เรื่องย่อ...หากจะรักก็ช่างมันเถอะ
วันที่สายน้ำถูกเรียกตัวกลับมาเมืองไทยเพื่อรับรู้เรื่องพ่อถูกฟ้องล้มละลาย เป็นวันที่ราวกับฟ้าผ่า โลกถล่มทลาย
หากทว่าวันที่ถูกแม่ เรียกร้องให้เธอต้องชดเชยวันคืนเก่าๆ ที่ใช้ชีวิตอย่างคุณหนูบนพรมแดงมากว่า 17 ปี ด้วยการให้เธอ ไปตีสนิทกับย่าเศรษฐีนีบ้านนอก เป็นวันที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่า
ด้วยที่นั่น ทำให้คุณหนูอย่างเธอ ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นสาวติดดินเพื่อให้เข้ากับคนชนบท และร้ายยิ่งกว่านั้น เธอต้องพบเจอกับ “เพลิง” ผู้ชายกักขฬะดิบเถื่อนเสียยิ่งกว่าใครๆ ที่เคยพบมา
หาก “เพลิง” กลับเป็นด่านอรหันต์ที่จะทำให้เข้าถึงผู้เป็นย่าได้ หนทางเดียวที่จะเอาชนะใจย่าได้ คือต้องชนะใจเขาด้วย
เรื่องราวความรักของสาวน้อยที่ใช้ชีวิตอย่างคุณนู้คุณหนู กับหนุ่มนักเรียนนอกที่ใช้ชีวิตได้อย่างกลมกลืนกับคนในท้องถิ่น กระทั่งถูกสาวชาวกรุงมองว่าเป็นคนไร้อารยะธรรม บนดินแดนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ผู้คนใช้ชีวิตโดยยึดหลักความพอเพียง ภายใต้โครงการชั่งหัวมันและเกษตรทฤษฎีแนวใหม่
รักวุ่นๆ ของสาวนักเรียนนอกแต่ยังเรียนไม่จบ กับหนุ่มบ้านนอกที่มีดีกรีดอกเตอร์จากต่างประเทศ จะจบลงอย่างไรเมื่อรักครั้งนี้เริ่มต้นด้วยคำว่า “หลอกลวง”
****************************
เพลิง :
ผู้จัดการสวนเกษตรดิสกร วัย 39 ดีกรีดอกเตอร์จากอังกฤษ
ความที่อกหักจากเพื่อนนักเรียนนอกสมัยเรียนอยู่ที่อังกฤษ ทำให้เขาสาปส่งความรัก เขาหลบมาอยู่ชนบทห่างไกลผู้คนและเพศตรงข้าม บุคลิกเคร่งขรึม พูดน้อยต่อยหนัก
: สายน้ำ
นักเรียนนอกวัย 17 ขี้วีน เอาแต่ใจ แสบ แก่นซ่า
ตลอดชีวิตไม่เคยคิดสนใจผู้ชายที่แก่คราวพ่อและเกลียดคนที่ไว้หนวดเครา
แต่แปลกสิ่งที่เธอเกลียด ทุกๆ อย่างกลับมารวมอยู่ในคนๆ นี้ "เพลิง"
ผู้ชายที่เผลอแป๊บเดียวก็เข้ามานั่งอยู่ในหัวใจเรียบร้อยแล้ว
กอบกาญจน์ :
เจ้าของสวนเกษตรดิสกร วัย 61 เป็นย่าของสายน้ำ เธอเลี้ยงเพลิงมาตั้งแต่แบเบาะ รักเสมือนลูกหลาน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเพลิงสร้างความคลางแคลงใจให้กับสายน้ำ ด้วยว่ากอบกาญจน์ดูรักและยำเกรงเพลิงมากๆ
****************************
นวนิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต มิเช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นสูงสุด
*******************************