"อ่าว วันนี้เข้าตึกเหรอ?" พี่กวางเงยหน้าขึ้นมาจากจานมะม่วงได้พอดีกับร่างสูงโปร่งที่ไม่คิดว่าจะได้เจอวันนี้เดินใส่มาส์กเข้าประตูชั้น30มา จึงโบกมือที่ถือชิ้นมะม่วงทักทายอย่างประหลาดใจ
"ไม่ได้เข้า ที่พี่เห็นอยู่นี่คือกายหยาบ"
"อีออฟ.." ถ้าไม่ติดว่ากลัวเสียของ มะม่วงเปรี้ยวในมือคงลอยไปชนกับหัวศิลปินในค่ายที่ตนทำงานอยู่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงจะลอยจริงๆก็คงไม่มีใครแปลกใจเท่าไหร่ เพราะทุกคนในตึกรู้ซึ้งถึงกิตติศัพท์ความกวนตีนของนายจุมพลมาเนิ่นนานแล้ว
ร่างสูงพูดกวนตีนผู้จัดการของตนจบ ก็เริ่มจะมองหาคนที่ทำให้เมื่อคืนเค้านอนดึกกว่าปกติและตื่นเช้ากว่าปกติ "ไอ้กันมายัง?"
"มาแล้ว" พี่กวางชี้นิ้วโป้งไปทางประตูด้านหลังที่เชื่อมไปยังคอกแสนสุขที่เจ้าตัวเล็กชอบไปเล่นซนอยู่บ่อยๆ "วันนี้มันมาเช้ามากก พวกแกนัดกันมา?"
"ใครนั๊ด?" คิ้วเข้มเลิกขึ้นพร้อมกับเสียงสูงที่เปล่งออกมาผ่านริมฝีปากสีซีด "จิ้นเก่งนะเราเนี่ย"
"ย่ะ! .. เอ้อๆ เมื่อคืนแกดู The Gifted ยัง? ขนาดฉันอยู่ตอนกันแสดง พอมาเห็นของจริงยังขนลุกเลย! นี่คนในทวิตชมน้องมันไม่หยุดเลยนะ" ผู้จัดการสาวยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจในตัวศิลปินที่เธอดูแลประหนึ่งลูกหัวแก้วหัวแหวน ขนาดยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยทีเดียว
"ดูละ มันก็เก่งแบบนี้มาตั้งนานแล้วปะวะ?" ออฟดึงมาส์กปิดปากของตนออก ไม่เข้าใจว่าจะตื่นเต้นอะไรกันนักหนา ฝีมือการแสดงของกันดีแค่ไหนหลายคนที่เคยดูหนังของมันมาแล้วย่อมรู้ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าครั้งนี้มันล้ำลึกกว่าครั้งไหนๆ เป็นบทที่ช่วยดึงศักยภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะการต้องมาฟาดฟันอารมณ์กับตัวเองอีก 4 คน เป็นเรื่องที่นักแสดงหลายคนคงเอาไม่อยู่ถ้าเก็บรายละเอียดได้ไม่ดีพอ และน่าจะรวมถึงตัวเค้าเองด้วยที่ไม่สามารถรับบทยากๆถึงขั้นนี้ไหว
"ก็รู้~ แต่พอเห็นในทีวีมันก็อดชมไม่ได้นี่หว่า.." พี่กวางยัดมะม่วงในมือเข้าปาก "แล้วตกลงนี่มาแต่เช้าทำไม? พึ่งสิบโมงเองนะ?"
