เบ บารมี
“เดือนมหาลัยนี้เหมือนเมฆเลยเนอะ”
“เรียนครูเอกภาษาไทยรึไง ขยันเปรียบเปรยนะมึง” พี่มันพูดในขณะที่มือยังถือร่มให้ผม
“ก็มันเรื่องจริงนิ พี่ไปไหนก็มีแต่คนเห็น ถามจริงๆเหอะ พี่เคยรำคาญตัวเองบ้างมั้ย”
โบ๊ก!
“โอ๊ย! เขกทำไมเล่า เจ็บนะ”
“เจ็บสิดี จะได้จำ” ผมทิ้งหางตามองงไปที่พี่มันอย่างเซ็งๆ “ปีหนึ่งไม่ใช่เหรอมึง เพิ่งเข้ามาแท้ๆรู้นั้นรู้นี้ราวกับอธิการบดี”
“ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย พี่เป็นเดือนมหาลัย ใครๆก็รู้จัก”
“แล้วมึงรู้จักกูดี?” ผมกำลังจะอ้าปากตอบกลับ แต่ก็ถูกขัดโดยลุงเจ้าของร้าน
“แปป” ผมยกมือเบรกพี่มันไว้ ก่อนจะหันไปสั่งกุยช่าย “เอากุยช่ายไส้เผือกชุดหนึ่งกับไส้มันอีกชุดหนึ่งครับ”
“ซื้อไปเลี้ยงญาติเหรอวะ เยอะขนาด” พี่มันว่าพร้อมกับเหยียดยิ้มมอง ผมโครตจะเกลียดรอยยิ้มนี้เลย เหมือนมันอยู่เหนือผมยังไงไม่รู้
“ความพอใจของคนซื้อมั้ย”
“ทำไมไม่ด่าว่ากูเสือกเลยล่ะ”
“ตามนั้น”
“อ้าว ไอ้เด็กนี้”
“กุยช่ายที่สั่งได้แล้วครับ” คราวนี้ผมคงต้องยกมือขอบคุณเจ้าของร้านกุยช่ายที่พูดเบรกมือของไอ้พี่หมอนี้ไว้ทัน ไม่อย่างนั้นผมคงต้องโดนพี่มันเขกหัว เจ็บฟรีไปอีกดอก ผมยกยิ้มสะใจพลางหยิบกุยช่ายใส่เผือกเข้าปาก รับรสหวานหอมและมันโดยไม่มีซอส มันก็คงรสชาติที่ดีเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
“ทำหน้าทำตา อร่อยมาสินะ”
“อ้าว.....สักชิ้นมั้ยคุณหมอ”
“มือกูว่างมากเหรอ หื้อ” พี่มันไม่ว่าเปล่า มันเลิกคิ้วมองผม สายตาที่มองมากำลังด่าทอว่าผมโง่
“แล้วผมต้องป้อนรึไงเล่า”
“กูต้องมองมึงกินถูกมั้ย?” ไอ้พี่หมอพูดประชดผม “ถ้ามันลำบากก็พี่สาวข้างหลังมึงทำก็ได้นะ” ผมมองตามคนที่พี่มันพูดถึง ผู้หญิงหน้าสวยในชุดนักศึกษากำลังส่งยิ้มให้พี่มันแบบสวยๆ ในขณะที่คนหน้าห่วยอย่างผมยืนซื้อบื้ออยู่อย่างคนโง่ๆ
“เอ้า!” ผมหยิบกุยช่ายชิ้นโตเข้าปากพี่มันอย่างหงุดหงิดสลับกับหันไปมองพี่สาวคนดังกล่าวซึ่งยังส่งยิ้มหวานให้ไอ้พี่หมออย่างไม่มีหยุด “หล่อนักนะ เอาไปอีกอัน”
“เฮ้ยๆ ใจเย็นดิวะ ทีละชิ้น ปากกูไม่กว้างเหมือนมึง” พี่มันว่าพร้อมกับจับมือผมให้หยุดยัดขนมเข้าปาก “อันนี้ไส้มันรึเปล่า”
“อือ คงใช่”
“อร่อยดี ขออีกชิ้นดิ” ผมทำตามที่พี่มันบอก มองดูเดือนมหาลัยตรงหน้าเขี้ยวขนมด้วยรอยยิ้มที่โครตจะหล่อ
