ง็อต-ตะวัน
เสียงเพลงเบาๆในร้านกาแฟ
ดวงตาคู่น้ำเงินเข้มนั่งอยู่เคาท์เตอร์ ผมสั้นๆสีน้ำตาลอ่อนบวกหน้าตาที่คมแต่พอมองคิ้วแล้วทำให้เขาดูน่ารักมากกว่าหล่อโดยรวมไปถึงรูปร่างที่ไม่ผอมและไม่อ้วนด้วย เป็นที่ต้องตาของใครหลายๆคนใน ร้านกาแฟนี่จริงๆ
เขาชื่อ ง็อต อายุ 23
ง็อต : ลาเต้ แก้วใหญ่ 1 ครับ
น้ำเสียงที่ดังและชัดเจน ทำให้ดูขัดกับรูปร่างที่เล็กเรียว
ง็อต กำลังวุ่นวายกับมือถือในกระเป๋า จนไม่รู้ตัวว่ามีผู้ชาย คนหนึ่งเพิ่งเดินเข้ามาในร้าน และตรงเข้ามานั่งโต๊ะข้างๆในร้านเคาท์เตอร์
เขาเป็นหนุ่มไทยที่มีรูปร่างใหญ่แถมยังดูมีสตางค์ซะด้วย ตาของเขาคมเหมือนเหยี่ยว คิ้วหนาเข้มซึ่งถูกกันมาจากร้านตัดผมแน่ๆถึงได้ดูดีแบบนี้ เขาเป็นผู้ชายที่มีหุ่นและหน้าตาครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งที่เคยมีบนโลกใบหน้า...จะพูดว่าเขาคือนายแบบก็ ไม่เกินกว่าบรรยาย
พนักงานชาย : ลาเต้แก้วใหญ่ได้แล้วครับ
ง็อต : ครับ
จังหวะที่ง็อตรับแก้วลาเต้มาอยู่ในมือ เป็นจังหวะเดียวที่เขาลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมจะเดินออกไป แต่แก้วมันดันร้อนและเหมือนขาเป็นใจพร้อมกัน จู่ๆเขาก็หกล้มลงไปกองกับพื้น และพบว่าแก้วลาเต้ร้อนนั่นหกใส่ผู้ชายที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยสิ !
เขาชื่อว่า ตะวัน
ตะวัน : โอ๊ย...ร้อน..ร้อน..
จังหวะเดียวกันนั่น....
ตายละหว่า กู ! เสื้อมันท่าจะแพงด้วย !
ง็อต : ขอโทษครับ ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ
ตะวัน : จะไม่ได้เป็น !.....
ตะวันกำลังจะพูดคำต่อไป แต่เมื่อมองไปที่ดวงตาของ ง็อตเท่านั้นแหละ หัวใจของเขาก็เกิดหวั่นไหวขึ้นมาโดยทันที
สวย ตา สวยชะมัด...
ง็อต :ขอโทษๆจริงนะครับ เดี๋ยวผมออกค่าซักชุดให้ก็ได้
วันนี้ทำไม มันซวยอย่างนี้นะ....โอ๊ยยยยยยยยย
ตะวัน : เอิ่ม...
ท่าทางของตะวันนิ่งงันไป เขากำลังตรวจสอบว่า เด็กผู้ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
ง็อต : ครับ...
ตาของง็อตมองไปที่ตะวันอีกรอบ คราวนี้มันเหมือนประกายเพชรที่ฉาย...ให้คนตะลึ่ง
จะด่าอะไรก็รีบพูดมา สักทีซี้ มัวแต่มองหน้า อย่างนั้นทำไมก็ไม่รู้...
ตะวัน : ไม่ๆเป็นไรครับ
ผู้ชายที่ครั้งแรกที่จะชมว่าผู้ชายตรงหน้ามีดวงตาที่สวย...สวยกว่าผู้หญิงที่เขาเคยรู้จัก...
