป็นพ่อ “เธอมักจะทำได้ดีเสมอ....”
“พ่อคะหนูกำลังจะขึ้นเวที พ่อช่วยให้พรหนูด้วยค่ะ...” หญิงสาวหมอบกราบลงแทบตักบิดาในขณะที่เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าเวทีการประกวดรอยยิ้มอิ่มอาบไปทั่วใบหน้าแล้วเอามือล้วงเอาเศษกระดาษแผ่นเล็กๆ ติดมือขึ้นมาด้วย บรรจงจับมืออันนุ่มนิ่มของลูกสาวพลิกให้ฝ่ามือหงายขึ้นแล้ววางกระดาษแผ่นนั้นลงบนฝ่ามือของเธอ มือทั้งสองของผู้เป็นบิดากุมมือเธอให้กำมันเอาไว้แน่นๆ
“หนูจงเปิดออกอ่านตอนขึ้นเวทีนะลูก....” มีนชญาน้ำตาคลอเบ้าพยักหน้าหงึก แล้วก็พลันลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศชื่อตัวเอง ในมือยังกำกระดาษแผ่นเล็กนั้นเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เธอมาหยุดยืนตรงบันไดสามขั้นข้างเวที สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อไล่ความประหม่าให้หมดไป จึงก้มหน้า
ลงแบมือที่กำกระดาษแผ่นที่พ่อให้ออกดู คลี่ข้อความออกอ่านอย่างตั้งใจ “สู้นะลูก” เธอกำมันไว้อีกครั้งก่อนจะมองไปยังบุรุษผู้เป็นบิดาก่อนย่างกรายเหยียบขั้นบันไดสามขั้น และเสียงปรบมือเกรียวใหญ่ก็เริ่มซาลงไม่ถึงสามนาทีเธอก็เริ่มการบรรเลงเพลงซอ แล้วต่อด้วยเสียงขลุ่ยปิดท้ายอย่างสมบูรณ์และพริ้วไหว
จบการแสดงมีนชญาไม่มีความประหม่าใดๆเลยเพราะเธอตั้งใจและมองเห็นพ่อผู้เป็นกำลังใจตลอด
“ทำได้ดีมากเลยเพื่อน” เพื่อนต่างให้คำชื่นชม ผู้เป็นพ่อยกนิ้วโป้งบอกว่ายอดเยี่ยมที่สุด
“ลูกทำได้ดีกว่าพ่อซะอีก”บิดาพูดอย่างให้กำลังใจ
“หนูได้กำลังใจจากพ่อค่ะ นี่ไง” เธอยื่นกระดาษแผ่นเล็กออกให้พ่อดู
ท่ามกลางรอยยิ้มสุดปลื้มของเพชรกล้า
ผู้เป็นบิดาภาคภูมิใจยิ่งนักเมื่อได้ยินเสียงประกาศชื่อผู้ชนะเลิศคือลูกสาว
ของตน เหลืองานหน้าอีกงานเป็นงานระดับประเทศ
“หนูจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด นะคะพ่อ” เธอบอกอย่างนั้นกับบิดาขณะที่นั่งรถกลับบ้าน
“ดีมากเลยลูกพ่อภูมิใจมากๆที่เห็นหนูประสบความสำเร็จในวันนี้” สี
หน้าของผู้เป็นบิดาแช่มชื่นอยู่ตลอดเวลา
รถกระบะฝ่าความมืดมาจนถึงเส้นทางเข้าสู่พื้นที่จังหวัดที่อาศัยอยู่ ใคร
จะไปคาดคิดว่ามันจะเกิดอุบัติเหตุจนได้ สายตาของเขามองเห็นหญิงชราเดินหาบ
ของข้ามถนนในระยะประชิด เขาหักพวงมาลัยหลบหญิงแก่คนนั้นแต่รถดันเสียหลักกระโจนลงข้างถนนแล้วไปชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงอย่างจังอัดก็อบปี้จนร่างของเขาแหลกเหลวเสียชีวิตคาที่
มีนชญาลืมตาโพลงขึ้นมองห้องนอนที่แสนจะพล่ามัว แล้วสายตาของ
เธอก็ค่อยๆ มองชัดเจนขึ้นในที่สุด รู้สึกเจ็บแปรบไปทั่วร่าง เสียงเปิดประตูดังเอี้ยด....พร้อมกับเสียงฝีเท้าของญาติๆ และเพื่อนๆ ต่างรุมเข้ามาถามอาการของเธออย่างเป็นห่วง เธอเหลือบมองใบหน้าของแต่ละคนบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่แว้บเดียวคือคนที่เธอต้องการพบหน้าในเวลานี้มากที่สุด
ก็คือพ่อ