ไหล่กว้างยักขึ้นอย่างไม่ใส่ใจเวลา ขายาวก้าวผ่านพี่กวางเข้าไปทางห้องด้านหลัง ".. จริงๆฉันก็ตั้งใจจะมาชมมันเหมือนกัน"
"แหมมมม" ปากอิ่มที่ถูกแต่งเติมด้วยลิปสติกสีนู้ดพีชหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเชิงหมั่นไส้ให้กับคนปากหนักที่มักจะลีลาอยู่พักใหญ่ถึงจะยอมพูดความจริงในใจออกมา
ออฟเปิดประตูกระจกเข้าไปด้านในก็เจอหัวกลมผมสีเข้มลากเก้าอี้ตัวข้างๆมานั่งกับแม่ก็อตที่โต๊ะทำงาน ..ดูจากองศาที่ก้ม คงกำลังดูมือถือหรือกินขนมอยู่แน่ๆ
ริมฝีปากบางสีซีดหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่เจ้าของรอยยิ้มนั้นกลับเม้มปากเข้าหากันเพื่อให้ใบหน้ากลับเรียบนิ่งตามเดิม "ไอ้กัน"
"ป่าปี๊~"
เหมือนเห็นใบหูเล็กกระดิกนิดๆทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก ก่อนเจ้าตัวจะหมุนเก้าอี้กลับมาแล้ววิ่งเข้ากอดเค้าเสียแน่น
"ปล่อยก่อน กูอึดอัด" ร่างเล็กทำหน้าอิดออดพลางกระชับกอดให้แน่นขึ้นเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เค้าพูด จนออฟต้องจับไหล่เล็กดันออกเพื่อจะได้มองเห็นใบหน้าหวานชัดๆ
คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมเมื่อเครื่องแต่งกายของคนตรงหน้ากลับผิดแปลกไปจากทุกครั้ง ร่างเล็กที่มักจะใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงตัวใหญ่ หรือบางครั้งก็เป็นเสื้อเชิ้ตตามอารมณ์ของเจ้าตัว
มาวันนี้กลับใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวกับเสื้อสเวตเตอร์สีกรมท่าเหมือนในซีรี่ย์ที่เค้าดูเมื่อวาน
"วันนี้หนาวเหรอ?" ดวงตาคมก้มมองปกเสื้อที่โผล่พ้นขอบสเวตเตอร์ขึ้นมาจนเป็นสีเข้มอ่อนตัดกัน นี่ถ้ากันใส่กางเกงขาสั้นทรงนักเรียนอีก เค้าคงคิดว่าต้องถ่ายซ่อมซีนใดซีนนึงในเรื่องแน่ๆ
กันกางแขนก้มมองเสื้อหนาวสวมหัวสีเข้มที่ยังคงเอกลักษณ์ความตัวใหญ่ไว้ไม่เสื่อมคลายแล้วก็ต้องยิ้มออกมา "ฮ่าๆๆ อะไรของปี๊เนี่ย? กันก็ใส่มาแบบนี้ทุกวันนะ" ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดอ้ากว้างแล้วหัวเราะออกมาจนน้ำตาเล็ด
"เออ อะไรของแกวะอีปี๊ กันมันก็ใส่มาอย่างนี้ทุกวัน" แม่ก็อตที่นั่งหันหลังอยู่ด้านข้างหมุนเก้าอี้มาขมวดคิ้ว ส่ายหน้าใส่ "แกเป็นคู่จริงประสาอะไร? ไม่มาตึกบ่อยจนลืมวิธีแต่งตัวของลูกฉันไปแล้วเหรอ?"
ร่างสูงกวาดสายตามองคนทั้งห้องที่จ้องมาทางเค้าด้วยความสงสัย จากที่คิดว่ากันและแม่ก็อตคือคนที่แปลกไป ตอนนี้ออฟเริ่มคิดแล้วว่าเค้าอาจจะมาตึกน้อยครั้งจนไม่ได้อัพเดตสไตล์การแต่งตัวใหม่ของกัน
"ปี๊ดูซีรี่ย์กันหรือยัง?" เสียงงุ้งงิ้งดังขึ้นข้างลำคอจนร่างสูงต้องก้มลงมองคนตัวเล็กที่กลับมากอดเค้าอีกครั้งตอนที่เค้าเผลอ
ใบหน้าคมพยักขึ้นลง "ดูแล้ว" มือใหญ่วางบนเส้นผมนุ่มลื่นที่กลางกระหม่อนแล้วยีเบาๆจนหน้าม้าที่ปิดลงมาเกือบถึงคิ้ว แตกเป็นซี่ "เก่งมากเลย"
ตากลมโตหยีลง กระจับกลางริมฝีปากบนเหยียดยาวออกเป็นรอยยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจในคำชม แม้จะได้ยินใครต่อใครชื่นชมว่าเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งในชีวิตจริงและในโซเชียลมีเดีย แต่คำชมที่มาจากคนสำคัญในชีวิตย่อมเติมเต็มให้หัวใจพองโตได้มากกว่า ..คนสำคัญที่คอยให้กำลังใจเค้าในวันที่เค้าต้องเวิร์คช็อปจนเริ่มท้อ ..คนสำคัญที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้ในวันที่อ่านบทจนกดดัน
"แม่~~ ปี๊ชมกันด้วยแหละ" เจ้าตัวเล็กน่าหมั่นเขี้ยวหันไปยิ้มอวดพิธีกรประจำหลายรายการของทางค่ายที่มักเรียกแทนตัวเองว่าแม่กับตนเหมือนเด็กน้อยที่อวดของเล่นใหม่ หรืออวดเกรดที่ได้กับคุณแม่
"เอออ ฉันได้ยินแล้ว!" ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์สีสดส่ายไปมาอย่างอ่อนใจในความขี้ขิงของลูกตนแล้วหันกลับไปทำงานต่อ
"แล้วนี่กินข้าวยัง?"
