ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีแสงระยิบระยับเฉิดฉายจากไฟตามดึกสูงระฟ้าต่างๆ ช่างส่องแสงจ้าราวกับว่าพระอาทิตย์ขึ้นตอนกลางคืน เมื่อผมมองไปด้านล่าง กลับมองเห็นผู้คนเป็นเพียงจุดเล็กๆคล้ายกับฝูงมดงาน (บางทีผมอาจจะเปรียบเทียบเกินไป~~~~) เมื่อผมแหงนหน้ามองไปด้านบนกลับเห็นเมฆลอยไปมารอบๆตัว ราวกับจะยื่นมือเข้าไปจับก้อนเมฆเอามารองนั่งได้
“ทีนี้มันคือตึกเบิร์จคาลิฟา ตึกที่สูงที่สุดในโลกแห่งดูไบ”
ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิดว่าคนอย่างเดียวจะมายื่นตรงนี้ได้ ราวกลับมาเมื่อวานผมยังยืนตัดริมผ้าช่วยแม่อยู่ แต่วันนี้ผมได้มายืนในจุดที่คนทั่วไปคงมายืนได้ยาก ผมชั่งรู้สึกปลื้มใจดวงน้อยๆๆๆๆ มันทำให้ใจของผมกลับมาสั่นพริ้ว ระลิกๆๆๆๆๆ อีกครั้งหนึ่ง
“กันชาาาาา~ ตื่นนนนนน!! เสื้อที่แม่เย็บแล้วบอกให้เอาไปส่งที่บ้านป้าสมร เอาไปส่งรึยัง ถ้ายังตื่นไปล้างหน้า แล้วเอาไปส่งด้วย ป้าเขาจะรอนาน ไป๊~~~”
สิ้นเสียงของผู้บัญชาการผมถึงกับกระเด้งตัวออกจากที่นอนเก่าๆ แล้ววิ่งไปยังบ้านของคุณป้าสายสมรแบบไม่รอช้าาา โดยคว้าแปรงฟันที่บีบยาสีฟันทิ้งไว้ พร้อมกับน้ำล้างหน้า 1 ขวดที่ได้จากการรองน้ำฝน ภาระกิจในช่วงเช้าของผมก็เสร็จสิ้นลงไปอย่างงสวยหรู