.......................................................................................................................................................
ชื่อ-สกุล วรกัณต์ ชำนาญศิลป์
ชื่อเล่น มิวซ์
ชั้นปีหนึ่ง
คณะนิเทศศาตร์
.........................................................................................................................................................
ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมของหอพักมหาวิทยาลัยซึ่งบังคับให้เด็กปีหนึ่งสองคนอยู่ด้วยกันเเบบคละคณะ ผมรู้สึกโล่งใจที่เป็นคนมาถึงก่อนเพราะมันหมายถึง ผมมีสิทธืที่จะเลือกเตียงด้านในสุดของห้องซึ่งติดกับหน้าต่างอย่างที่หวังไว้ ส่วนคนมาทีหลังมันก็ต้องจำยอมไปตามระเบียบจะหาข้อโต้เเย้งใดๆไม่ได้เพราะสมบัติส่วนตัวของผมจะถูกวางจนเเน่นในอีกไม่ช้า
ประตูห้องถูกเปิดโพล่งขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับร่างสูงโคร่งในชุดกีฬาชุ่มเหงื่อก้าวเข้ามา พร้อมกับเสียสละสายตายไม่ถึงสองวินาทีมามองผมที่กำลังยืนหน้าเอ๋อ ก่อนจะรู้ว่ามันชื่อ "แบงค์" จากการเเนะนำตัวอย่างลวกๆกึ่งสุกกึ่งดิบแบบคนไม่ได้อยากรู้จักกัน ลืมไปมั้ย?? มึงต้องอยู่กับกูไปอีกปีนึง!!!
สิ่งที่น่าโมโหจนทำให้ผมอยากชกหน้ามันมากที่สุดคือการหยิบเอาของกินที่ผมตุนเอาไว้ในตู้เย็นโดยไม่เคยขอ ไม่เคยนึกถึงปากท้องของคนซื้อและอีกสารพัดวีรกรรมที่ทำให้ผมเกลียดเด็กวิศวะเข้าไส้จนไม่อยากจะเชื่อว่าหน้าหล่อๆอย่างมันจะมีมุมที่ไม่น่ารู้จักขนาดนี้
เวลาผ่านไปสักระยะจากความเบื่อหน่ายเริ่มกลายเป็นความเคยชิน ทำให้ผมเริ่มมองเห็นสิ่งดีๆของมันในฐานะเพื่อนร่วมห้องอยู่บ้างถึงเเม้จะน้อยนิดจนลบอคติของผมไม่มีวันหมด ผมเเบ่งเขตเเดนในห้องของเราทั้งคู่ แต่เเล้ววันหนึ่งมันก็ก้าวข้ามมาในช่วงเวลาที่ผมเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่สุด หลังจากตรวจพบว่าเป็นกรดไหลย้อนปวดท้องเรื้อรังในช่วงเวลากลางคืน ก็มีมันที่คอยมาดูเเลถามไถ่เป็นห่วงเป็นใย บางครั้งก็เเอบเเคะประปุกหมูของผมไปซื้อข้าวให้ผมกิน หนักเข้าก็ควักกระเป๋าตัวเองแล้วมาทวงบุญคุณโดยการให้ผมเป็นเพื่อนคุย ร้องเพลงให้เวลาที่มันดีดกีตาร์
เชื่อมั้ยครับ...พอนานเข้าผมกับมันก็กลายเป็นเพื่อนกันตามสูตรนิยายรักประโลมโลกที่มีคนเขียนมาเเล้วไม่รู้กี่เล่มต่อกี่เล่ม ผมสบายใจที่มันดูเเล เล่าเรื่องบ้าๆไร้สาระ หงุดหงิด เสียงดัง เหมือนกับว่าวันไหนที่มันไม่อยู่เหมือนหลายๆอย่างมันเงียบไป คงมีเเต่เสียงโอดโอยเบาในยามค่ำคืนที่ยามันกัดกระเพาะ
แต่เเล้วกลางดึกคืนหนึ่ง คืนที่ผมเจ็บจนได้พบกับความจริงบางอย่าง ความจริงที่ทำให้ผมแทบลมจับ เพราะต่อจากค่ำคืนนี้ไปผมคงไม่ใช่มิวซ์คนเดิมอีกต่อไป ผมจะบอกกับมันยังไง จะระวังตัวยังไง จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันยังไงให้จบปีหนึ่งโดยมีเหตุผลที่ดีเพียงพอกับความผุกพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อน
ถ้าคืนไหนผมไม่ได้ระวังตัวมันจะกลัวผมจนวิ่งหนีไปเเล้วไม่กลับมาอีกมั้ย หลายอย่างทำให้ผมสับสนพอๆกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจที่ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร หรือโรคกระเพาะมันจะลามขึ้นมาที่หัวใจผมเองก็ไม่รู้คำตอบ...หลังจากนี้เเค่เพียงหวังว่า
"มึงจะคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับกูเป็นเรื่องตลกๆที่ผ่านเข้ามาเหมือนโรคกระเพาะ กูจะยอมปวดท้องก็ได้ถ้ามึงจะโอเคเเละยอมรับได้ในสิ่งที่กูเป็น ช่วยมองเห็นกูเป็นเพื่อนคนเก่าที่ที่เข้าใจมึงทุกเรื่องด้วยนะ"
หนึ่งเม้น=หนึ่งกำลังใจให้ไรท์มีไฟเขียนต่อนะ