ดวงหน้าหวานยิ้มแหยจนแก้มขึ้นเป็นเส้นริ้วเหมือนหนวดแมวพลางส่ายหน้าตอบ "ยังเลย"
"มึงนี่นะ.." ร่างสูงดุพอหอมปากหอมคอก่อนจะหยิบมาส์กปิดปากกลับมาใส่อีกครั้ง "มึงอยากกินอะไรล่ะ? เดี๋ยวพาไป"
"จริงนะ!? อยากไปกินร้านเดิมวันนั้นที่เอมควออะ" ร่างเล็กกอดแขนอ้อนออเซาะอย่างน่าเอ็นดู
"ไปสิ" เจ้าของแขนเรียวยาวที่ถูกกอดไว้ออกตัวเดินกลับไปทางประตูที่พึ่งเข้ามาเพื่อพาเด็กดื้อไปกินข้าว แต่กลับถูกมือเล็กนั้นรั้งไว้
"ป่าปี๊ไปรอที่หน้าลิฟท์แปปนะ กันหยิบกระเป๋าก่อน"
ออฟส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ "ไม่ต้องเอาไปก็ได้ ยังไงมึงก็ให้กูจ่ายอยู่แล้วหนิ"
"หน่าา เผื่อกันจะซื้อของ!"
ออฟขมวดคิ้วหนักขึ้น "ช็อปอีกแล้ว หัดประหยัดบ้างเถอะ"
"ประหยัดแล้วว ตัวที่ไม่ได้ใส่ก็ค่อยเอาไปขายไง" ร่างเล็กเถียงคอเป็นเอ็น ท่าทางครั้งนี้ออฟก็คงจะเถียงไม่ชนะตามเคย
"เออๆ เดี๋ยวกดลิฟท์รอ" ขายาวหมุนตัวกลับไปด้านนอก ผ่านผู้จัดการสาวที่ทำหน้างุนงงใส่คนที่ทำท่าจะออกไปอีกครั้งทั้งที่พึ่งเดินเข้ามาเมื่อกี้ แต่ออฟก็หาได้สนใจไม่ หัวของเค้าตอนนี้ยังติดภาพเสื้อสเวตเตอร์สีกรมท่าที่กันใส่ มันคือตัวเดียวกับที่เห็นในซีรี่ย์เมื่อคืนจริงๆนะ หรือเจ้าดื้อของเค้าจะแอบไปซื้อตามตัวละครปุณณ์ที่ตัวเองเล่น?
...
"มาแล้ว" เสียงเรียบนิ่งของคนที่ออฟรอดังขึ้นทางด้านข้าง แต่พอหันกลับไป ...
"มึงไปเซตผมมาเหรอ?" ผมหน้าม้าที่ตกลงมาปรกหน้าถูกปาดเก็บขึ้นไปจนเรียบ ประกอบกับใบหน้านิ่งเฉยนั้น ไม่เหมือนคนที่กำลังดีใจเพราะจะมีคนเลี้ยงข้าวเลยสักนิด
"พูดอะไรของพี่ เมื่อกี้กันก็ทำทรงนี้" นัยน์ตาสีเข้มที่ไร้แววเหลือบมองไปทางปุ่มกดลิฟท์ นิ้วเรียวยื่นไปกดปุ่มลูกศรลงทันทีที่เห็นว่ามันยังไม่ติดไฟ "ไหนว่าจะกดรอ?"
"มึงช้า เมื่อกี้มันผ่านไปแล้วตัวนึง" ออฟพูดสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกมา น่าแปลกที่การไปหยิบกระเป๋ากลับใช้เวลานานกว่าที่เค้าคิดไว้มากจนลิฟท์ผ่านไปแล้วตัวนึง เค้าจึงเปลี่ยนใจรอให้กันเดินมาก่อนจึงค่อยกดเรียกลิฟท์อีกครั้ง แต่ทรงผมแปลกตาของร่างเล็กทำให้เค้าลืมเรื่องลิฟท์ไปเสียสนิท
"งั้นเหรอ" เจ้าของริมฝีปากสีระเรื่อคนเดิมเอ่ยขึ้น แต่เสียงที่ออกมากลับแต่งต่างจากเมื่อครู่จนเหมือนคนละคน ทั้งที่ก่อนหน้ายังเป็นเจ้าดื้อที่ชอบทำเสียงงอแงงุ้งงิ้งกับเค้า แต่น้ำเสียงเมื่อกี้กลับเต็มไปด้วยความหนักแน่น และเรียบเฉย "..ขอโทษนะที่ทำให้รอ"
ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ อยู่ดีๆคนที่ไม่เคยเอ่ยขอโทษเค้าก่อนไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่หนักหนาแค่ไหน ยังไงก็ต้องให้เค้าเป็นคนขอโทษก่อนเสมอ
แต่กับเรื่องเล็กน้อยแค่การยืนรอหน้าลิฟท์สี่ห้านาทีที่เค้าไม่คิดติดใจกับมันด้วยซ้ำ ร่างเล็กถึงขั้นขอโทษออกมาอย่างจริงจังจนเค้าเป็นฝ่ายเหวอไปเอง
