Space Between - ณ เส้นขนานของหัวใจ
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเเนวชายรักชาย อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะกับเด็ก
อายุต่ำกว่า 18 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ
วิทน์Xติน
พี่วิทน์คนนี้คือพี่วิทน์ที่ผมเคยรู้จัก คนที่เป็นห่วงความรู้สึกผม เเคร์ผม … อย่างน้อยก็ก่อนช่วงที่เรากำลังจะเลิกกัน
“ช่างมันเถอะ เรากลับไปเเก้ไขอะไรไม่ได้ ว่าแต่ความทรงจำพี่วิทน์เป็นยังไงบ้าง
จำอะไรได้บ้างหรือยัง”
“พี่พยายามแล้ว เเต่ยังจำอะไรไม่ได้เลย หมอบอกว่ามันเป็นกลไกปกป้องของสมอง
บางทีความจำบางส่วนที่หายไปมันอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้พี่รู้สึกแย่มากก็ได้”
“พี่วิทน์จำตินได้ แต่จำปายไม่ได้ทั้งๆที่เราสามคนก็เคยอยู่ด้วยกันบ่อยๆ
ทำไมพี่ถึงจำปายด้วยไม่ได้ล่ะ”
“มันก็อธิบายไม่ถูก เรื่องของตินพี่ก็ไม่ได้จำได้ทุกอย่าง มันเหมือนพี่มีจิ๊กซอล
แค่บางส่วนอยู่ในหัว แต่ไม่รู้จะเริ่มปะติดปะต่อตรงไหนก่อนดี”
ตุลย์Xเมฆ
“เห้ย พี่มาไงเนี่ย!” เท่าที่ผมจำได้ ผมไม่เคยบอกที่อยู่ให้พี่เเกรู้
“ถามคนเเถวนี้มา จะยากตรงไหน จะเปิดห้องได้หรือยัง” ถึงว่า
ทำไมคนมองผมเเปลกๆ มีผู้ชายหน้าตาดีท่าทางภูมิฐาน เเต่งตัวใส่สูทตั้งเเต่หัวจรดเท้ามาหาที่ห้องก็ต้องมีคนสงสัยกันบ้างแหละว่ามาทำอะไร เพราะสภาพคนอย่างผม คงไม่มีเพื่อนเป็นคนที่ท่าทางคนละระดับอย่างพี่ตุลย์เเน่นอน
“แล้วมาทำไมอ่ะ มาทำอะไร” ผมอดหวาดระเเวงไม่ได้ครับ เผื่อพี่เเกโมโหเรื่องเมื่อเช้า
ตามมาฆ่าหมกศพผมจะทำยังไงล่ะ ผมยิ่งอยู่คนเดียวอยู่ด้วย หอเเถวนี้ก็ดันเป็นสัดเป็นส่วน เงียบกริบแบบนี้ ตะโกนร้องให้ใครช่วยจะมีใครมาช่วยกุหรือเปล่าวะเนี่ย
“บอกให้เปิดก็เปิดสิ อย่าดื้อมากได้มั้ย” ทำหน้าโหดใส่กุอีกแล้ว
“โอเคๆ เปิดก็เปิด ดุจริงวุ้ย ดุอย่างกะหมา” ประโยคหลังผมพูดเบาๆลอยๆครับ
หวังว่าเเกจะไม่ได้ยิน แต่ดูเหมือนเเกจะได้ยินจนได้
“อะไรหมาๆนะ”
“เอ่อ ป่าวๆครับป่าวพี่ตุลย์ เชิญครับพี่ตุลย์” ผมไขกุญเเจ
ผายมือโค้งตัวอันเชิญพี่เเกเข้าไปในห้อง พี่ตุลย์ไล่สายตามองไปรอบๆห้องอย่างพิจารณา ไม่แน่ใจว่ารังเกียจหรือกำลังคิดอะไรอยู่
“อยู่ที่นี่เหรอ” ยืนกอดอกมองไปรอบๆ ไม่ยอมนั่งโซฟาสักที
“นั่งก่อนก็ได้พี่ ห้องผมสะอาด ฆ่าเชื้อโรคแล้ว” ผมนักศึกษาเเพทย์นะ อย่าลืม
ผมต้องสะอาดสะอ้านอยู่แล้ว เเอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดมีอยู่ติดห้องตลอด และในที่สุดพี่ตุลย์ก็ยอมนั่งลง
“อยู่กับใคร อยู่คนเดียวเหรอ?”
“ครับ อยู่คนเดียว”
“อืม”
อะไรของพี่เเกวะ หลุดลอยไปทะเลเเล้ว มาถึงที่นี่จะมาทำอะไรก็ไม่พูดสักที
“เออ แล้วพี่มาที่นี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า?” ผมก็เลยต้องเปิดประเด็นถามเสียเอง
“มี เราหมายความว่ายังไง ที่บอกว่าจะลาออกเมื่อเช้า” ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องเหรอ
เลยจะให้ผมเเปลไทยให้เป็นไทยอีกรอบ
“ก็… ลาออกก็ลาออกไงพี่ ไม่กลับไปทำงานอีกแล้วอ่ะ”
“เหรอ… แต่พี่ไม่ให้เราออก” วินาทีนั้นเหมือนเหมือนสายฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางหน้า
เมฆ's Part
“ก็เข้ากับมึงดีหนิ คนนึงปากหมา อีกคนนึงดุเหมือนหมา”
“เข้ากันบ้าบอคอเเตกอะไร กุจะไปไหนมาไหน กระดิกนิ้วแทบไม่ได้อยู่แล้ว
ต้องถามต้องโหดใส่ตลอดว่ากูไปไหนอยู่กับใครมา”