“เห็นพ่อหนูมั๊ย??” เท่านั้นก็ยังไม่มีใครตอบอะไรออกมาเลย แต่ละคนทำหน้าเศร้าทำท่าทำทางเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมาเหมือนกับอมพะนำอะไรไว้สักอย่าง หญิงสาวเพิ่งนึกได้ว่าตอนกลับจากการประกวด เธอกับพ่อเกิดอะไรขึ้น เธอสะดุ้งใจหายอยากคาดคั้นเอาคำตอบจากคนที่มาเยี่ยม และทุกๆคนที่ยืนอยู่
ตรงหน้าก็สุดแสนที่จะสงสารเธอมากที่สุด เมื่อเห็นเธอรู้สึกผิดปกติเมื่อกำลังพยายามที่จะลุกขึ้นนั่ง มือขวาข้างที่ถนัดที่สุดค่อยๆเลื่อนลงมาสัมผัสดูให้แน่ชัดว่านั่นมันหมายถึงความเป็นจริงหรือเปล่าที่เธอไม่มีขาอีกแล้ว ไม่มีเลยทั้งสองข้าง เสียงร่ำไห้จากญาติมิตรและเพื่อนสนิทของเธอดังมาอื้ออึง น้ำตาเธอก็
พาลไหลพรากออกมาอาบทั้งสองพวงแก้ม
“ทุกคน....บอกหนูมาเถอะค่ะ ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ พ่อหนู...พ่อหนู...เสีย...เสียแล้วใช่ไหมคะ?” ทุกคนไม่มีคำตอบ ได้แต่ส่ายหน้าและร้องไห้กันระงม
“อุบัติเหตุทำให้หนูไม่มีขาแล้วใช่ไหมคะ?....” มีนชญาก้มหน้าร้องไห้โฮออกมารู้สึกเสียใจอย่างมากที่สุด ให้กับชีวิตที่แสนรันทดของตัวเธอเอง
เธอถูกนำตัวนั่งอยู่บนรถเข็ญในวันเผาศพเพื่อส่งวิญญาณของผู้เป็นพ่อ ทุกสิ่งอย่างเหมือนเธอมาพบกับหนทางตัน มันกะทันหันมาก หมดอาลัยตายอยาก ไม่อยากแม้จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปในโลกนี้ และการประกวดดนตรีไทยเธอคงไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนไปแข่งขันที่ไหนอีกแล้ว เพราะร่างกายอันพิกลพิการเช่นนี้
หลังงานศพบิดา มีนชญาแทบจะนั่งนิ่งเป็นรูปปั้น มองตรงไปข้างหน้าพ่อที่เหลือไว้เพียงเชิงตะกอนเท่านั้น เธอนึกถึงวันที่มีผู้ให้กำเนิดเหมือนเครื่องฉายหนังเหตุการณ์ต่างๆ ที่ยังชัดเจนจนมันคอยทิ่มตำให้หัวใจต้องปวดร้าวอย่างสาหัส มือทั้งสองบังคับวิวแชร์มายังริมสระน้ำทีแรกเธอตั้งใจจะมาผ่อนคลายอารมณ์ ความคิดชั่ววูบเดียวเธอคิดว่าคงจะทำไม่ได้ในการประกวดรอบที่จะมาถึง เธอไม่มีกะจิตกะใจจะกระทำเรื่องใดเลย.... ขาทั้งสองข้างก็ไม่มี พ่อที่ตายไป ยิ่งสร้างความทุกข์ถม
ให้ เพราะทุกวันที่ผ่านมา ที่ทำให้เธอมีกำลังใจได้ก็คือพ่อเท่านั้น
ล้อวิวแชร์เริ่มหมุนวนมาแตะที่ขอบสระ เธอคิดที่จะกระโจนลงไปในน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย เธออยากตายๆ หายไปเสียจากโลกนี้อาจจะได้ไปพบพ่อและอยู่กับพ่อในห้วงความคิดนั้น
“มีนชญาลูกรัก พ่อไม่ได้จากไปไหนเลย พ่อยังอยู่ให้กำลังใจหนู อยู่ข้างๆ ตรงนี้” เสียงนั้นมันคุ้นเหมือนเสียงพ่อมากๆมาพร้อมกับสายลมเสียงนั้นแผ่วเบามาก เธอปล่อยวางตัวเองให้นั่งบนวิวแชร์อย่างเดิม ความคิดที่จะปลิดชีพตัวเองเมื่อครู่เริ่มเพลาลง เอามือปิดหน้าร้องไห้จนสะอื้นเข้าไปข้างใน
เธอแบมือที่ยังมีคราบน้ำตาเปียกชุ่มอยู่นั้นยื่นมือทั้งสองออกมาดูตรงหน้าชัดๆ ทันทีก็นึกขึ้นได้ เธอรีบถอยวิวแชร์ออกห่างจากขอบสระ
