...............กระท่อมรอรัก..........
(แต่งโดย AAA)
เสียงนกน้อยกระพือปีกพรึบ ๆ เป็นระยะๆ พากันบินเป็นฝูง ๆ
เพื่อเข้ารังน้อยๆ ในพุ่มไม้และบนต้นไม้ ท่ามกลางแสงท้องฟ้าสีเหลืองทอง ลมพัดเบา ๆ อากาศเริ่มเย็นลงพร้อมกับ
พระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้าไปทีละนิดทีละนิด
พอพระอาทิย์ตกดินถึงชายเขาก็เป็นอีกวันที่สองพ่อลูกผู้คุ้นเคย
เช่นทุกวัน…
ณ ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้านกุดน้ำสีใส หมู่บ้านแห่งนี้ มีความอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้าว..
มีตาเฒ่ากลับลูกสาวแสนสวยชื่อ
”เรรัย”
ซึ่งเป็นที่รู้จักของหนุ่มๆในหมู่บ้านอาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้าน บันดาหนุ่มๆใคร ๆ ก็ต่างหมายปองที่จะเป็นผัวอีเรรัยลูกสาว ตาเฒ่า ”ติ่ง” นั้นมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือ
อีเรรัย
เมียแกได้ตายไปตั้งแต่อีเรรัยมองตาดูโลกตั้งแต่อีเรรัยจำความได้
ก็มีตาเฒ่าติ่งที่เลี้ยงอีเรรัยมาจนโตเป็นทั้งพ่อและแม่มาโดยตลอด……
ในความโชคร้ายของตาเฒ่าติ่งก็ยังมีความโชคดี ทีมีลูกสาวที่คอยช่วยงานบ้านงานเรือน
คอยทำกลับข้าวปลาอาหารมิขาดตกบกพร่อง ตอนเช้าทุกคนต่างแยกกันทำหน้าที่ของตน…
เฒ่าติ่งผู้เป็นพ่อซึ้งมีอาชีพตัดไม้ป่าขายโรงเรื่อยเลี้ยงอีเรรัยรมาตั้งแต่เล็กจนโต….
มันเป็นนอาชีพเดียวที่พอจะหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องลูกสาวและตนเองได้กินอิ่มไปวันๆ…….
ส่วนตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว ตาเฒ่าติ่งก็กลับบ้านเช่นเคย ซึ้งจะมีอีเรรัยเตรียมขาวปลาอาหารใว้รอเช่นทุกวัน พอ..เฒ่าติ่งมาถึงบ้านเรรัยก็จะตักน้ำมารอพ่อเสมอ เฒ่าติ่งกินน้ำเสดเรรัยก็จะถามเสมอ
พ่อ….พ่อจ๋าวันนี้เหนื่อยมั้ยพ่อ วันนี้เรรัยทำกลับข้าวไว้รอเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ พ่อไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะจ๊ะ วันนี้มีอ่อมไก่ป่นปลาดุกที่พ่อชอบจะ ของโปรดพ่อทั้งนั้นจะ พูดเสดเรรัยก็ยิ้มให้เฒ่าติ่ง
ตาเฒ่าติ่งพูดไปว่า….เออ..อีเรรัยเอ้ยพ่อไปอาบน้ำก่อนนะลุกเอ้ย เหนียวตัวจะแย่ยุแล้ว เรรัยตอบ…จะพ่อจากนั้นสองพ่อลูกก็ใช่ชีวิตเช่นทุกวัน…10 ผ่านไป….ตอนนี้เรรัยก็อายุ 26 ปีโตเป็นสาวสาวจนไปสดุจตาหนุ่มๆทุกคนในหมู่บ้าน ชายใดก็ต่างบอกให้พ่อแม่ไปขอลูกสาวตาเฒ่าติ่งที่ท้ายหมู่บ้าน
เช้าวันต่อมาพระอาทิตย์โผล่ยังไม่ถึงสองโมงเช้า
ก็มีหนุ่มๆพาพ่อแม่มาสู่ขอเรรัยตั้งแต่เช้าตู่ ตาเฒ่าติ่งสดุ้งตื่นเพราะเสียงบันดาลูกเขยทั้งหลายแห่กันมาสู่ขอเรรัย เฒ่าติ่งตะโกนออกไปว่า
..เฮ้ยเสียงใครมาเอ๊ะอ่ะโวยวายบ้านข้าว่ะ พอเฒ่าติ่งลุกออกมาจากที่นอนก็ตกใจ สงสัย..? เลยถามไปว่าพวกเองมีธุระอะรัย แห่กันมาบ้านข้าทั้งหมู่บ้านยังกับเป็นงานบุญยังงัยอย่างนั้น
พอหนุ่มๆฟังเฒ่าติ่งพูดเสดก็พูดสวนไปว่า…
พ่อติ่งจ๋าพ่อพวกผมพาพ่อแม่มาขออีเรรัยจะ เฒ่าติ่งได้ยิ่นก็ตกใจยืนงง..