“ยิ้มแล้วดูดีนี่ ทำไมไม่ยิ้มบ่อยๆล่ะ” ไอ้พี่หมอหุบยิ้มลงพร้อมกับกลืนขนมลงคอไป ตาคมกำลังจ้องเข้ามาในตาของผมราวกับหาคำตอบบ้างอย่าง ใบหน้าหล่อขยับเข้ามาใกล้ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ
“หึ แต่กูชอบยิ้มมึงมากกว่า”
“!!!!!” ร้อน.....ตอนนี้หน้าผมร้อนผาวไปหมด โดยเฉพาะร่างกายที่ร้อนรุ่มขึ้นมาจากการสูบฉีดเลือด หัวใจที่สั่นระรั่วเมื่อเขาผลิยิ้ม ผมเม้มปากหนักด้วยสกัดกลั้นความเขินอาย
“หูมึงแดง เป็นอะไร”
“เปล่านะ”
“เขินกูอยู่รึไง หื้อ”
“อย่าพูดบ้าๆนะ ผมเป็นผู้ชาย หล่อมากด้วย” ถึงปากจะว่าไปแบบนั้น แต่หน้าผมนี่แทบจะมุดลงพื้นถนนที่ตอนนี้มีน้ำดำขุ่นขังอยู่ เท้าเล็กของผมแช่อยู่ในน้ำอยู่นาน อยากจะก้าวเท้าแล้วรีบเดินขึ้นห้อง แต่ขามันก้าวไม่ออกเพราะไอ้หมอเดือนนี่แหละ
“หล่อกับผีเถอะ หึ”
“เออ หล่อ” จะว่าไป....คุยกันมาตั้งนานแล้ว พี่มันชื่ออะไรวะ
“ไอ้พี่หมอ”
“เฮ้ย สุภาพหน่อย เรียกพี่หมอสิวะ” ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วจึงถามต่อไป
“พี่ชื่อมังกรใช่รึเปล่า” ผมถามแต่ไม่กล้ามองหน้าเพราะรู้อยู่แล้วว่าพี่มันมองมาที่ผม
“ครับ” น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทำให้ขาของผมเริ่มอยู่ไม่สุข มันกำลังสั่นกลัวสิ่งแปลกใหม่ เหมือนกับหัวใจที่เต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ “น้องรู้ได้ยังไง”
“ไม่บอก”
“งั้นเหรอ แล้วเราชื่ออะไรเหรอครับ” น้ำเสียงแบบนี้....พี่เขาไม่ได้จะจีบกูใช่มั้ยวะ ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างข่มความกลัว เงยหน้ามองพี่มันแล้วตอบกลับไป
“ไม่บอกง่ายๆหรอกนะ” ไอ้พี่กรเลิกคิ้วมองผมพลางสูดอากาศเข้าปอดตอบรับความท้าทายที่ผมส่งไปให้
“ได้....จะเล่นแบบนี้ก็ย่อมได้ครับ น้องเบบี๋”
“เฮ้ยพี่!” ผมเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู พี่มันรู้จักชื่อนั้นได้ยังไงวะ ผมไม่เคยบอกใครให้รู้เลยนี่ “หรือจะเป็นไอ้พี่สิงห์ พี่สิงห์บอกพี่ใช่มั้ย”
“ไม่รู้สินะ”
“ไอ้พี่กร!”
“ครับน้องเบ หึๆ”
กร นที
“คืนนี้มึงมีแพลนออกไปไหนรึเปล่า”
“ก็ไม่นะ”
“เออ ดีแล้ว อย่าให้กูรู้นะว่ามึงออกไปนั่งกินลมที่ไหน” ผมบอกเชิงคำสั่ง
“ใช่เรื่องของพี่มั้ย สิทธิ์ของผมนี่” เบบี๋ว่าพร้อมกับไหวไหล่ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ผมบอก ดื้อนักใช่มั้ย เดี๋ยวมันจะได้รู้....ว่าหมอเถื่อนอย่างกูทำอะไรได้มากกว่าที่มึงคิด
“ถามหาสิทธิ์เหรอ”
“!!!!”
