“ไม่นะ…”
เธอพยายามเบี่ยงกายหนีใบหน้าของเขาที่ฝังลงกลางทรวงอกของเธอ แต่แล้วมือทั้งสองข้างก็ถูกกดตรึงเอาไว้กับที่นอน ทรวงอกเปล่าเปลือยจึงเปิดให้เขาซุกไซ้ใบหน้าลงได้ถนัดถนี่
หญิงสาวหลับตาปี๋ สะดุ้งเฮือกจนแผ่นหลังรอยร่อนไม่ติดพื้นกับสัมผัสที่ได้รับ ในตอนที่ปลายลิ้นชุ่มน้ำลายของเขาแตะต้องลงมาที่เม็ดเชอร์รี่แดงปลั่ง แล้วครอบริมฝีปากลึกลงไปกลางยอดทรวงเต่งตั้งของเธออย่างตะกละตะกลาม ดูดแรงสลับขย้อนกลืนเอาไว้เป็นของเขาคนเดียว
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ… สงสารฉันเถอะ”
ลูกไก่ในกำมือของเขาวิงวอนทั้งเสียงสะอื้น สติที่ยังไม่กระเจิงกระจายไปเสียทีเดียว บอกให้เธอโอนอ่อนลงบ้าง เหมือนรู้ว่ายิ่งดิ้นรนมากเท่าไร ก็เท่ากับเร่งเวลาให้เขากระทำย่ำยีต่อเธอเร็วขึ้นเท่านั้น
“แมทธิว… อย่ารุนแรง ค่อยๆ ได้ไหม… ฉันไม่เคย”
เธอลดน้ำเสียงอ่อนลง สารภาพความจริงออกไป หวังว่าคนใจร้ายจะสงสารเธอบ้าง หากคนที่ได้ยินกลับรู้สึกว่าเป็นถ้อยคำโกหกของหญิงแพศยา เพราะข้อมูลจากแอนดี้ที่ได้มานั้นบอกว่า ‘คนางค์ไม่ต่างอะไรกับโสเภณี เธอทำอาชีพนักร้องเพื่อบังหน้าเท่านั้น”
“เลิกโกหกเสียที ฉันรู้ว่าเธอมีลูกมีผัวมาแล้ว แถมยังรู้มาอีกว่ากระดังงาลนไฟอย่างเธอชอบ ‘กินฝรั่ง’ โดยเฉพาะฝรั่งแก่ๆ ที่ไม่รู้เท่าทันมารยาของเธอ”
“บ้าไปแล้ว!! … คุณกำลังเข้าใจผิด”
บอกแล้วก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี มือน้อยๆ ทุบตีพัลวัน ผลักแผงอกที่รกไปด้วยไรขนของเขาให้ออกห่างไปจากทรวงอกของเธอ
“เอาความน่าขยะแขยงของนายออกไปไกลๆ จากตัวฉัน!! ” เธอสาดน้ำเสียงใส่เขาด้วยความโกรธ
“อะไรนะ… เธอว่าฉันน่าขยะแขยงยังงั้นรึ! ”
แมทธิวกัดฟันถาม ประโยคนั้นทำให้เขาออกอาการชะงักไปเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมาในชีวิต ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าใช้คำพูดเช่นนี้กับเขา
“ใช่! ” เธอกระแทกเสียงใส่
“ปากดีนัก… คอยดูว่าไอ้สิ่งน่าขยะแขยงอย่างฉันนี่แหละ… ที่จะทำให้เธอร้องหาจนแทบขาดใจ”
เขากระตุกยิ้มเยือกเย็น คนางค์ฉวยจังหวะนั้น เบี่ยงกายกลิ้งออกมาจากกลางที่นอน
แมทธิวช้าไปนิดเดียว จึงคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ไม่ทัน
“ดีดดิ้นนัก… สงสัยอยากตายคาเตียง”
เขาตวาดใส่เธอด้วยอารมณ์อันกราดเกรี้ยวอีกครั้ง ดวงตาขุ่นขวางจนน่าหวาดหวั่น