#ปล่อยนก
เสียงเพลงที่สนุกสนานเร่งเร้าให้ผู้คนที่กำลังเดินไปมาทั่วงานหันไปสนใจและโยกย้ายร่างกายกันทั่วหน้า งานวันนี้เป็นอีกงานใหญ่ของมหาวิทยาลัยซึ่งจัดตรงกับวันแห่งความรัก บริเวณของงานกินพื้นที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ฝั่งซ้ายของงานเต็มไปด้วยของกินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรือต่างประเทศที่ขนมาทั้งของคาวและของหวานหรือเครื่องดื่ม
นอกจากนั้นพ่อค้าแม่ขายที่เป็นนักศึกษาก็น่าตาน่ารักจนอยากจะเดินเข้าไปอุดหนุนทุกร้าน ส่วนบรรดานักศึกษาผู้ร่วมงานเองก็ไม่น้อยหน้า ทางด้านฝั่งขวาของงานเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าวัยรุ่นรวมไปถึงการออกซุ้มของชมรมต่างๆของนักศึกษาอีกด้วย บรรยากาศของงานได้รับการขับกล่อมด้วยดนตรีสดที่มีที่มาจากลานเวทีที่ตั้งอยู่กลางงานครั้งนี้
ร่างเล็กๆของแบคฮยอนพยายามเดินเลี่ยงผู้คนที่กำลังซื้อของกินจนแน่นขนัดไปทั่งทั้งทางเดินในมือน้อยๆก็ถือของกินที่เพื่อนๆฝากซื้อและของตัวเองไปด้วย กว่าจะเดินออกมาได้ร่างบางถึงกับต้องปาดเหงื่อกันเลยที่เดียว วันนี้เขาและเพื่อนร่วมสาขามาจัดกิจกรรมร่วมกันและเพราะเพื่อนๆกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานเขาจึงอาสาเดินไปหาของกินมาให้ทุกคนแทน
ตากลมโตมองไปทั่วงานอย่างสนใจ คู่รักมากมายเดินจับจูงมือกันมีให้เห็นเต็มไปหมด บรรยากาศของความสุขและความรักจึงเหมือนจะลอยไปทั่วทั้งงานในวันนี้
“หิวมากกก” เสียงโอดครวญของเพื่อนดังขึ้นทันทีที่ร่างเล็กเดินมาถึงซุ้ม แบคฮยอนยิ้มรับพร้อมกับแจกจ่ายของกินในมือให้เพื่อนทุกคนอย่างทั่วถึงกัน
“เห็นคนเดินมาเป็นคู่กันตั้งเยอะอ่ะ งานเราจะเป็นหมันไหมเนี้ย” เพื่อนสาวน่าตารักที่กำลังเคี้ยวของกินไปด้วยสายตาก็มองไปทั่วทั้งงานบ่นออกมาเบาๆ แบคฮยอนมองตามสายตาของเพื่อนไปด้วย จากนั้นก็ยิ้มขำ หน้าที่ของพวกเขาวันนี้คือการหาคนที่ยังไม่มีคู่ให้เจอคู่ตัวเอง ผ้าสีดำผืนยาวถูกกางเอาไว้เป็นห้องๆหนึ่ง ป้ายกิจกกรมที่ช่วยกันออกแบบติดเอาไว้ที่ด้านหน้าซุ้มดูเด่นสะดุดตา “BLIND DATE”
เมื่อถึงเวลาเริ่มงาน ดีโอก็ออกมาประกาศกิจกรรมและเชิญชวนนักศึกษาที่กำลังเดินไปมาให้เข้ามาร่วมเล่นกิจกรรมด้วยกันอย่างตั้งใจ ริมฝีปากรูปหัวใจขยับขึ้นลงอย่างอารมณ์ดีและสนุกสนาน โดยมีลูกคู่คอยช่วยอย่างซิ่วหมินอยู่ข้างกายไม่ห่าง
“ใครที่มาเดินงานนี้แต่ยังไม่คู่ ใครที่ยังคงนกไม่ว่าจะผ่านมากี่งานหรือเทศกาลไหนๆ วันนี้เรามาช่วยทำให้ทุกคนเจอกับใครสักคนที่อาจจะเป็นคนที่คุณรออยู่ เชิญมาลงชื่อได้เลยนะครับ”
เสียงหวานที่ออกทุ้มๆน่าฟังพูดผ่านไมค์ตัวเล็กเรียกให้ใครหลายคนหยุดฟังและหันมามองอย่างสนใจ ไม่ถึงห้านาทีรายชื่อที่ให้ลงไว้ก็เต็มจำนวนแล้ว แบคฮยอนและเพื่อนๆก็ช่วยกันทำงานกันอย่างเต็มที่ นักศึกษารอบแล้วรอบเล่าที่เดินเข้าไปนั่งในห้องที่ถูกจัดเตรียมไว้ มีทั้งคนที่ออกมาเป็นคู่และออกมาตัวคนเดียวเช่นเดิม
เวลาล่วงเลยมาจนจะสี่ทุ่ม นักศึกษาที่หน้าซุ้มเริ่มบางตาเพราะส่วนใหญ่ไปรอพบกับศิลปินที่หน้าเวทีหลักกันแล้ว ร่างเล็กของแบคฮยอนถือป้ายชื่อของคนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมเป็นรอบสุดท้ายแล้ว
“จะได้เวลาแล้วนะคนจากฝ่ายผู้หญิงยังมาไม่ครบเลยอ่ะ” ดีโอเอ่ยขึ้นมาหลังจากผ่านเวลานัดแล้ว