“ระวังจะได้สิทธ์นั้นจากกูล่ะ”
“ไอ้หมอบ้า!”
*********
“!!!!!” ตากลมเบิกกว้างมองการกระทำของผมพร้อมกับแก้มเนียนที่เริ่มออกสีแดงฝาดบ่งบอกถึงอารมณ์เขินที่ก่อตัวขึ้น
“เลอะเทอะนะมึง”
“ไอ้...ไอ้..ไอ้พี่กรไอ้พี่บ้า” มันชี้หน้าผมด้วยความโกรธพร้อมกับดิ้นอยู่บนเก้าอี้ ผมอ้าปากเตรียมจะงับนิ้วเรียวของมัน แต่ไอ้ตัวเล็กดันชักนิ้วกลับไปเสียก่อน
“ต้องให้กูบอกมึงอีกกี่ครั้งฮะ ว่าอย่าขึ้นไอ้กับกู”
“ก็ดูที่พี่ทำดิ”
“กูทำอะไร” ผมถามพร้อมกับดูดนิ้วที่ใช้เช็ดนมข้นจากปากสวย ไอ้เบหลับมาปี๋อย่างกลั้นเสียงร้อง ก่อนจะเอ่ยปากด่าผม
“ทำบ้าอะไรของพี่วะ ไม่อายบ้างรึไง”
“สม ใครบอกมึงกินไม่ชวนกู”
“ต้องชวนด้วยเหรอวะ วางไว้บนจานแท้ๆ ฮึ่ย!”มันทำหน้าเซ็งโลก ก่อนจะงับปลาท่องโก๋เข้าไปอีกคำ ไอ้ที่ด่าท่อผมเมื่อกี้นี้ก็ทำแก้เขินสินะ
งัม...งัม...งัม...
“อ้าวๆ กินดีๆนะมึง ถ้าเลอะมึงจะไม่เจอแค่นิ้ว”
!!!!!!
“ทำไม พี่จะเลียปากผมเหรอ” มันว่าอย่างท้าทายหลังจากที่ตกใจกับคำพูดของผมอยู่ไม่นาน
“หรือมึงจะเอา”
“เฮ้ย!” มาถอยหลังติดพนักหลังจากที่ผมโค้งตัวเข้าไปหา ตากลมเบิกกว้างมองอย่างระแวง ก่อนที่ผมจะเหยียดยิ้มดูถูกความกล้าดีที่มีแต่ปากของมัน “พี่จะทำผมจริงๆเหรอ”
“ใครใช้ให้มึงท้าทายกู”
“พอเลย ผมจะกินแล้ว” เบบี๋บอกพร้อมกับงับปลาท่องโก๋เข้าไปสลับกับน้ำเต้าหู้ “โอเลี้ยงอร่อยมั้ยพี่” จู่ๆมันก็ถามผม
“งั้นๆ ถามทำไม” ผมถามมันหลังจากที่ดื่มโอเลี้ยงอึกหนึ่งเข้าไป
“ก็แค่อยากรู้ว่านอกจากน้ำเต้าหู้ ปลาท่องโก๋มันจะเข้ากับโอเลี้ยงได้รึเปล่า” มันถามสลับกับเคี้ยวปลาท่องโก๋ในปากเหมือนเด็กๆ ก่อนที่ผมจะนึกอะไรดีๆได้
“ก็ลองดู” ผมอ้าปากรอปลาท่องโก๋ชิ้นสุดท้ายในมือเล็ก “หมดแล้วมั้ย ชิ้นสุดท้ายอยู่ที่มึง” เบบี๋มองตามอย่างเข้าใจ ก่อนจะส่งมันเข้าปากผมอย่างว่าง่าย ผมรับรสหวานหอมจากปลาท่องโก๋ชิ้นโตสลับกับน้ำโอเลี้ยงซึ่งเป็นรสชาติที่แปลกใหม่สำหรับผม
“เป็นไงๆ” ตากลมมองาที่ผมด้วยความอยากรู้
“มึงก็ลองดิ” ผมว่าพร้อมกับยื่นแก้วน้ำโอเลี้ยงให้มัน มือเรียวข้างขวายังคงถือปลาท่องโก๋ชิ้นสุดท้าย ส่วนอีกข้างก็มันเยิ้มด้วยน้ำมันจากขนม มันเอื้อมมือมารับ ก่อนที่ผมจะหยุดมือเรียวไว้ “อย่านะมึง อ้าปากแล้วนั่งเฉยๆ”
“อ้าว.....”
