วิวาห์ตัวแทน
เธอ... แต่งงานแทนน้องสาว
ส่วนเขา... แต่งงานแทนพี่ชาย
การแต่งงานที่เริ่มต้นจากความจำเป็นก็ต้องจบลงเมื่อหมดความจำเป็น
ทุกอย่างควรกลับสู่สภาวะปกติ
หากว่า… 5 ปีต่อมาเขาไม่ได้พบเธออีกครั้ง
พร้อมความลับอันน่าตกใจที่ถูกซุกซ่อนไว้หลายปี
“เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เขาถามเสียงห้วน ไม่มีหางเสียง ไม่มีความอ่อนโยนในกระแสเสียงนั้นเลย
หากกลอยใจก็เลือกจะเงียบ หลบสายตาพร้อมดันร่างเล็กที่จับจูงมือกันไว้ไปด้านหลัง
วงหน้ากลมแป้นกับแก้มพองกลมโผล่หน้าออกมามอง ดวงตาใสแจ๋วคู่นั้น หากมองผิวเผินจะเหมือนหญิงสาวตรงหน้าของเขาไม่ผิดเพี้ยน ทว่าเมื่อ ‘วาคิม’ เพ่งมองอย่างดีแล้ว เขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น
“ตอบฉันมากลอยใจ เธอมากับเด็กที่ไหน!” เขาตวาดออกไปเสียงดังลั่น ใบหน้าเขียวคล้ำ แววตาวาวโรจน์เพ่งมองคนตรงหน้าอย่างหาเรื่อง
กลอยใจสะดุ้งสุดตัว ตกใจจนปากคอสั่น หากคนที่ซ้อนหลังมารดาของแกอยู่นั้นกลับไม่ได้หวาดหวั่นแต่ประการใด
ร่างเล็กค่อยๆ เดินออกมา มือสองข้างเท้าสะเอว จ้องมอง ‘อสูร’ ตัวใหญ่ตรงหน้าเขม็ง
ตากลมเม็ดลำไยที่เคยใสแจ๋วมีความขุ่นข้องหมองใจอยู่ในนั้น ก่อนปากเล็กๆ จะขยับเอ่ย ด้วยวาจาฉะฉานจนน่าตกใจ
“อย่ามาดุคุณแม่ขาของหนูนะเจ้าอสูรร้าย” ไม่เพียงเถียงกลับ แต่ร่างกะจ้อยร่อยยังถลาเข้าไป ออกแรงเท่ามดงานผลักคนตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ
‘อสูร’ ที่ถูกผลักไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน หากย่อกายลง สองมือรวบจับไหล่เล็กเอาไว้ ตาคมคู่ดุสีเทาเข้มจ้องมองตากลมเม็ดลำไยใสแจ๋วสีเดียวกันเขม็ง สำรวจดวงหน้ากลมแป้น จมูกรั้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ถอดแบบผู้หญิงที่เจ้าตัวเล็กกางปีกปกป้องราวคนคนเดียวกัน ก่อนเงยหน้าขึ้น ขบกรามแน่น เมื่อร่างที่เขารวบจับกำลังแผลงฤทธิ์อีกรอบ
“เจ้าอสูรร้ายปล่อยเจ้าหญิงนีน่านะ”
เขาไม่ได้ฟังเสียงแจ้วๆ ของคนตัวน้อย หากเงยหน้ามองคนที่เจ้าตัวแสบเรียกขายเต็มปากเต็มคำว่า 'คุณแม่ขา' ที่กำลังตาแดงก่ำ ยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูกตรงหน้าด้วยแววตาอ่านยาก
วาคิมอยากจะหัวเราะให้ตัวโยน หากการหัวเราะของเขาไม่ใช่ความดีใจ
“เด็กนี่ ตาสีเดียวกับฉันเลยนะ บังเอิญจริงๆ”