มีคนเคยบอกว่าความต่างไม่ใช่อุปสรรคหากคิดจะรักใครสักคน แต่สำหรับผมมันเป็นอุปสรรคตั้งแต่ผมเจอหน้าเขาเสียแล้วครับ เพราะความสัมพันธ์ของเราไม่ได้เริ่มต้นด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันเต็มไปด้วยกรวดหินและไกปืน
อย่าเพิ่งกลัวไปนะครับ ผมแค่จะบอกว่าผมเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล “คชราชย์ ณ เมืองกลาง” ฟังจากนามสกุลก็อย่าเพิ่งคิดไปไกลครับ ว่าผมจะมีเชื้อเจ้าเป็นลูกท่านหลานเธอขนาดนั้น ผมก็แค่ทายาดปลาย ๆ ปลายแถวของตระกูลแหละครับ ที่มีศักดิ์เป็นแค่คนธรรมดาแต่ได้รับเกียรติให้ใช้นามสกุลนี้ได้
ผมชื่อ “คิม” ครับ “คิม คีรติ คชราชย์ ณ เมืองกลาง” แต่อย่าหวังนะครับว่าลูกชายเพียงคนเดียวของท่านทูตจะได้เห็นภาพลักษณ์ของหนุ่มหล่อ เรียบร้อย สงบเสงี่ยม เจียมตัว ทุกคำพูดต้องเป็นการเป็นงานแล้วก็ไพเราะอ่อนหวาน เพราะที่พูดมาทั้งหมดนั่นตรงข้ามกับผม ... สิ้นเชิง
ผมผู้ซึ่งถูกส่งตัวไปเรียนต่อต่างประเทศแต่ไม่จบอะไรสักอย่าง จนสุดท้ายโดนเรียกตัวกลับให้มาเรียนต่อในเมืองไทย สอบเข้าไม่ได้หรอกครับที่ได้เรียนนี่เพราะบารมีพ่อล้วน ๆ เป็นไงละครับเริ่มเห็นความแบดบอยของผมหรือยัง
ถามว่าทำไมผมทำตัวแบบนั้นนะหรือ ก็เพราะผมไม่ชอบการถูกบังคับไงละครับ จากที่เคยต้องอยู่ในกรอบในขอบเขตมาตลอด จนอายุล่วงเลยจะยี่สิบอยู่แล้วผมยังไม่มีอิสระในชีวิตเลยสักอย่าง ดังนั้น สิ่งที่ผมต้องการที่สุดคืออิสรภาพ
และแน่นอนเมื่อหลุดพ้นจากสภาวะกดดัน สิ่งที่ผมทำเป็นอันดับแรกนั่นคือการประกาศอิสรภาพ ขอดูแลตัวเองจนกว่าจะเรียนจบ แต่ถ้าไม่อยากให้ผมเรียนจบก็เข้ามาตีกรอบให้ผมได้เลย นี่คือข้อต่อรองที่ผมบอกกับท่านฑูต ทันทีที่ท่านถามว่าผมต้องการจะทำอะไรกับชีวิตที่ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักอย่างของตัวเองบ้าง นอกจากใช้เงินเลี้ยงสาว เที่ยวกลางคืนแล้วก็เสเพลไปวัน ๆ
แต่หลังจากที่ผมประกาศอิสรภาพมาได้ไม่นาน จนตอนนี้ผมอยู่ปีสามอีกปีเดียวผมก็จะจบกับเขาแล้ว มันก็ดันมีเรื่องให้ผมต้องเสียอิสรภาพไปอีก คราวนี้ไม่ได้แค่โดนบังคับนะครับแต่โดนตามคุมแจเลยทีเดียว โดยคนที่ผมรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอด้วยซ้ำ คิดดูสิครับ ผมที่เพิ่งเริงร่ากับอิสระได้แค่สามปีกว่า ๆ กลับต้องมาตกอยู่ในสถานะนกน้อยในกรงทองอีกแล้วจะอึดอัดขนาดไหน
แต่ทำไมผมต้องยอมนะหรือครับ ก็เพราะเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยที่ผมไม่อาจขัดได้ และถ้าไม่เพราะไอ้คนคนนี้ช่วยชีวิตผมไว้ ผมก็คงไม่มีโอกาสมาเล่าเรื่องราวในชีวิตของผมให้ฟังแบบนี้หรอกครับ
เขาเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ถูกส่งตัวมาดูแลด้านความปลอดภัยให้ผม โดยที่ผมไม่ได้ยินยอมพร้อมใจเลยสักนิด เพราะมันทำให้อิสระที่ผมโหยหาสิ้นสุดลง
ตำแหน่งก็ไม่ใช่กาก ๆ ปลายแถวหรอกนะครับ ระดับผู้กองเลยทีเดียว ซึ่งสูงพอ ๆ กับระดับร็อตไวเล่อร์ในปากเขานั่นแหละ นิ่งเหมือนคนพูดน้อย แต่บทจะพูดร็อตไวเล่อร์สักสิบตัวก็เอาไม่อยู่ บอกเลยว่าผมโคตรเกลียดท่าทีของเขาเลยให้ตาย นิ่ง ๆ ขรึม ๆ แต่คำพูดคำจาหารับประทานมิได้
ความสัมพันธ์ของผมกับเขาก็เริ่มจากการเข้ามาคอยอารักขาผมนี่แหละครับ จนสุดท้ายก้อนเนื้อทางซ้ายของผมก็ทรยศผมจนได้ จากงานรักษาความปลอดภัยเลยกลายเป็นงานรักษาหัวใจไปเสียงั้น ความรักทำให้คนตาบอด แต่สำหรับผมความรักทำให้ผมตาสว่างมากกว่าครับ มันทำให้ผมเรียนรู้การใช้ชีวิต รู้จักฟังคนอื่น รู้จักเข้าใจคนอื่น และที่สำคัญรู้จักถนอมคำพูดที่จะไม่ปล่อยให้มันไปทำร้ายความรู้สึกใครต่อใคร
จากที่เคยโหยหาแต่อิสรภาพ ความรักทำให้ผมเริ่มไม่อยากมีอิสระเพราะอยากอยู่ในสายตาเขาขึ้นมา อยากให้เขาบังคับผม อยากให้เขาดุผม อยากให้เขาด่าผมเวลาที่ผมทำอะไรโดยไม่ทันคิด แล้วก็อยากให้เขาสอนให้ผมรู้จักชีวิตไปตลอดชีวิตเลยครับ
สำหรับผม ผมอาจจะเรียกมันว่าความรัก แต่สำหรับเขาผมไม่คิดว่าเขาจะรู้สึกเช่นเดียวกับผม วงการตำรวจไทยใครหน้าไหนจะอยากมีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันบ้างละครับ ชาติตำรวจไทยยังไงก็ต้องชายแท้แต่โบราณ จะมาวอกแวกกับผู้ชายด้วยกันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ อยากให้เกิด
แต่ไม่รู้แหละครับ ในเมื่อเขาเข้ามาในชีวิตผม ทำชีวิตผมปั่นป่วนไปหมดจนแทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคนได้ขนาดนี้ และไม่รู้แหละครับกว่าผมจะยอมรับความรู้สึกตัวเองได้ผมต้องใช้เวลามากแค่ไหน ยังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบ และผมนี่แหละจะทำให้ผู้กองรูปหล่อผู้เคร่งขรึมคนนั้นยอมรับผมให้ได้ เหมือนอยากเอาชนะแต่จะผิดอะไรละครับ ผมก็แค่อยากเอาชนะใจคนที่ผมรักก็เท่านั้นเอง
เรื่องราวของผมมันอาจจะเริ่มต้นไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เชื่อผมเถอะครับตอนจบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่นวลลลลลลลล ....บอร์ดี้การ์ดที่รักของโผ้มมมมม ......่
(มีให้อ่านในรูปแบบ e-book แล้วนะครับผม)
"ถ้าคุณมีใจให้กับวายใส ๆ จิกกัดนิด ๆ แต่โคตรโรแมนติคคอมเมดี้ มาม่วน ฟิน อมยิ้มไปพร้อมกัน ลุย!!!!!!!!!"
Ti amo_Je t’ aime
20 มกราคม 2562