“กินดิ” เบบี๋อ้าปากดูดหลอดน้ำพร้อมรับรสขมจากโอเลี้ยงสลับกับขนมในมือ ใบหน้าสวยยกยิ้มด้วยความพอใจในความเข้ากันได้ระหว่างรสหวานขม “ไง”
“ดีมากเว่อร์เว้ยพี่ โครตเข้ากันได้”
“หึๆ ของบางอย่างจะเข้ากันได้มั้ย มันขึ้นอยู่กับความพอใจของคน ไม่ใช่รสชาติอาหาร” ผมพูดอย่างมีนัยแฝงให้ไอ้ตัวเล็กได้คิดตาม
“หมายความว่าไง”
“มึงบอกว่ามันเข้ากันได้ แต่คนอื่นอาจเห็นตรงกันข้าม กูถึงบอกว่ามันขึ้นอยู่ที่ความพอใจของคนไง” เบบี๋พยักหน้าเข้าใจพร้อมกับมองมาที่ผม มันเม้มปากหนักอยู่ครู่หนึ่งเหมือนมีคำถาม
“แล้วพี่อ่ะ”
“กูพอใจในแบบของกู”
“พี่กร....พี่คงไม่ได้คิดจะจีบผมใช่มั้ย”
คำถามสั้นๆหลุดออกจากปากแดงสดที่อยู่ตรงหน้าผม ตากลมมองลึกเข้ามาอย่างต้องการคำตอบ ผมรู้สึกดีที่มีมันอยู่ใกล้ๆ แล้วสิ่งที่ผมทำอยู่มันเรียกว่าจีบได้รึเปล่าวะ
“กูแสดงออกมาแบบนั้นเหรอ”
“อาจจะ”
“ผ่านการกระทำ?” เบบี๋ส่ายหน้าให้คำตอบ ก่อนที่นิ้วเรียวอุ่นที่เคยสัมผัสแก้วนมอุ่นจะแตะสัมผัสที่ปลายตาของผมอย่างให้คำตอบ เชี่ยแล้วไง....อุตส่าห์พยายามเก็บไว้ ผมพยายามแล้วที่จะไม่พูดมันออกไป แล้วเผลอแสดงออกไปตอนไหนเนี่ย
“กูไม่ได้ชอบมึง”
“.......” เบบี๋มองผมราวกับผิดหวัง
“อย่าทำหน้าแบบนั้น กูยังพูดไม่จบ”
“ก็แล้วยังไงต่อเล่า” มันว่าเสียงเซ็งพร้อมกับฟาดมือมาที่ต้นแขนของผม “โอ๊ย! พี่เจ็บนะเบ”
“ไม่รู้แหละ ใครใช้ให้พี่แกล้งผม”
“พี่เปล่าแกล้ง”
“เหมือนที่พี่เปล่าชอบผมด้วยรึเปล่า” ตรง....ตรงมาก ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าน้องเบมันเป็นคนตรงไปตรงมาก็วันนี้นี่แหละ หรือเพราะผมทำให้น้องมันคิดมากวะ
“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น”
“แล้วแบบไหน”
“รู้สึกนิดหน่อย....รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นมึงในใจกูแล้ว” ใบหน้าหวานออกสีเมื่อผมบอกออกไป “อืม เขินได้น่ารักดี”
“ใครเขิน อย่ามามั่ว”
“ก็เห็นกันอยู่” ผมว่าก่อนจะก้มลงไปจิบนมอุ่นอีกครั้งพร้อมกับกุมมือเล็กเอาไว้ด้วยความรู้ดีที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ใครจะกลับห้องก็กลับไปเถอะ คืนนี้ผมไม่กลับหรอกนะ
“จะกินให้หมดแก้วเลยมั้ย”
“ก็มันอร่อยนี่ครับ” ผมว่าพร้อมกับขยับหน้าเข้าไปใกล้ แกล้งให้เบบี๋หน้าแดงอีกครั้ง ผิวขาวใสยิ่งมีสีเลือดฝาดข้างแก้มมันก็ยิ่งหน้ามองเข้าไปใหญ่ “เข้านอนนะครับ ดึกแล้ว” เบบี๋พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะส่งนมอึกสุดท้ายลงคอ ไม่นานนักร่างบางก็เข้าไปซ่อนตัวใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ในขณะที่ตากลมยังมองผมแบบไม่วางตา
“พี่กร...ตกลงพี่จีบผมจริงๆใช่มั้ย”
“ไม่ได้จีบ” ใช่....ผมไม่ได้จีบน้องมันนะ
“อ้าว แต่พี่บอกชอบผม”
“ไม่ได้ชอบ”
“ไอ้พี่กร!” เบบี๋เรียกผมเสียงดัง “วุ๊! ไม่พูดด้วยแล้ว”
“อ้าว...”
