ไฟรักนายคนเถื่อน
7
ตอน
63.5K
เข้าชม
422
ถูกใจ
19
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

 

 

อัครบริกุลชัย กรุ๊ป ตึกสูงใหญ่มากกว่าห้าสิบชั้นและชั้นบนสุดที่เป็นส่วนของผู้บริหารอย่างเดียว ภายในห้องทำงานที่แสนจะหรูหราสมกับวามมหาร่ำรวยทั้งเงินตราและอำนาจ เจ้าของใบหน้าคมหล่อแสนเถื่อนกำลังจดจ้องที่เอกสารการอนุมัติโครงการใหญ่ที่สำคัญและงานประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้น งานใหญ่แบบนี้เขาไม่ควรพลาดเด็ดขาด

“อาทิตย์หน้านายว่างไหม เอก”เสียงเข้มดังขึ้นทามกลางความเงียบภายในห้องทำงาน ส่วนเจ้าของชื่อนั้นก็หันหน้ามามองเจ้าของเสียงเข้มที่ปากถามแต่มือกำลังเซ็นเอกสารสำคัญอยู่

“ว่าง ทำไม”ตอบกลับมาแล้วหันกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม ราวกลับว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจ

“ไปประชุมแทนหน่อยที่ญี่ปุ่น”เสียงเข้มบอกแล้วเอนหลังพิงกับผนังเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่พรางหลับตาลง

“ทำไม”เสียงเข้มถามกลับมา สายตาก็จ้องมองเจ้าเพื่อนรัก

“มีคนอยากมีหุ้นส่วนกับเราด้วย ฉันก็เลยต้อไปเจรจาสักหน่อยน่ะ”เสียงตอบกลับมาอย่างเรียบนิ่ง ไอ้พวกที่จะขอมาเข้าร่วมในธุรกิจของเขาไม่สนเป็นที่เขาจะต้องไปสนใจ แต่เพราะไอ้นี้มันเป็นพวกลอบกัดเลี้ยงไม่เชื่อง เขาอยากกำจัดพวกมันด้วยมือของเขาเอง ขวางหูขวางตามานานเหลือเกิน เขาไม่ได้อยากแส่หาเรื่องแต่มันดันเสือกอยากหาเรื่องเข้าตัวเขาก็จะจัดให้

“ได้สิ ฉันชอบญี่ปุ่นอยู่แล้ว หึ หึ”เอกหรือเอกพล อิทธิวัตร วันนี้เขาแวะมาหาเพื่อนรักอย่าง คาวิน อัครบริกุลชัยหรือไอ้วิน ไม่รู้ว่านามสกุลมันจะยาวไปไหน เขาล่ะไม่ชอบเอาเสียเลย บรรพบุรุษมันตั้งได้ยังไง ให้ตายเถอะไอ้วินมีเพื่อนอย่างแกเนี้ย อะไรๆมันก็ใหญ่คับฟ้าไปหมด เซ็งแทน เป็นคนธรรมดาไม่ต้องมีงานเยอะเหมือนคนอื่นเขาไม่ได้หรือไงว่ะ เขาคงจะบ่นมากไปแล้ว เอกพลเป็นเพื่อนตั้งแต่อยู่ในท้องของมารดาก็ว่าได้ เพราะพ่อกับแม่ของพวกเขาเป็นเพื่อนกันและรักกันมาก พวกเขาจึงเหมือนครอบครัวเดียวกัน ทำธุรกิจร่วมกัน และที่สำคัญ พวกเขามีนิสัยที่คล้ายๆกันอย่างเช่น ความตรงไปตรงมา โหดและ ร้ายกาจแต่ถ้าได้มีความรักแล้วล่ะก็ พวกเขาก็พร้อมที่จะปกป้องคนรักยิ่งกว่าชีวิตเช่นกัน เรื่องธุรกิจนั้นไม่มีใครเทียบพวกเขาได้ ศัตรูหน้าไหนที่บังอาจมีเรื่องกับพวกเขา รางวัลสำหรับพวกมันคือความตาย

“ควรขอบใจฉันไหม”เหมือนจะเป็นประโยคคำถามแต่กลายเป็นบอกเล่า แล้วเขาลุกขึ้นเต็มความสูง มือหนาก็คว้าเสื้อสูทพาดไหล่กว้าง

