ในเวลาเที่ยงคืนครึ่ง ท้องฟ้าโดนฉาบไว้ด้วยสีดำสนิท บนถนนใหญ่นานๆจะมีรถแล่นผ่านมาสักคัน ในตรอกแคบเล็กไฟทางที่มีอยู่น้อยนิดติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอจะมองเห็นเงาตะคุ่มๆเป็นรูปเป็นร่างของสิ่งต่างๆในซอยได้บ้าง
ท่ามกลางความมืด เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น และหยุดลงเมื่อเจ้าของฝีเท้ามองเห็นมองเห็นร่างของชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ริมรั้วบ้านของเธอ ผักบุ้งหญิงสาวที่กลับมาจากรับจ๊อบเป็นสาวเชียร์เบียร์ใช้ปลายเท้าเขี่ยร่างของชายคนดังกล่าว
ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบรับ ร่างของชายคนนั้นยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติง
ผักบุ้งกลอกตาไปมา หันไปมองต้นซอยก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆอีกครั้ง หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสีมอซอ ค่อยๆถอยหลัง ตัดสินใจเดินไปเปิดประตูรั้วไม้ที่จะพังไม่พังแหล่ออก พาตัวเองเข้าไปในเขตบ้านเพียงลำพัง ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่ริมรั้วเลยสักนิด
ผักบุ้งเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะเบาได้ สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อเข้าบ้านคือ ดูน้องสาวสุดแสบของเธอทั้งสอง กวางตุ้ง และ คะน้า ในวัยเจ็ดขวบและห้าขวบตามลำดับ
หลังพ่อกับแม่แยกทางกัน ครอบครัวของเธอก็มีกันแค่สามคนพี่น้องเท่านั้น เป็นลูกสามคนที่พ่อแม่ที่พ่อแม่ไม่ต้องการ ทิ้งไว้ไม่แยแส.......
ก่อนหน้านี้พวกเธอทั้งสามยังโชคดีอยู่สักหน่อยที่มียายเลี้ยงดู แต่พอยายของพวกเธอจากไป ผักบุ้งจึงต้องกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านทันที
ผักบุ้งกระชับผ้าห่มให้เด็กน้อยทั้งสอง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมาจากห้องนอน ตรงไปยังครัวไทยเล็กๆข้างบ้าน ล้างข้าวเหนียวที่แช่น้ำเอาไว้สองน้ำแล้วนำไปสะเด็ดน้ำออก เธอเปิดตู้เย็นหยิบเอากะทิถุงมาเทใส่หม้อ น้ำไปตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำตาลและเกลือลงไปเล็กน้อย นำข้าวเหนียวที่สะเด็ดน้ำไว้ลงไปผัดเบาๆจนแห้ง แล้วตักขึ้นมาพักไว้ ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ
ทว่าในจังหวะที่หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าห้อง สายตาพลันเหลือบออกไปมองนอกบ้าน ฟ้าแลบแปลบปลาบ ดูท่าอีกไม่นานฝนคงจะตก เธอหวนนึกไปถึงร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าชายคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าตายขึ้นมาล่ะ?
วิญญาณจะมาเร่ร่อนอยู่หน้าบ้านของเธอมั้ยนะ คนยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย!
"ออกไปดูสักหน่อยก็แล้วกัน" ผักบุ้งตัดสินเดินออกไปดูอีกครั้งพร้อมกับไฟฉายกระบอกน้อยในมือ
"กินอะไรเข้าไปตัวหนักชะมัด!" ผักบุ้งบ่นอุบในขณะที่กำลังพลิกร่างอีกฝ่ายให้นอนหงาย ใบหน้าของเขาอาบไว้ด้วยเลือดที่เริ่มแห้งกรัง ตอนที่เธอเดินออกมาพบว่าอีกฝ่ายยังคงหายใจอยู่ แม้ว่าจะแผ่วเบามากก็ตาม เธอลังเลใจอยู่นานว่าจะลากร่างคนตรงหน้าเข้าบ้านดีหรือไม่ แต่เม็ดฝนที่เริ่มสาดลงมาทำให้ผักบุ้งจำต้องรีบพาเขาเข้าบ้านไปในที่สุด
"ปึก!" เสียงเหล่านี้ดังขึ้นเป็นระยะ เมื่อผักบุ้งลากชายหนุ่มปริศนาเข้าบ้าน ถ้าศีรษะของเขาไม่ชนกับกระถางต้นไม้ ก็ปะทะเข้าขอบประตู ไม่ก็เหลี่ยมโต๊ะ
สิ่งแรกที่ผักบุ้งทำเมื่อลากชายคนนั้นเข้ามาในบ้านได้ ไม่ใช่เช็ดหน้าหรือทำแผลให้ แต่เธอกำลังล้วงกระเป๋ากางเกง สำรวจทรัพท์สินหาของมีค่า เผื่อว่าเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะได้เรียกเงินจากเขาให้มากหน่อย นี่ค่าน้ำ ค่าไฟก็ยังไม่ได้จ่าย....
เพียงแค่คิดผักบุ้งก็ถอนหายใจออกมา
ร่างหนานอนไม่ได้สติ แม้ว่าตอนนี้เขาจะโดนจับเปลื้องผ้า เช็ดตัวเอาคราบสกปรกออก ทำแผลด้วยยาหมดอายุ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด
เป็นเวลากว่าตีสาม ผักบุ้งทำทุกอย่างจนเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มมัดที่เอาไว้ขายตอนเช้าหรืออาบน้ำให้ตัวเอง และทำแผลให้ชายคนนั้น เธอนั่งเท้าคางมองอีกฝ่าย พลางคิดว่าตนคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่ช่วยชายคนนี้ไว้
ในกระเป๋าไม่มีเงินสักบาท!
.....................................................
รีด เรื่องนี้ไรท์ประสบปัญหาเป็นอย่างมาก ไรท์หาอิมเมจพระเอกไม่ได้!
นี่นั่งคิดอยู่หลายวันยังไม่ได้เลย สับสนไม่รู้จะเอาใครดี เยอะเกิ๊น....