ง็อต : ขอบคุณจริงๆครับ เดี๋ยวผมออกค่าซักเสื้อให้ ดีกว่านะครับ
เป็นคนดีกว่าที่คิดแหะ ! งั้นขอรับผิดชอบสักหน่อยแล้วกัน !
ตะวัน : ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องก็ได้
ตาของตะวันจ้องงันเหมือนตกอยู่ใน มนต์แห่งห้วงเวลา...
ง็อต : ผมเกรงใจจังเลยครับ งั้นให้ผมจ่ายค่ากาแฟให้นะครับ
เป็นคนดีอะไรขนาดนี้นะ....ถ้าเป็นคนอื่นต้องถูกตะคอกใส่แน่ๆ
ตะวัน : ครับ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เปลี่ยนโต๊ะนั่งเป็นสองคน พร้อมทั้งคุยเรื่องไร้สาระทั่วๆไป แต่เชื่อไหมมันแปลกมาก ที่เขาทั้งสองรู้สึกว่ามัน สบายใจจังเลยอ่ะ มันดีจังเลยอ้ะ มัน..รู้สึกสงบ และอยากจะคุยต่อไปนานๆ
แต่แล้วคนที่ต้องจากไปก่อนก็เป็น ง็อตที่ติด ธุระต้องไป คือสัมภาษณ์งาน
ง็อต : เช็คบิลด้วยครับ
หว่า เผลอครู่เดียวจริง...เราก็นั่งคุยกับพี่เขาซะนานแล้ว....
ตะวันอมยิ้ม ในท่าทางของง็อตตรงหน้าที่กำลังบิดขี้เกียจไปมา มันดูไม่เฟคและเป็นของตัวเอง....
พนักงาน : ทั้งหมด 1500 บาทครับ
โห ! ทำมันแพงจังหว้ะ ให้ตายดิ
ง็อตบ่นในใจ แต่พอมาดูตรงโต๊ะอาหาร...ก็ต้องเชื่อเพราะ ขนม และกาแฟ แถมอาหารต่างๆมากมาย
อีกทั้งมีสั่งกลับบ้านอีก...
อึก !
นี่เราคุยกับพี่เขานานขนาดนี้เลยหรอเนี้ย....
ตะวัน : นี่ครับ
ตะวันยื่นบัตรเคดิต พร้อมทั้งพูดว่า
ตะวัน : เดี๋ยวพี่จ่ายเอง
ตะวันมองง็อตอย่างอ่อนโยน ใจเขาอยากจะอยู่กับง็อตให้นานกว่านี้ อยากมีโอกาสได้เจอใน ช่วงเวลาอื่นๆอีก...
แต่ก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่า จะมีโมเม้นต์นั่งคุยกับคนที่เจอเคยเจอกันเป็นครั้งแรกได้เท่านี้....
ง็อต : ออกกันคนละครั้งได้ไหมครับ ผมโคตรเกรงใจพี่เลย
โอ๊ย..คนที่กินเยอะเป็นเรามากกว่า แถมยังจ่ายตังให้อีก...คนอะไรหว่าจะใจดีขนาดนี้....เป็นเทพบุตรหรือไงนะ
ตะวัน : พี่เลี้ยงเอง ไม่ต้องคิดมาก
ตะวันยักคิ้ว ก่อนยิ้มเหมือนผู้ชายที่ทำท่าจีบผู้หญิง...แต่ง็อตไม่ใช่ผู้หญิง ก็เลยมีท่าทีขัดเขิน
ง็อต : ผมไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังไง พี่ใจดีกับผมมากจริงๆ
ต้องบอกว่าเกิด 23 ปียังไม่เคยเจอใครใจดีเท่านี้มาก่อน....
ตะวัน : ไม่เป็นไรคิดมากหน่า
ตะวันเอ็นดูท่าทางที่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนกับคนที่ดีด้วย แบบนี้สิ คนแบบนี้สิ ที่เขาอยากอยู่ด้วย....อยากคุยด้วยอีกนานๆ
แต่จนแล้วจนรอดจนพนักงานเอาบัตรเคดิต มาคืน...