"ม.. ไม่เป็นไร"
"เอ้า ยังไม่ไปกินข้าวกันอีกเหรอ?" พี่เอฟ พี่ที่บริษัทเดินออกมาจากประตูกระจกพร้อมกระเป๋าสตางค์ ดูจากท่าทางแล้วคงจะลงไปซื้อของกินหรือของใช้ที่ชั้นล่างตึก
"ลิฟท์ยังไม่มาครับ" กันหันไปเอ่ยตอบ
"อ่อ แล้วนี่กินเสร็จจะกลับมาตึกอีกมั้ย?" ร่างบางถามกลับเหมือนสีหน้า น้ำเสียง และทรงผมของคนตัวเล็กตรงหน้าไม่ได้มีความแปลกไป
"คงกลับครับ"
ยิ่งบทสนทนาของทั้งสองคนยืดยาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ร่างสูงงงเป็นไก่ตาแตกเท่านั้น "พี่เอฟ"
"ว่าไง?" ผิวสีเข้มรับกับใบหน้าสวยคมหันมายิ้มถามพร้อมกับร่างเล็กที่หันมามองด้วยสีหน้าที่ยังคงไร้อารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ..พี่เอฟไม่รู้สึกแปลกๆบ้างเหรอ?
ออฟเม้มปากใช้ความคิดขณะมองสำรวจร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า "พี่เอฟว่า.. ผมทรงนี้เหมาะกับกันมั้ย?" แม้จะอยากถามออกไปตรงๆ แต่ร่างสูงก็เลือกใช้ประโยคคำถามที่ธรรมชาติที่สุดเพื่อไม่ให้มันดูเป็นบทสนทนาที่แปลก
"อะไรของแก? กันก็ทำทรงนี้ตลอดนะ มาถามอะไรเอาตอนนี้?" ร่างบางหันไปยิ้มขำกับร่างเล็ก แต่กันเพียงแค่ยิ้มบางๆตอบพี่เอฟเท่านั้น
ติ้ง!
เสียงลิฟท์ตัวด้านหน้ากันดังขึ้นพร้อมกับประตูเหล็กที่เปิดออก แต่แทนที่เจ้าตัวจะก้าวเข้าไป กลับยื่นนิ้วเรียวไปกดซ้ำที่ลูกศรลงเพื่อให้ลิฟท์เปิดค้างไว้
"เชิญพี่เอฟก่อนเลยครับ"
"ขอบใจจ๊ะ" พี่เอฟยิ้มรับแล้วเดินเข้าไปข้างใน ก่อนที่ร่างเล็กและตัวออฟจะเดินตามเข้าไปในลิฟท์
"นี่ถ้าออฟทิ้งวันไหนบอกพี่นะ พี่อยากได้น้องกันเป็นหลัวจริงๆ ทั้งสุภาพบุรุษ ทั้งพึ่งพาได้"
สุภาพบุรุษ? พึ่งพา?
อะไรวะ?
ออฟจ้องเขม็งกับสิ่งน่าเหลือเชื่อที่ตนได้ยิน ขณะที่กันเพียงแค่ยิ้มรับอย่างมีมารยาท
ที่เอมควอเทียร์ เสื้อตัวที่กันเคยเล็งไว้คราวก่อนติดป้ายลดราคาลงหลายเปอร์เซ็นต์ จนออฟต้องสะกิดให้ดูเพราะกันกำลังจะเดินผ่านมันไปอย่างไม่สนใจ
"มึงอยากได้ตัวนั้นหนิ มันกำลังเซลล์อยู่เลยนะ ไม่ซื้อเหรอ?"
ดวงหน้าหวานเงยขึ้นมองเสื้อที่แขวนอยู่หลังกระจกใส แล้วหันกลับไปส่ายหน้าให้คนที่มาด้วย "กันว่ากันควรจะประหยัดได้แล้ว ควรคิดถึงเรื่องอนาคต และคิดถึงเรื่องน้องพิมให้มากกว่านี้ พี่ออฟสอนกันเองหนิว่ากันควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้"
"มันก็ใช่...." มือหนาเกาหัว
กันยิ้ม "ไปกินข้าวกันเถอะ ถ้าช้าคนจะเยอะนะ"
"อ.. เออ" ตลอดมื้อนั้นร่างเล็กนั่งกินเงียบๆ ไม่พูดขณะมีอาหารอยู่ในปาก จัดวางช้อนส้อมอย่างเป็นระเบียบ และไม่แม้แต่จะงอแงลองชิมจานของเค้าเลย
"มึงเป็นอะไรปะวะ?" ร่างสูงทนความสงสัยไม่ไหวจนตัดสินใจถามขึ้น
"อะไร? กันก็ปกติดีหนิ" คิ้วเรียวขมวดมุ่น "พี่นั่นแหละที่แปลกไป หรือกันทำอะไรให้พี่ไม่ชอบใจหรือเปล่า?"