“เงียบเลย จะนอนโว้ย!”
“ไม่อะไรของมึงวะกร” ไอ้ใหญ่ถามผม
“อึก...มึง....แฮ่กๆ...จีบน้องมันไม่ได้” ผมพูดสลับกับเสียงหอบเหนื่อย
“แต่กูบอกน้องไปแล้ว”
“ช่างแม่งดิ กูไม่ให้จีบ!”
“กูจะจีบ ใครจะทำไม” ไอ้ใหญ่มันตอบกลับอย่างไม่ยอมให้ผมง่ายๆเช่นกัน แล้วคิดว่าผมจะยอมให้มันรึไงวะ ไม่มีทาง!!
“ไอ้ใหญ่ กับเด็กมึงกูเคยยุ่งมั้ย”
“แล้วนี่เด็กมึงรึไง”
“เออ! เด็กกู”
!!!!!
“อ้าวเฮ้ย นี่ว่าทีเมียเพื่อนเหรอวะ” ไอ้ใหญ่มองผมสลับกับคนตัวเล็กที่ตอนนี้มองมาที่ผม “มึงจะเอาคนนี้จริงเหรอวะ”ไอ้ฉิบหายนี้ก็กล้าถามคำถามนี้ต่อหน้าไอ้เบอีกเนอะ เออ...ผมยอมตอบก็ได้ เขินดี ^//////^
“ชอบคนนี้ก็ต้องเอาคนนี้ดิวะ” ใบหน้าสวยเริ่มออกสีเพราะความเขินอายให้ผมได้เห็นเช่นเดียวกับไอ้ใหญ่ที่เป้ปากมองด้วยความหมั่นไส้
“อนาคตทาสเมียเลยนะมึง”
“เรียกเมียไม่ได้”
“ทำไมวะ”
“สถานะแฟนยังไม่มีสิทธิ์เลย”
“ยังไง”
“ยังไม่ได้ขอคบ”
“งั้นขอ”
“คบกับพี่นะ”
“.......”
“ได้มั้ยครับน้องเบ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนบวกกับสายตาที่วอนขอ มองคนตัวเล็กหน้าออกสีโดยมีผมซึ่งเป็นสาเหตุของปฏิกิริยาเหล่านั้น
“อย่าเพิ่งรีบดิ ขอเล่นตัวก่อน”
“หึ เล่นตัวด้วยแฮะ” ผมยิ้มให้ไอ้ตัวเล็กด้วยความรู้สึกที่มีไม่ต่างจากคนตรงหน้า เบบี๋ส่งยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาในแบบของเขา
“ไว้ตอบที่หลังได้มั้ยอ่ะ” เสียงหวานเอ่ยถามผม ก่อนที่ผมจะพยักหน้าให้คำตอบพร้อมเอ่ยปากชวนอีกคน
“งั้นไปกินข้าวเย็นกัน”
“อื้ม”
***** เตรียมใจไว้พบความร้ายกาจของอิพิกรไว้ให้ดี หึๆ *****