“แล้วฝ่ายผู้ชายครบแล้วหรอ”
“ใช่ ถ้าปล่อยให้มีเก้าอี้ว่างคงไม่ดีแน่เลย” เสียงหวานโอดครวญเบาๆ
“ได้เวลาแล้วนะ ปล่อยเข้ามาได้เลย”เสียงเพื่อนๆจากด้านในตะโกนบอกคนข้างนอก
ทั้งสองมองหน้ากันเงียบๆแล้วก็เรียกคนที่ลงชื่อไว้มารับหน้ากากสำหรับใช้ในห้อง และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมให้ทุกคนทราบ
“ทุกคนจะมีเวลาสามนาทีนะครับในการพูดคุยกับคู่ของตัวเอง จากนั้นฝ่ายของผู้หญิงจะเลื่อนไปเรื่อยๆ ถ้าใครคิดว่าเจอแล้วคนที่อยากเจอให้พูดรหัสลับคือ ไปเที่ยวงานปล่อยด้วยกันไหม ถ้าอีกฝ่ายตกลงก็จูงมือกันออกมาจากประตูด้านหน้าได้เลยครับ หรือถ้าอยากหยุดเล่นแล้วให้รอจนครบสามนาทีแล้วออกทางเดิมได้เลยครับ” ซิ่วหมินที่รับหน้าที่เป็นพิธีกรเอ่ยเสียงดังแข่งกับสียงเพลงที่กำลังดังลั่นไปทั่วงาน แบคฮยอนและดีโอช่วยใส่หน้ากากสีขาวแบบเจ้าหญิงในงานเลี้ยงให้กับทุกคนก่อนที่จะปล่อยเข้าไปข้างใน
ด้านในถูกแบ่งออกเป็นล็อกๆโดยมีไม้กระดานกั้นเอาไว้ และมีเก้าอี้ไม้กลมๆเอาไว้ให้ทั้งสองฝ่ายนั่ง มีเทียนหลายเล่มถูกจุดเอาไว้ที่พื้นเพื่อให้ความสว่างเท่านั้น ฝ่ายชายที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วมีหน้ากากแบบเดียวกันสวมไว้แต่ต่างกันที่สี สีดำที่ตัดกับสีขาวถูกหยิบเอามาใช้เพื่อให้เข้ากันในงานนี้ ฝ่ายหญิงเริ่มทยอยเข้ามานั่งตรงข้ามกับคู่ของตัวเองแล้ว
“แบค ผู้ชายคนสุดท้ายจะไม่มีคู่นะ” ดีโอที่ยืนอยู่ข้างๆกันกระซิบบอกเพื่อนเบาๆ แบคฮยอนมองตามเพื่อนก่อนจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่แม้จะนั่งอยู่ในที่มืดและมีหน้ากากสีดำนั่นปิดหน้าปิดตาเอาไว้ยังดูออกเลยว่าภายใต้หน้ากากนั้นคงดูดีไม่น้อยแน่ๆ ดีโอยัดหน้ากากสีขาวใส่มือเล็กๆของเพื่อนก่อนจะส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
“แบคฮยอนช่วยหน่อยสิ นะนะนะ ครั้งเดียวเอง”
“เฮ้ย เราเป็นผู้ชายนะ”ร่างเล็กตกใจที่โดนมัดมือชกแบบดื้อๆ
“น่านะ ในนี้มืดจะตาย แบคนะดูสวยกว่าหล่ออีกไม่มีใครดูออก ถึงจะดูออกก็ไม่เห็นเป็นไรเลยถือว่าช่วยไปคุยไม่ให้เขาเหงาไง ดูสิคนอื่นนะมีคู่กันหมดแล้วนะ นะนะนะ”
แบคฮอยอนถอนหายใจเบาๆก่อนจะรับหน้ากากมาผูกให้ตัวเอง
“ก็ได้ๆ เห็นว่าเป็นรอบสุดท้ายแล้วนะดีโอ” ดีโอฉีกยิ้มให้เพื่อนที่เดินไปนั่งเป็นคู่สุดท้ายเรียบร้อยแล้ว
ปี๊ดดดดดดดด เสียงเป่านกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ากิจกรรมรอบสุดท้ายนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว
“ชื่ออะไรครับ”เสียงทุ้มๆน่าฟังเอ่ยขึ้นหลังจากทั้งสองสบตากัน
“แบคฮยอนครับ เอ่อ.....คือพี่น่ะเป็นทีมงาน และพอดีว่าฝ่ายผู้หญิงขาดไปคนหนึ่ง พี่ก็เลยเข้ามาคุยกับเราไปพลางๆก่อน จะได้ไม่เหงานเนอะ” ร่างบางรีบอธิบายเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านิ่งไป
“ผมชื่อชานยอล เรียนอยู่ปีหนึ่ง วิศวะ” น้ำสียงที่ฟังดูไม่ได้เดือดร้อนที่ต้องมาคุยกับเขาแทนที่จะเป็นหญิงสาวน่ารักๆสักคนเอ่ยขึ้นเรียบๆแต่สะกดคนฟังให้ตั้งใจฟังแม้ว่าข้างนอกจะเสียงดังมากก็ตาม สายตาคมๆนั่นอีกที่ดูเหมือนจะสะกดเขาเอาไว้ไม่ให้หันไปมองทางอื่นเลย
ปี๊ดดดดดด!!!! อีกสองนาทีค่ะ
“แบคฮยอน ปีสอง ทันตะครับ”
อาจจะเป็นเพราะเสียงเพลงที่ดังๆนั้นหรือเปล่านะ?