และโอกาสสุดท้ายก็มาถึง....
ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าร้าน
ง็อต : ผมไปทางขวา
ตะวัน : พี่ไปทางซ้าย
ทั่งคู่นิ่งงันเหมือนไม่อยากจากช่วงเวลานี้ไป ก่อนจะเกิดผุดพูด ขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย
ทั้งสองมีจุดหมายที่ต่างกัน....
ตะวัน : โชคดีนะ
ตะวันล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกง ท่าทางเขาบอกได้อย่างดีว่า เรื่องในใจที่อยากถามยังไม่ได้ ถาม คือ เด็กหนุ่มที่เขาพูดคุยด้วยมาร่วมชั่วโมง...ชื่ออะไร....
ง็อต : ครับ
ง็อตยิ้มออกมา เขายิ้มทั้งดวงตาก่อนจะโบกมือไม้บายตามหลัง
เชื่อไหมว่าความรู้สึกของตะวัน เมื่อเห็นง็อตกำลังก้าวเดินไปอย่างช้า นั่น เสมือนเขากำลังจะสูญเสียง็อตไปทีละก้าวไปทีละวินาที ซึ่งถ้าหากเขาไม่รีบคว้าโอกาสครั้งนี้เอาไว้...
เขาจะไม่สามารถ....ได้เจอกับง็อตอีก
จนวินาทีที่เริ่มห่างไกลไปทุกที จู่ๆหัวใจของเขาก็เกิดเต้นรัว เหมือนกับ จะขาดใจ !
ไมได้ ! เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
ตะวัน : เดี๋ยว !
เป็นเสียงที่ดัง ออกมาจากหัวใจ คำว่าเดี๋ยวหยุดช่วงเวลาของเขาทั้งสองไว้ทันที
ตะวันเองก็รับรู้ได้เช่นกัน ก่อนปล่อยมือที่กุมเอาไว้เพราะไม่กล้า....จะมองตาพี่เขาไปมากกว่านี้กลัวหัวใจจะสั่นไหวไปเอง
ง็อต : ครับ
ง็อยครี่ยิ้มอ่อนๆมองไปที่ตะวัน ตาของเขาฉายอารมณ์ที่ทั้งสองรับรู้กันได้แค่สองคน ด้วยตาที่เฝ้ารอความหวัง
ด้วยตาที่เต็มไปด้วยหน้าต่างของความรู้สึก....
แต่ช่วงเวลามันก็แค่เพียง ขณะหนึ่งเท่านั้น จู่ๆ ฝูงคนจากด้านสะพานลอยก็ไหลลงมาจากรถไฟฟ้า
ทำให้ทั้งคู่ เริ่มจะมองไม่เห็นกัน
นั่น ! เป็นจุดตัดสินใจให้ตะวันพูดคำว่าที่ต้องการออกมา
ตะวัน : เราจะได้เจอกันอีกไหม !
เหมือนผลักภูเขาออกจากอก ผลักงานเอกสารที่รับหน้าที่เพียงคนเดียวออกไป....ตอนนี้เขาแสนสบาย
แค่รอคำตอบจาก ดวงตาคู่สวย และรอยยิ้มที่ครี่ออกมาเพื่อเขาอยู่
ง็อต : แน่นอนครับ
ง็อตส่งยิ้มหวานเยิ้มไปให้ตะวันอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะส่งยิ้มแบบนั้นให้ผู้ชาย แต่ดูสิความรู้สึกมันเป็นไปเอง
รู้สึกอย่างไร ก็ส่งกลับไปแบบนั้น...
ก่อนที่ฝูงผู้คนจะลบพวกเราออกจากกัน....ตอนนี้มีเพียงแววตาจ้อง...มองกันเท่านั้น..
และในแววตานั้นรับรู้ได้อย่างจริงใจว่า...
คำว่าแน่นอนนั้น คือแน่นอนจริงๆ