ออฟกลืนคำถามที่คาใจกลับลงคอไปแล้วเลือกที่จะส่ายหน้าตอบ "เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย กูคงยังมึนๆอยู่"
พรึ่บ
หลังมือเล็กที่เย็นเฉียบด้วยลมแอร์แตะเข้าที่ข้างแก้มตอบจนออฟสะดุ้ง "ก็ไม่มีไข้หนิ?" กันขมวดคิ้ว "ปวดหัวหรือเปล่า? เจ็บคอมั้ย?"
"เปล่าๆ กูไม่ได้เป็นอะไร" ร่างสูงรีบโบกมือบอกปัด นั่นสินะ เค้าคงนอนน้อยเกินไปแน่ๆ ถึงได้เพ้อเจ้อแบบนี้ กันมันแค่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ..แค่นั้นเอง
"แน่นะ? ถ้าไม่โอเคพี่ต้องรีบบอกนะ กันจะพาพี่ไปโรงพยาบาล"
"แน่สิ กูแค่นอนน้อยเอง" ออฟยกมือขึ้นลูบผมคนตรงหน้าตามเดิม แต่ครั้งนี้มือหนากลับถูกปัดทิ้ง "!?"
"ถ้าพี่ยี มันจะยุ่งนะ ..กันไม่ชอบให้ผมยุ่ง พี่ก็รู้หนิ"
"... กูรู้?" คำถามที่หลุดออกมาจากความสงสัยโดยไม่ผ่านการกลั่นกรองทำให้ดวงตาของร่างเล็กสลดลง แต่เพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้น
"พี่คงลืม" กระเป๋าตังค์ถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายใบจิ๋ว แบงค์สีแดงสองสามใบวางลงที่โต๊ะด้านหน้าออฟ "ฝากจ่ายด้วยนะครับ"
"แต่.."
"เดี๋ยวกันจะไปรอด้านนอก" พูดจบขาเรียวก็พาร่างเล็กออกไปด้านนอกโดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆ
"แต่.. ปกติมึงให้กูเป็นคนจ่าย.." ออฟต่อประโยคที่คิดจะพูดให้จบ แม้คนที่พูดด้วยจะไม่อยู่ฟังแล้ว ร่างสูงหยิบธนบัตรบนโต๊ะมากำไว้
หรือเค้าจะดุกันมากเกินไป? กันถึงได้กลายเป็นคนจริงจังกับชีวิตขนาดนี้
ออฟเก็บเงินที่กันให้ไว้ในช่องแยก เผื่อจะได้คืนในอนาคต แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ก่อนจะหยิบธนบัตรสีเทาจ่ายไปเป็นค่าอาหาร
"กัน"
.. ว่างเปล่า
เก้าอี้นอกร้านที่ควรจะมีคนตัวเล็กในชุดเสื้อสเวตเตอร์นั่งอยู่กลับว่างเปล่า "ชิบ.. หายไปไหนวะ!?" ออฟพยายามมองหาแถวนั้นก่อนขายาวเดินสำรวจจนทั่วชั้นเพื่อตามหาคนที่ตนเป็นห่วง
การแต่งตัว ทรงผม คำพูด ท่าทาง สีหน้า แถมยังมาหายตัวไปอีก
วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
"ฮึก.. ฮ .. ฮึก"
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารดังมาจากห้องน้ำห้องท้ายสุดจนคนปากแข็งใจแกว่ง
ปึงๆๆ!
"กัน!? ไอ้กัน!?" สันมือทุบบานประตูหนาจนแดง เสียงตะโกนของออฟดังลั่นห้องน้ำจนหลายคนตกใจจนเดินหนีออกไป
"ป่าปี๊.. ฮึก"
"กัน! ออกมาหากูก่อน ใครทำอะไรมึง!?"
กริ๊ก
"กัน!" แขนหนาดึงร่างเล็กเข้ามากอดไว้แน่น "ใครทำอะไรมึง?"
"ฮึก.. พี่ไม่ชอบกัน" เสียงหวานติดสั่นเครือเปล่งออกมาด้วยโทนแหลมสูง
ออฟขมวดคิ้วเป็นรอบที่สิบของวัน "ไม่ชอบ?"