วิวแชร์ของมีนชญามาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องของเธอเองตั้งใจเปิดประตูแง้มๆ ไว้เพื่อเธอจะได้ไม่ต้องลำบากกับการเข้าออกห้องนี้ มือควานหาสิ่งของอะไรบางอย่าง ในที่สุดก็ค้นพบสิ่งที่ต้องการ เธอเงยหน้าขึ้นไปจับจ้องข้างฝาผนังห้องที่มีรูปของพ่อหลวงผู้เสียสละให้ประชาชนให้อยู่ดีมีสุข สักครู่
หนึ่งหญิงสาวก็รีบจ้ำวิวแชร์มาจนถึงหลังวัดที่ตั้งของเชิงตะกอนของผู้เป็นพ่อตั้งเคียงคู่กันกับของแม่ที่มีอยู่ก่อนแล้ว ชุดขาวสะอาดที่เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการสวมชุดดำมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว บัดนี้สาวน้อยชุดขาวบนวิวแชร์ได้สร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเองแสดงเพลงขลุ่ยต่อหน้าเชิงตะกอนของพ่ออย่างเอา
จริง
“ถ้าวิญญาณพ่อมีอยู่จริง ขอกำลังใจให้หนูสู้ต่อไปด้วย หนูหยุดเรื่องจบชีวิตตัวเองแล้ว หนูยังมีสองมือ และมือนี้ล่ะที่พ่อเคยเขียนคำว่าสู้ให้หนูกำมันไว้ก่อนการประกวดรอบที่แล้วจนชนะในที่สุด ถึงขาหนูจะไม่มีแต่หนูก็ยังมีสองมืออยู่ค่ะพ่อ” เธอกล่าวคล้ายกับสัญญากับผู้เป็นพ่อว่าจะตั้งใจทำความฝัน
ของเธอให้เป็นจริงให้ได้
ทุกๆเย็น หญิงสาวในชุดสีขาวนั่งบนวิวแชร์ จะมาเป่าเพลงขลุ่ยและสีซออยู่เป็นประจำ เธอมีขวัญกำลังใจจากคำว่าสู้ของพ่อเต็มเปี่ยม จากการที่ขยันฝึกซ้อมในที่สุดวันสำคัญของเธอก็มาถึง การประกวดของแต่ละภาคซึ่งเธอเป็นคนเดียวที่พิการ แม้จะไม่มีพ่อมานั่งเป็นกำลังใจต่อหน้าเวทีการประกวด แต่เธอพกเอากระดาษแผ่นเล็กเก่าๆ มาเป็นกำลังใจด้วยทุกครั้งที่ทำการประกวด การแสดงของแต่ละคนที่เข้าประกวดช่างยอดเยี่ยมเป็นที่สุด แล้วก็มาถึงคิวที่เธอจะต้องทำการแสดง เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
หมายถึง ความตั้งใจทำให้ดีที่สุด
เสียงปรบมือเกรียวใหญ่ซาลง เพลงขลุ่ยของหญิงสาวก็เริ่มบรรเลง และสิ้นสุดลงไปสะกดบรรดาผู้ชมให้นิ่งอึ้งกับการแสดงที่พลิ้วไหวได้อารมณ์ แล้วเกรียวเสียงปรบมือก็ดังขึ้นต่อกันยาวนานกว่าการแสดงที่แล้วมาบ่งบอกถึงความชื่นชอบของผู้ได้ฟังยิ่งนัก มีนชญาโค้งคำนับแทนคำขอบคุณ เจ้าหน้าที่
เวทีช่วยเข็ญวิวแชร์ลงจากเวทีมาหาเพื่อนๆ ที่เข้าประกวดด้วยกัน นาทีระทึกมาถึงอีกครั้งกับการผลประกาศรางวัลและผู้ชนะเลิศในครั้งนี้
“ผู้ชนะเลิศการประกวดครั้งนี้จะได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและจะได้ทำการแสดงต่อหน้าพระพักตร์ด้วยครับ” เมื่อได้ฟังเสียงประกาศนี้ เธอก็ยิ่งนึกถึงพ่ออยู่ในใจ เสียงขานชื่อ มีนชญาก้องมาพร้อมกับช่อดอกไม้แสดงความยินดีต่อมาภายหลัง เธอได้รับเลือกแล้วจริงๆ
“ถึงไม่มีสองขาแต่ว่าหนูยังมีสองมือ วันนี้หนูทำความฝันของหนูและพ่อให้เป็นจริงแล้ว การแสดงต่อหน้าพระพักตร์หนูจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”
เธอกล่าวพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้วางลงตรงหน้าเชิงตะกอนของผู้เป็นพ่อ ถ้าพ่อได้รับรู้ ท่านคงเป็นสุขมาก การมีชีวิตอยู่ต่อแบบไม่ครบส่วนของเธอยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนที่ปรารถนาดีต่อเธออีกด้วย