ณ ยอดเขาไกรลาศอันเป็นหนึ่งในเขาหลายๆลูกของเทือกเขาอันหนาวเหน็บอย่างหิมาลัย..ข้า"มาตุลีเทพบุตร"พร้อมคณะเทพที่มีพระอินทร์เป็นแกนนำ กำลังมุ่งตรงขึ้นสู่ยอดเขาไกรลาศเพื่อไปสักการะ"องค์พระอิศราธิบดี"หรือ"พระอิศวร"ผู้เป็นจอมเทพแห่งสามโลก เพื่อหาวิธีสังหารเหยี่ยวอสูร อย่างพญาฮุ้ง หรือเหยี่ยวรุ้งไฟ
พระอินทร์:คารวะมหาเทพ!
พระอินทร์นมัสการพระผู้เป็นเจ้า จอมเทพจึงค่อยๆลืมพระเนตรขึ้นมองเหล่าคณะเทพที่อยู่ตรงหน้า
พระอินทร์:ข้าแต่มหาเทพ เพราะพญารุ้งไฟบำเพ็ญตนจนเป็ยที่พอพระทัยของพระพรหม จึงได้รับพรจากพระพรหม ว่าจะไม่ตายด้วยน้ำมือสตีรเพศฤาบุรุษเพศ อีกทั้งยังต้องตายด้วบมือของสายเลือดพระนางปทุมมาแลท้าวจุลนีย์อีกด้วย เหตุนี้พญารุ้งไฟจึงกำเริบเสิบสานบุกสามโลก แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดีขอรับมหาเทพ
..มหาเทพทอดพระเนตรท่าทีร้อนรนของพระอินทร์ก็ทำเพียงแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยด้วยพระทัยเมตตา
พระอิศวร:ดูก่อน อินทรา ในภาคก่อนเราเคยแบ่งจิตรเป็นฤาษีนามอัคคี แลตอนนี้เขาก็กลายเป็นบุตรของพระเพลิง แลด้วยผลแห่งคำสาปนางโยคี เขาจะต้องกำเหนิดเป็นคนครึ่งหญิงครึ่งชาย
..ขณะนั้นเพชรเทวฤทธิ์เทพบุตรก็อยู่ด้วย จึงเกิดข้อสงสัย
เพชรเทวฤทธิ์:ข้าแต่พระอิศวร มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อพญารุ้งไฟได้สังหารคนในเมืองจักขิณนครจนสิ้น แล้วพระนางปทุมมาผู้จะมาเป็นพระมารดาหม่อมฉันจะรอดฤาขอรับ
พระอิศวร:งั้นเจ้าก็มองดูนั่นสิ!
..พระอิศวรทรงสำแดงให้เห็นภาพของท้าวจุลนีย์แห่งนนทจักรที่แก้ปริศนาของป่าอาถรรพ์จนสามารถช่วยพระนางปทุมมาจากกลองได้
พระอิศวร:ข้าขอบัญชาให้ เสกกะราชเทวัญ บุตรแห่งพระธรณี สุวรรณราชเทวา โอรสพระคงคา วายุเทพ(พระพาย)พร้อมพระชายา ไปจุติเป็นโอรสท้าวจุลนีย์
..เทพบุตรทัังสามได้สดับดังนั้นก็ยินดียิ่ง พนมมือขึ้นน้อมรับเทวบัญชา
สามเทพ:น้อมรับเทวบัญชา!
พระอิศวร:เพชรเทวฤทธิ์!เราจะมอบกำลังเราครึ่งหนี่งให้เจ้าไปปราบเหยี่ยวอสูร
..เพชรเทวฤทธิ์ประนมมือรับพร
เพชรเทวฤทธิ์:ขอบพระทัยมหาเทพ!
..ว่าแล้วทั้งสี่พระกุมารพร้อมเหล่าพระชายา อันมี พระนางมาหยา พระนางกุมผกา พระนางดารัตตี แลพระนางมัลลิกา ก็จุติยังโลกมนุษย์ ข้าจึงกราบทูลต่อมหาเทพ
ข้า:ข้าแต่พระอิศวเรศวรเจ้า อันเพชรเทวฤทธิ์นั้นแต่ปางก่อนเคยเป็นคุรุอุปัชฌายาจารย์แห่งหม่อมฉัน หม่อมฉันจึงขอพระพรจากพระองค์ให้ได้ตามไปปรนนิบัติท้าวเธอยังโลกมนุษย์ด้วยขอรับ!
พระอิศวร:ไปเถิด..มาตุลี!
..ข้ากราบทูลลามหาเทพก่อนจะจุติยังโลกแห่งมนุษย์
..ฝ่ายพระนางปทุมมานั้น ครั้นบรรทมก็บังเกิดพระสุบินนิมิตรอันประหลาดว่าพญาคชสารสี่เชือกมากระทำทักษิณาวัตรด้วยบัวบงกช โดยเฉพาะช้างเชือกที่สี่นั้นมีลักษณะพิเศษคือ เป็นช้างเผือกสีทับทิมแลเป็นช้างสีดองาเดียวข้างขวา(ช้างสีดอคือช้างตัวเมียมีงา) พอกระทำการเคารพแล้วช้างเผือกสี่เชือกก็แวบหายสู่พระอุทรของพระนางปทุมมาทันที ทำให้พระนางตกพระทัยตื่น
ท้าวจุลนีย์:เจ้าเป็นอะไรฤา?น้องหญิง
ปทุมมา:น้องฝันประหลาดเพคะ น้องฝันว่ามีช้างเผือกสี่เชือกพุ่งเข้าท้องของน้องเพคะเสด็จพี่!
..ท้าวจุลนีย์สดับดังนั้นก็ทรงครุ่นคิดในพระทัยอยู่ครู่หนึ่งแล้วตรัสว่า
ท้าวจุลนีย์:ฝันประหลาดจริงๆแถมเพลานี้ยังจวนจะรุ่งสางแล้ว โบราณว่าฝันตอนรุ่งสางมักเป็นจริง แต่เท่าที่พี่ฟังเจ้าเล่าๆมานั้น ชะรอยจะเป็นฝันที่เป็นลางดีมากกว่าลางร้าย เอาเถิด!เจ้าอย่ากังวลเลย พรุ่งนี้ที่ท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งพี่จะไต่ถามความพยากรณ์จากราชครูพระโหราธิบดีให่ประจักษ์ใจเอง เจ้านอนไปก่อนเถิด!
พระนางปทุมมา:เพคะ
แล้วทั้งสองพระองค์ก็ทรงบรรทมต่อ โดยมิสนพระทัยต่อพระสุบินนั้นเลย