“เอ่อ ขอบใจ แล้วนายจะไปไหน”เอกพลหันหน้ามามองคาวินแล้วยิ้มออกมา เขารู้ว่าเวลานี้ไอ้วินมันจะไปไหนแต่ก็อยากถามเพื่อว่าเขาต้องไปด้วย

“หาที่รัก ไปด้วยกันไหม ฉันว่าที่รักนายก็คงอยู่ที่นั้น”คาวินบอกแล้วเดินตรงดิ่งที่ประตูทันที

“แน่อยู่แล้ว”ร้องออกไปแล้วก็เดินผิวปากตามออกมาเช่นกัน

คฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในบ้านส่งเสียงไปทั่ว ทั้งเสียงหัวเราะเสียงกรี้ดอย่าอารมณ์ดีนั้นส่งผลให้สองหนุ่มอย่าง คาวินและเอกพลที่เดินเข้ามานั้นหันไปยิ้มให้กัน

“ฉันว่าเสียงนั้นของที่รักนายว่ะ ไอ้วิน”เอกพลหันไปบอกเมื่อพวกเขาเดินตรงเข้าไปในครัวที่ส่งกลิ่นหอมแตะจมูกกลิ่นอาหารแสนโปรดปรานของพวกชวนให้น้ำลายไหลเหมือนลูกแมวหิวโซ พวกเขาช่างเปรียบอะไรได้น่ารักจริงแท้

“เสียงที่ตามมาก็คงเป็นของที่รักนาย ว่าไหม ไอ้เอก”คาวินถามกลับแล้วก็หัวเราะออกมา ที่รักของพวกเขาอารมณ์ดีจริงๆ

“ผมกลับมาแล้วครับที่รัก”คาวินที่เดินตรงเข้ามาในครัวก็รีบเร่งเข้าไปโอบกอดที่รักทันทีพรางหอมแก้มของที่รักทั้งซ้ายขวา

“ผมก็มาแล้วครับที่รัก”เอกพลก็ไม่น้อยหน้าเดินเข้ามากอดที่รักของเข้าเช่นกันแล้วก็หอมแก้มซ้ายขวา

มาดหนุ่มนักธุรกิจหลายหมื่นหลายแสนล้าน ใบหน้าคมเข้มที่น่าเกรงขามของเหล่าลูกน้องและผู้คนที่พบเห็นหายไปอย่างไร้ร่องลอย เหลือไว้เพียงความน่ารักและออดอ้อนให้กับที่รักของพวกเขา ถ้าใครมาเห็นพวกเขาในสภาพแบบนี้คงได้หมดความน่านับถือเป็นแน่

“จร้า วันนี้มีของโปรดที่ลูกชอบด้วยนะ”เสียงนุ่มนวลที่รักอย่างคุณแม่บังอรหันไปบอกหนุ่มทั้งสองแล้วยิ้มหวานให้

“ทุกอย่างที่ที่รักทำคือของโปรดของผม รักแม่ครับ”เอกพลบอกคนเป็นแม่แล้วหันไปมองคาวิน อย่างต้องการบอกว่า ฉันไวกว่า คาวินที่เห็นดังนั้นก็หันมาสบตากับที่รักของเขาบ้างที่กำลังส่งยิ้มหวานมาให้

“ผมรักแม่”คาวินบอกที่รักของเขาแล้วกำลังจะหอมแก้ม แต่ยังไม่ทันที่จมูกคมนั้นจะแตะแก้มของคนเป็นแม่ก็มีเสียงของหมีใหญ่ดังขัดขึ้นเสียก่อน

“หยุดเลย เจ้าวิน วันละครั้งก็พอแล้ว แก้มเมียฉันช้ำไปหมดก็เพราะแก แล้วก็ปล่อยเมียฉันได้แล้ว หวง”เสียงเข้มที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ที่รักของคาวินอดยิ้มไม่ได้ พ่อลูกคู่นี้มักเป็นอย่างนี้เสมอ