"พี่จำเรื่องกันไม่ได้สักอย่าง พี่ลืมแม้กระทั่งกันชอบแต่งตัวยังไง ทำผมยังไง ชอบอะไรไม่ชอบอะไร"
"ไม่ กูไม่ได้ลืม!" ออฟรีบแก้ตัวอย่างร้อนรน "กูจำเรื่องของมึงได้สะ... ผมมึง?" ดวงตาเบิกกว้าง ผมที่ถูกเซตจนเรียบแปล้กลายเป็นผมซอยยาวจนเหมือนคนลืมตัดผม เส้นผมนิ่มถูกปล่อยสลวยอย่างไร้การเซต
"ผม?"
ออฟยกมือขยุ้มเส้นผมของคนตัวเล็ก
..ไม่ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของแว็กหรือสเปรย์เซตผม
".. มึงเป็นใคร" ออฟละมือที่กอดอยู่ออก ขายาวค่อยๆก้าวถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าว แผ่นหลังกว้างชนเข้ากับกำแพงกระเบื้องจนไร้ทางหนี "ปุณณ์..?"
"ป่าปี๊เป็นบ้าอะไร? พี่พูดถึงอะไรอยู่? นี่กันไง! พี่หมายถึงปุณณ์ไหน?"
ออฟส่ายหัวไล่ก้อนความคิดที่ตีกันวุ่นวายภายในสมอง นัยน์ตาสีดำจ้องไปที่ร่างเล็กซึ่งทรุดตัวลงกับพื้นจมกองน้ำตาอย่างน่าสงสาร
"มึง.. มึงไม่ใช่กัน!!"
"ป่าปี๊!!!?"
ร่างสูงออกตัววิ่งหนีจากที่นั่นโดยทิ้งกันไว้เบื้องหลัง ขายาววิ่งสับให้ไวที่สุดเท่าที่จะไวได้จนไปถึงรถคันสีฟ้าอ่อนของเค้า
ความเหนื่อยสะสมบวกกับความสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ออฟกอดพวงมาลัยไว้แน่นแล้วซบหน้าลงกับหลังมือ "...มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?"
ผมที่ถูกปาดจนเรียบ ไม่มีทางกลับเป็นปกติถ้าไม่ได้สระ แต่ผมของกันกลับแห้งสนิท
น้ำเสียงที่เค้าคุ้นชิน กลับได้ยินแค่ตอนที่อยู่บริษัท
ใคร ..... ใครทำอะไรไอ้กั..
ก็อก ก็อก ก็อก
ออฟเงยหน้าขึ้นตามเสียงเคาะกระจกที่ดังอยู่ด้านข้าง แต่แล้วร่างสูงก็ต้องช็อคยิ่งกว่าเดิมเมื่อคนๆนั้นคือกัน ในสภาพผมที่ถูกสเปรย์สูงจนตั้งชี้ขึ้นฟ้า
"ไอ้ตัวที่ขับเคลื่อนด้วยความโกรธ?" เสียงทุ้มพึมพำในลำคอ ภาพซีรี่ย์ที่ออฟดูเมื่อคืนถูกฉายซ้ำขึ้นในหัว ภาพที่ปุณณ์ร่างโมโหง่ายทุบตีกรและฟาดด้วยเก้าอี้จนแขนหักยังคงติดตา
"ป่าปี๊ว่าอะไรนะ? กันไม่ได้ยิน!!" เสียงแหบห้าวของคนอีกฝากฝั่งกระจกดังทะลุผ่านเข้ามาด้วยการตะโกน
มือหนากำพวงมาลัยแน่นจนชื้นเหงื่อ "อย่ายุ่ง.."
"อะไรนะ!?" กันเท้าแขนทั้งสองข้างกับขอบรถ "ถ้าพี่ไม่เปิดประตูมาคุยกับกันดีๆ ..กันจะพังเข้าไปแล้วนะ"
อึก
ร่างสูงจิกเล็บที่เบาะหุ้มพวงมาลัยจนเป็นรอยลึกเพื่อหยุดมือไม่ให้สั่นมากไปกว่านี้ ความกลัวเข้าเกาะกินจิตใจส่วนลึกจนแทบสติแตก
ปึง! ปึง! ปึง!
"อย่ายุ่ง ..." ริมฝีปากสีซีดสั่นเครือจนลามไปถึงฟันจนกระทบกันเป็นเสียงดังกึกๆๆ แต่เสียงทุบกระจกจากด้านนอกจนแทบร้าวนั้นกลบเสียงฟันของออฟไปจนหมด
"ห๊ะ!!?"
ปึง!!! เปรี๊ยะ..
สิ้นเสียงกระจกร้าว มือหนาหมุนกุญแจสตาร์ทเครื่องแล้วเหยียบคันเร่งออกไปทันที แม้จะแน่ใจว่ารถที่กระชากตัวออกต้องทำให้คนที่เท้าแขนอยู่บาดเจ็บ แต่เค้าตอนนี้ไม่พร้อมจะหันกลับไปมอง
สิ่งที่เค้ารู้มีเพียงแค่เค้าต้องหนี! หนีออกจากตรงนี้ให้ไกลที่สุด!!
...
"เฮ้อออ" ออฟทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา ยกหลังแขนขึ้นพาดทับดวงตาที่อ่อนล้ารวมทั้งบดบังแสงนีออนในห้องนั่งเล่นในคอนโดของเค้าที่สาดเข้ามาแยงดวงตา
"ใครช่วยอธิบายให้กูฟังทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น...."
"หน้าซีดเชียว ..."
พรึ่บ!!
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากประตูห้องครัว ร่างสูงเด้งตัวขึ้นนั่ง หันหัวไปทางต้นเสียงอย่างอัตโนมัติ เพียงแต่ครั้งนี้.. เสียงที่ได้ยินมันนุ่มลึก แต่กลับไร้มีโทนเสียงที่ชวนให้ขนลุก
"ป่าปี๊หนีอะไรมาเหรอ?"
"มึง!!" ขายาวถอยร่นร่างตัวเองไปจนชิดกับที่วางแขนฝั่งประตูหน้า "มึงมาได้ยังไง?"
กันขมวดคิ้วแล้วหัวเราะออกมาเสียงดังภายในห้องที่เงียบกริบ "ป่าปี๊เป็นบ้าอะไร?"
... ผู้นำ ขี้ระแวง โกรธเกรี้ยว แล้วก็ ....ด้านมืด?
นอกจากผมที่สั้นลงและถูกเซตขึ้นไปแล้ว พอได้สังเกตที่ดวงตาดีๆ ก็พอจะมีความแตกต่างอยู่บ้าง ดวงตาดำขยายขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แต่แตกต่างกับในซีรี่ย์ที่ยังมีส่วนของตาขาวอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าแค่มอง ก็ทำให้ขนลุกได้ไม่ต่างกันเลย
"กันก็อยู่ที่นี่ .. รอป่าปี๊มาตั้งนานแล้วนะ" ดวงหน้าสวยแย้มรอยยิ้มหวานหยดย้อยพลางพยักเพยิดไปทางครัว "กันทำอาหารไว้เยอะแยะเลย มากินสิ กำลังร้อนๆเลย"
"ไม่!! กูไม่กิน!!!!" ออฟตะโกนเสียงดังแล้ววิ่งหนีกลับไปทางประตูหน้า
"ป่าปี๊.. กันแค่ไปเอากระเป๋าตังค์เอง ทำไมถึงไม่ยอมรอล่ะ?"
"พี่ออฟ.. กันแค่ไปเดินเล่นแปปเดียวเอง จะกลับทำไมไม่โทรมา?"
"ป่าปี๊.. ฮึก .. ฮ .. ทำไมถึง. .. ฮึก ทิ้งกันไว้ที่ห้องน้ำล่ะ?"
"ป่าปี๊.. กันเจ็บนะ ทำไมถึงออกรถไปแบบนั้นล่ะ?"
ร่างสูงยืนตัวแข็งอยู่กับที่ ดวงตาหลุดลอยเหมือนสติได้จางหายไปพร้อมวิญญาณเรียบร้อยแล้ว กันทั้ง 4 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าทำให้สมองหยุดทำงาน
"ยืนทำอะไรกันหน้าห้องเนี่ย เดี๋ยวยุงเข้า" กันในชุดผ้ากันเปื้อนจากในครัวเดินมาคล้องแขนพี่ออฟแล้วพาเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ในครัว
"..."
"พี่ออฟไม่สบายจริงๆใช่มั้ย ทำไมถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย?"
"เพราะพวกมึงแหละ! เอาแต่กวนป่าปี๊จนเป็นแบบนี้" มือเรียวเล็กกระชากผ้ากันเปื้อนออกพลางย่างสามขุมเข้าไปหาอีก 4 คนที่เหลืออย่างเอาเรื่อง
"มึงนั่นแหละที่เป็นปัญหาที่สุด!!"
"กูควรจะกำจัดพวกมึงไปให้พ้นๆ...."
