Not until we are lost do we begin to understand ourselves.
เราไม่มีวันเข้าใจถ้าเราไม่ได้พบความสูญเสีย
คุณเคยมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่มั้ย ท้องฟ้าที่เรามองมักสดใสอยู่เสมอจนกระทั่งมีเมฆฝนเข้ามาทำให้หม่นหมองช่วงระยะเวลาที่มีเมฆฝนเรามักจะไม่ออกไปตากฝนกัน..ซึงเวลานั้นคือเวลาที่เราต้องทบทวนกับตัวเอง หรือนั่งหาอะไรทำอย่างเเน่นอน เมื่อท้องฟ้าสดใสเราก็มักจะออกไปเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอเขาคนนี้ก็เช่นกัน
ต้วน อี้ เอิน : หนุ่มผู้สดใสอายุ25เปรียบเมือนท้องฟ้าที่ขาวสะอาด ทำอาชีพเป็นนักบินเพราะเป็นสิ่งที่น้องสาวขออยากให้ทำก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลง "หลังเมฆฝนมักมีความสดใสอยู่เสมอ"
เเบมเเบม : เด็กชายอายุ18เจ้าของสายการบิน ที่เคยเป็นเด็กสดใสร่าเริงจนพ่อเเละเเม่เสียชีวิตทำให้กลายเป็นอีกคนที่เปรียบได้ว่าเป็นท้องฟ้าที่ขุ่นมัวอยู่เสมอ เเละ กลายเป็นคนเกเรไปซะอย่างนั้นเพราะต้องมาจัดการรับช่วงต่อบริษัทตั้งเเต่อายุ18ปี"หยุดเเละพอสำหรับทุกอย่าง"
เปิดเรื่องใหม่มาอีกเเล้วดราม่านิดหน่อยนะคะ.มั้งเเฮะๆ
ฝากติดตามน้องเเบมเวอร์ชั่นนี้ด้วยน๊า บอกเลยว่าไม่เเพ้เวอร์ชั่นเก่าเเน่นอน
อ่านเเล้วเม้นให้กำลังใจนักเขียนด้วยนะค๊า ร๊ากกกกกก