“เมียพ่อแต่แม่ผมนะ”คาวินไม่ปล่อยแต่กลับเถียงคนเป็นพ่อแทน

“แม่แกแต่เมียฉันโว้ย ปล่อยไม่งั้นแกโดนเตะแน่”ว่าแล้วก็เดินเข้ามาแกะมือหนาที่รัดเมียเขาไว้แน่นแล้วกอดซะเอง คาวินก็ต้องปล่อยอย่างง่ายดายเขาแค่อยากแกล้งคนเป็นพ่อเท่านั้น หวงเมียยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก พ่อเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่แต่งงานกันจนถึงปัจจุบัน ทั้งรักทั้งหวงทั้งหึง ไม่เว้นแม้แต่กับลูก เขาล่ะเหลือเชื่อจริงๆ นี้แหละนายใหญ่ อัครบริกุลชัยสามีสุดที่รักของคุณแม่อรนภา อัครบริกุลชัย ซึ่งเป็นที่รักของเขา

“แกก็เหมือนกัน เจ้าเอก ปล่อยเมียฉันด้วย”เพียงไม่นานเสียงของคนหวงเมียอีกคนก็ดังขึ้น ทำเอาเอกพลที่กอดที่รักของเขาอยู่หน้างอทันที

“คนหวงเมียนี้เป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่าครับที่รัก เฮ้ย... ผมรักแม่ครับ”เอกพลบอกแล้วก็หอมแก้มคนเป็นแม่อีกครั้งก่อนที่จะปล่อยแล้วหันไปยิ้มให้กับคาวินที่มีอารมณ์ขนไม่ต่างจากเขาเลย

ที่รักของคาวินและเอกพล ก็คือคนเป็นแม่นั้นเอง ส่วนคนที่เป็นศัตรูตัวฉกาจก็คือคนเป็นพ่อ ที่มักจะขัดขวางพวกเขาทุกทีที่เข้าใกล้ หรือกอดและหอมแก้ม นี้พวกเขาเป็นลูกนะยังหวงขนาดนี้  อยากรู้จริงว่าตอนหนุ่มพ่อของพวกเขาเป็นยัง

“พวกแกก็มีซะสิ จะได้รู้ว่าทำไมพวกฉันถึงหวงเมีย และไม่อยากให้ใครเข้าใกล้”นายใหญ่แห่งอัครบริกุลชัยบอกไอ้พวกเจ้าลูกชายที่ยืนอยู่ด้วยกัน

“น่าสน ว่าไหม ไอ้เอก”คาวินให้ไปถามเอกพลเพื่อนรักแล้วก็เดินออกไปนอกห้องครัว

“ไม่นาน ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าฉันมีเมียแล้วมันจะเป็นเหมือนพ่อฉันและนายใหญ่ของแกไหม หึหึ”เอกพลที่เดินตามหลังออกมาร้องเสียงดังเพื่อส่งให้ไปถึงคนเป็นพ่อที่ขี้หวงเมียให้ได้ยินแล้วเขาก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

อาหารมื้อค่ำผ่านไปอย่างอร่อยด้วยฝีมือของที่รักของพวกเขาทั้งคาวินและเอกพลหลังจากทำงานทุกวันเขาจะกลับมาทานข้าวที่บ้านเสมอ นานๆทีที่พวกเขาจะออกไปกับสาวๆ เพราะความเป็นชายก็ต้องการความปลดปล่อยเช่นกัน

เวลานี้พวกเขากำลังมีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกและทานข้าวด้วยกันอย่างอร่อยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่แตกต่างกับเธอเพราะเวลานี้มันเหมือนกับมีดคมที่กรีดลึกเข้าสู่หัวใจอย่างเจ็บปวดเจียนตายแต่เธอจะต้องสู้และเอาชนะความอัปยศนี้ให้ได้

“ภิส ลูกเข้าใจพ่อใช่ไหม”เสียงเข้มของคนเป็นพ่อถามลูกสาวที่รักที่เป็นดังแก้วตาดวงใจของเขา

“ภิสเข้าใจค่ะ แล้วเมื่อไรคะ”เสียงที่สั่นเล็กน้อยถามออกไปอย่างกลั้นอารมณ์ที่กำลังอ่อนแอเอาไว้เพื่อไม่ให้มันสั่นไปมากกว่านี้