"ไม่ได้นะ!?" ออฟสะดุ้งเมื่อจบประโยคของกันด้านมืด ถึงยังไง สิ่งที่ออฟกลัวที่สุด ไม่ใช่การที่กันนิสัยเปลี่ยนไป แต่คือการที่ชีวิตนี้จะไม่มีคนชื่อกันอยู่อีกแล้ว
"ป่าปี๊ไม่ชอบกันคนไหน บอกมา ..กันจะจัดการให้" ดวงตาที่ดำอยู่แล้ว ดำขึ้นไปอีก จนแม้แต่กันอีกสี่คนก็พลอยกลัวไปด้วย มือเล็กหยิบมีดทำครัวขึ้นมากำไว้
"ไม่!!" ร่างสูงพุ่งตัวเข้าไปรวบกอดกันด้านมืดไว้แน่น ใช้แรงของตนล็อคแขนกันให้ราบไปข้างลำตัว "กูรักกันคนเดิม ..คืนกันมาให้กูเถอะนะ
.. กูขอโทษที่กูชอบพูดอะไรไม่คิด
.. กูอยากให้มึงมีความรับผิดชอบ แต่ไม่ได้อยากให้มึงทิ้งนิสัยเด็กๆของมึงไป
.. กูเอาแค่พ่นคำร้ายๆ ทำให้มึงคิดมาก แต่ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้นปากกับใจของกูมันไม่เคยตรงกันเลย
.. กูเอาแค่ทำร้ายมึง ทำให้มึงต้องฝืนทำเป็นเข้มแข็ง แข็งแรงพอจะยืนด้วยตัวเองได้
.. กู ......"
เคร้ง
เสียงมีดตกกระทบพื้น และสัมผัสที่ว่างเปล่าทำให้ออฟต้องกลืนคำพูดต่อจากนั้นลงคอ
ร่างของกันทั้ง 4 ตามแต่ละบุคลิกจางหายไปแล้ว เหลือเพียงร่างต้นแบบที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
"กันขอโทษ ..ที่เป็นคนที่ดีพอให้พี่ไม่ได้ ฮึก.."
"มึงดีเกินไปสำหรับกูด้วยซ้ำ.."
".. งั้นเลือกกันสิ"
"กูเลือกมึงเสมอ ตั้งแต่มีมึงเข้ามาในชีวิต" ออฟรั้งร่างเล็กเข้ามากอดแน่น
"ไม่ใช่ที่นี่
...
กันไม่ได้หมายความว่าให้เลือกกันที่นี่ .."
กริ๊งงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงง
"อืออ... โอย" เปลือกตาค่อยๆเลิกขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมสีดำสนิทที่เผยออกมา
"เฮ้ย!!!" ออฟเด้งตัวลุกขึ้นนั่งพลางจับไปที่ใบหน้าและตามท่อนแขนแล้วหยิกเบาๆ "เมื่อกี้ฝันเหรอ? .....เฮ้อออออ ค่อยยังชั่ว" ริมฝีปากสีซีดพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะหันไปสนใจคนที่โทรมารบกวนเค้าตั้งแต่เช้า
กริ้งงงงงงงง
"หืม? กันเหรอ?"
ติ๊ด..
"..ฮัลโหล"
'วันนี้ป่าปี๊ว่างใช่มั้ย?'
"..อือ ก็ว่าง"
'มาอยู่ที่ตึกเป็นเพื่อนกันหน่อยสิ~ นะๆๆ'
"ไม่เอา ขี้เกียจ"
'น้าาาาาา~'
"เฮ้ออออ เออๆ ก็ได้ๆ" ร่างสูงยีผมจนฟู พยายามคลายความง่วงให้ตัวเอง เพราะมีแววว่าเค้าจะไม่ได้นอนต่อ
'เย่ ป่าปี๊พูดแล้วนะ! เรามีนัดกันนะวันนี้ ห้ามเบี้ยว!'
ออฟหลุดยิ้มขำออกมาในที่สุด "ใคร? ใครนัดกับมึ๊งง"
'ป่าปี๊ไง! มาเร็วๆนะ! กันอยากฟังพี่ๆในตึกพูดถึงกิฟเต็ดของกันเมื่อคืนแล้ว'
"เอออ เดี๋ยวรีบไป"
'อื้อ! รอนะ'
"อืม"
ติ๊ด..
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย มือหนาก็คว้าเอามาส์กปิดปากติดมือมาด้วยเพราะไม่ได้แต่งหน้าและไม่อยากให้ใครเห็นหน้าของตนเวลาโทรม ก่อนขายาวจะก้าวขึ้นรถสีฟ้าคันคู่ใจของเค้า
"เอ๊ะ.. เหมือนเหตุการณ์นี้มันคุ้นๆนะ.." ออฟขมวดคิ้วนึกอย่างจริงจัง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักที "เมื่อคืนดันดูซีรี่ย์ไอ้กันจนดึก ..เหมือนจะฝันประหลาดๆด้วย? ..แต่ดันจำไม่ได้แฮะ.."
ร่างสูงพยายามนึกอีกครู่นึงแต่ก็ไม่ได้ผล "ช่างมัน!" มือหนาปิดปากตนเองด้วยมาส์กที่หยิบมาเมื่อครู่แล้วสตาร์ทรถ
แต่ก็นะ ..เมื่อคืนไอ้กันมันก็แสดงได้ดีจริงๆ ขนาดรู้ว่ามันเก่งมาก ยังดูแล้วขนลุกเลย
.
.
.
เดี๋ยวคงต้องไปชมมันสักหน่อย ..