ด้วยควายเซ่อนอน
เมื่อแก่ตั้งสติได้ก็พูดไปว่า หา…พวกเองจามาขออีเรรัยรึ
เฒ่าติ่งรีบเดินไปหาลูกสาวพร้อมตะโกนเรียกลูกสาว เรรัยเอ้ย!!!!!!!….เรรัย เรรัยตอบรับ
จ๋าพ่อ…เฒ่าติ่งพูดไปว่าเองออกไปกลับพ่อหน้าบ้านหน่อยสิ๊ เรรัยถามทำไม่จ๊ะพ่อฉันกำลังจัดพาข้าวอยู่จะพ่อ เฒ่าติ่งบอกลูกสาวไปว่าเอาน่า เองมากลับพ่อสักแปบ เรรัยตอบ….จะพ่อ
พอสองพ่อลูกออกไปถึงหน้าบ้านหนุ่มๆต่างตื่นเต้นดีใจทุกคน เรรัยถาม..พ่อจ๋าทำไม่ชาวบ้านแหกันมาบ้านเราเยอะเยะจังจ๊ะ ตาเฒ่าติ่งหันมองเรรัยแล้วยิ้มพร้อมพูดกับเรรัยว่า…..เรไรเอ้ย…
เองก็โตเป็นสาวพอออกบ้านออกเรือนได้แล้วลูกเอ้ย ที่เองเห็นหนุ่มๆพวกนี้
นั้นมันก็แหกันมาสู่ขอเอง อีเรรัยเอ้ย เรรัยได้ยินก็ตกใจยืนตัวแข็ง
หนุ่มๆก็แย่งกันเสนอสินสอดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เฒ่าติ่งถามลูกสาวตน..อีเรรัยเองชอบคนใหนละลูกเอ้ย
ในใจเรรัยเองก็อยู่แบบเหงาๆมาจนอายุ 26 ปีแล้ว ก็อยากจะมีคู่ชีวิตหวังสร้างครอบครัวที่อบอุ่น…
แต่ก็ตัดสินใจเลือกใครไม่ได้สักคนเพราะหนุ่มที่มาสู่ขอล้วนมีแต่คนมีฐานะทั้งนั้นตนกลัวที่จะเลือกใครแล้วต้องไปอยู่บ้านสามี ซึ่งนางคิดใว้แล้ว ว่าไม่อยากจากพ่อไปใหน เฒ่าติ่งแกก็แก่มากแล้ว
ถ้าได้ตกลงแต่งงานกลับหนุ่มที่มากสู่ขอเรรัยตอนนี้ มีหวังคงได้จากพ่อไปแน่ๆเพราะหนุ่มๆที่มาสู่ขอมีแต่รวยๆทั้งนั้น
คงไม่มีใครอยากอยู่กลับเรรัยและเฒ่าติ่งที่ท้ายหมู่บ้านแน่ๆ