“อีกสองวัน”คนเป็นพ่อบอกลูกสาวที่รักออกไป เขาไม่มีทางเลือก ไม่อย่างนั้นบริษัทที่เขาสร้างมากับมือก็ต้องสลายไป แล้วไหนจะหุ้นส่วนและลูกน้องอีกมากมาย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ หนี้อีกมากมายที่เขาไปกู้ยืมมา แม้แต่หุ้นส่วนด้วยกันก็ยังไม่รู้ ทางเดียวที่มีอยู่คือนั่นลูกสาวคนเดียวของเขาคือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า เนตรนภิส บริรักษ์คนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้ อาจดูเหมือนว่าเขาขายลูกสาวกินแต่นี้ก็คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับครอบครัวของเขา เพราะต่อให้เขาดิ้นรนขนาดไหน ไอ้คนที่จ้องที่จะทำลายมันก็ไม่วายอยู่ดี ตอนนี้เขาเป็นห่วงลูกสาวของเขายิ่งนัก เพราะต้องตกไปอยู่ในมือของไอ้คนมากด้วยเล่ห์อย่างนายอาทิตย์ กิจจากรที่เป็นเจ้าหนี้ทั้งหมดของเขา หากสวรรค์เมฆตาขอให้ใครรีบมาช่วยลูกสาวของเขาด้วยเถอะ

“ถ้าภิสแต่งงานกับเขา ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่ไหมคะ”เนตรนภิสหันไปถามกับคนเป็นพ่อ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ทีแรกก็ไหลออกมาอาบแก้มนวลแดงก่ำทันที คนเป็นพ่อสงสารลูกยิ่งนัก เจ็บไปถึงหัวใจ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ชะตาชีวิตของเขาและลูกตกอยู่ในที่นั่งลำบากเหลือเกิน

“...........”ความเงียบของคนเป็นพ่อยิ่งทำให้เนตรนภิสใจหาย เหตุการณ์ร้ายแรงกำลังสุมอกคนเป็นพ่อและเธออย่างหาออกทางออกไม่ได้ นี้คงเป็นตัวเลือกสุดท้ายนั่นคือเธอเอง

“ปัญหามันมากกว่านั้น ใช่ไหมคะ พ่อ”เสียงใสถามคนเป็นพ่อที่มีสีหน้าทั้งเสียใจ หนักใจ ปนเปกันไปหมด เนตรนภิสเห็นสีหน้าคนเป็นพ่อราวกับกำลังโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุทั้งหมดของเรื่องที่เกิดขึ้น แต่นั่นมันไม่ใช่พ่อของเธอแต่เป็นเขาต่างหากที่ทำทุกอย่างเพื่อต้องการตัวเธอ แค่นี้เธอก็เจ็บมากแล้ว เธอไม่เสียใจเลยที่ต้องทำตามความต้องการของคนเป็นพ่อแม้นั้นมันคือชีวิตเธอทั้งชีวิต แต่เธอสงสารคนเป็นพ่อมากกว่า ไหนจะเรื่องบริษัท อีกทั้งหุ้นส่วนที่ถอนหุ้นออกไปอีกมากมาย ลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมากนาน พ่อเธอทิ้งพวกเขาไม่ลงแน่ เพราะด้วยความสงสาร เวลานี้งานหายากมากนักแล้วลูกน้องอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าถ้าพ่อของเธอกำลังจะล้มละลาย แล้วพวกเขาจะเป็นอย่างไร คนเป็นพ่อนั้นบอกเธอเสมอว่า แม้จะเป็นลูกน้องแต่ก็เป็นคนที่มีฐานะเท่าเทียบกันและที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ การเป็นครอบครัว ลูกน้องก็เหมือนครอบครัวเดียวกันที่ดูแลซึ่งกันและกัน เหตุนี้ พ่อของเธอจึงเป็นที่รักใคร่ของลูกน้องและการจงรักภักดีต่อพ่อของเธอ แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ย้ำแย่ลงทุกวัน ไม่มีหลักประกันว่าเมื่อไรจะดีขึ้นหรือจะแย่ลง การทำงานก็มีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา แต่เวลานี้คนเป็นพ่อกำลังแย่ เธอต้องช่วยให้ถึงที่สุด