หรือจะเป็นเพราะการมานั่งคุยกับใครที่ไม่รู้จักหรือเปล่า?
หัวใจทำไมเต้นแปลกๆ สายตาคมๆนั้นยังไม่ยอมละออกไปเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่สบกัน ทั้งสองปล่อยให้เวลาเดินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย แบคฮยอนอยากจะลุกออกไปแล้วเพราะใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงแข่งกับเสียงดนตรีไปแล้ว แต่เพราะยังไม่หมดเวลาเลยต้องนั่งต่อไป
“อึดอัดหรือเปล่าครับที่ต้องคุยกับผม” เสียงที่ฟังดูเหมือนอ้อนนิดๆเรียกสายตาคนที่นั่งตรงข้ามให้กลับมาสบกันอีกครั้ง
“เปล่าหนิ พี่แค่ไม่รู้จะคุยอะไร” แบคฮยอนยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย
ปี๊ดดดดดดด อีกหนึ่งนาทีค่ะ
“ระหว่างผูกเชือกร้องเท้าให้เขากับให้เขาผูกเชือกร้องเท้าให้ พี่จะเลือกอะไรครับ”
“พี่เป็นผู้ชายนะ ก็ต้องเลือกผูกเชือกร้องเท้าให้เขาสิ” ร่างบางตอบคำถามที่แม้จะไม่เข้าใจว่าคืออะไรก็ตาม แต่เขาน่ะแมนมากเลยนะจะบอกให้ จะมาให้คนอื่นผูกเชือกรองเท้าให้ได้ยังไงกัน!
“แต่ผมว่าพี่เหมาะที่จะเป็นฝ่ายถูกเชือกให้มากกว่านะครับ” พูดจบชานยอลก็นั่งยองๆลงข้างหน้าแบคฮยอนก่อนจะผูกเชือกรองเท้าให้คนตัวเล็กกว่า
“เอ่อ ขอบใจนะพี่ไม่ได้สังเกตเลย” เสียงสั่นทำไมกันนะแล้วไหนจะแก้มอวบๆที่ดูน่าจับยืดเล่นนั่นอีกที่อยู่ดีๆก็ร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั่น
ปี๊ดดดดดด สามสิบวินาทีค่ะ
มือแกร่งที่กะดูด้วยสายตาก็รู้ว่าน่าจะใหญ่กว่าของตัวเองมากแน่ๆยื่นมาตรงหน้าหลังจากที่คนตรงหน้ายืนขึ้นเต็มความสูง แบคฮยอนมองอย่างไม่เข้าใจแต่ทำไมใจเขาถึงยังไม่หยุดเต้นแปลกๆอีกล่ะ
“ไปเดินเที่ยวงานปล่อยกันไหมครับ” รอยยิ้มปรากฏขึ้นหลังจากเอ่ยจบประโยคนั้น
ปี๊ดดดดดดดด อีกสิบวินาทีสุดท้ายแล้วค่ะ
ตากลมโตของแบคฮยอนมองมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า
9
ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นไปสบตากับคนที่ยังยิ้มบางๆมาให้
8
ตึกตักๆ เสียงหัวใจกำลังเต้นแรง
7
มือเล็กๆที่ค่อยๆยกขึ้นมา
6
ชานยอลที่รออยู่
5
มือเล็กๆนั่นที่วางลงกับมือแกร่งเบาๆ
4
สองมือที่กระชับเข้าหากันให้แน่นขึ้น
3
ก่อนที่โอกาสนี้จะหมดไป
2
เพราะได้มาเจอคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงทั้งที
1
คงปล่อยไปไม่ได้หรอกเนอะ
ปี๊ดดดดด!!!! หมดเวลาแล้วค่ะ ผู้หญิงเลื่อนเปลื่อนคู่ไปทางขวานะคะ ผู้ชายนั่งอยู่ที่เดิมค่ะ
สองคนที่เดินสวนกับคนอื่นๆ สองคนที่เดินออกไปยังประตูหน้าที่มีไว้ให้แค่คู่พิเศษเท่านั้น
งานสุดท้ายของวันนี้ปล่อยนกสำเร็จแล้วสินะ…… J