“ภายในเดือนหน้าถ้าเราไม่มีเงินไปจ่ายธนาคาร ทั้งบ้านและบริษัทเราจะถูกยึดทั้งหมด พ่อขอโทษ ภิส พ่อมันไม่ดีที่ไม่สามารถดูแลทั้งลูกและคนอีกมากมายที่พ่อรับผิดชอบได้ พ่อมันแย่ พ่อขอโทษ ภิสพ่อขอโทษ”คนเป็นพ่อร้องไห้ออกมาพร้อมทั้งกล่าวขอโทษลูกสาว เขาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะบังคับลูก และไม่เคยคิดว่า เขาจะต้องมายกลูกสาวที่รักดังแก้วตาดวงใจ ให้กับคนที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้ทั้งหมดนั้นนายอาทิตย์เจ้าของธุรกิจเช่นเดียวกันกับเขาเมื่อเกิดการขัดแย้งขึ้นเพราะความคิดทั้งต่างกันอีกทั้งด้วยวัยของพวกเขา อาทิตย์นั้นหนุ่มกว่าความคิดจึงมักไม่ตรงกันกับผู้ที่มากด้วยอายุอย่างเขา เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการทำธุรกิจที่ไม่ลงรอยกันจนเกิดการขัดแย้งแต่นั้นมันไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดแม้แต่น้อย เหตุการณ์ไม่ได้หยุดอยู่แค่นนั้น เพราะความเป็นจริงแล้ว อาทิตย์ต้องการลูกสาวของเขา เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะต้องการลูกสาวของเขาเท่านั่นเอง

“พ่ออย่าโทษตัวเองเลยนะคะ พ่อไม่ผิด พ่อทำดีที่สุดแล้ว พ่อคือพ่อที่ประเสริฐของภิสนะคะ ภิสจะอยู่ข้างๆพ่อค่ะ เราจะข้ามปัญหานี้ไปด้วยกัน”เนตรนภิสกอดคนเป็นพ่อแน่น นึกถึงคนเป็นแม่ที่จากเธอไปด้วยโรคร้ายแรง เนื้องอกในสมองระยะสุดท้ายที่ทั้งเธอและพ่อไม่เคยรู้เลยจนวินาทีสุดท้าย

“จ้ะ เราจะสู้ไปด้วยกัน พ่อเสียใจที่ทำอย่างนี้ ขอบใจลูกสาวตัวน้อยคนนี้ที่คอยอยู่เคียงข้างพ่อเสมอ พ่อรักลูกมากนะ” เสียงสั่นเครือของคนเป็นพ่อบอกลูกสาวพรางกอดไว้แน่น ลูกสาวเขาเข้มแข็งนัก เขาภูมิใจในลูกสาวคนนี้มากที่ถอดแบบมาจากคนเป็นแม่ไม่มีผิด เข้มแข็ง เด็ดเดียว อ่อนหวาน เธอมีครบทุกอย่าง แต่สิ่งนี้กำลังจะจากเขาไป

“ภิสก็รักพ่อมากค่ะ”เนตรนภิสบอกคนเป็นพ่อ น้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มนวลเต็มไปหมด ต่อจากนี้ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไร แล้วคนที่เธอต้องแต่งงานด้วยนั้น เป็นใครกัน เธอรู้แค่ว่า เขานั้นมีอำนาจและยิ่งใหญ่ อิทธิพลมากมายที่สามารถทำได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ ต่อให้เป็นอย่างไงเธอก็ไม่ไหว ชีวิตคนเราต้องสู้ต่อไป

“พรุ่งนี้เขาจะมาพบลูก ที่นี่ บ้านของเรา”เสียงเข้มแต่แหบแห้งด้วยวัยที่มากบอกลูกสาวพรางคลายอ้อมกอดออก มือหนาก็เช็คคราบน้ำตาให้ จูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่ ลูกสาวที่เป็นตัวแทนของภรรยาที่จากเขาไปอย่างไม่หวนกลับ

“ค่ะ ถ้างั้นเราไปนอนกันนะคะ วันนี้พ่อเหนื่อยมามากแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้”เนตรนภิสบอกคนเป็นพ่อ ก็เห็นน้ำตาจากใบหน้าคมเข้มไหลลงมา มือบางเช็ดให้อย่างอ่อนโยนพร้อมกับส่งยิ้มหวานส่งกำลังใจให้คนเป็นพ่อ

“จ้ะ” หัวใจของคนเป็นพ่อเจ็บราวกับใครเอามีดมากรีดมันอย่างช้าๆ และแตกจนแหลกสลาย

พ่อลูกเดินตรงขึ้นด้านบน  นี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของพวกเขาสองพ่อลูกที่ต้องอยู่ด้วยกันก็ว่าได้

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว