Trouble Maker ร้ายนักนะยัยคุณหนูตัวปัญหา

รักวัยรุ่น

Trouble Maker ร้ายนักนะยัยคุณหนูตัวปัญหา

Trouble Maker ร้ายนักนะยัยคุณหนูตัวปัญหา

misssuika

รักวัยรุ่น

2
ตอน
2.96K
เข้าชม
62
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
4
เพิ่มลงคลัง

ปาร์ค ยูชอน หนุ่มเจ้าสำราญที่คิดจะแอ้มสาวในคืนหนึ่ง

แต่ช่างโชคร้ายเมื่อเจอเข้ากับของจริง!

คิม อิโซ หญิงสาวที่เต็มไปด้วยปริศนา

เธอสวย หุ่นดี มาพร้อมกับความบ้าบิ่น!

และโชคชะตาก็ชักพาทั้งสองให้ต้องหนีตายด้วยกัน

เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความฮา ลุ้นระทึก และโรแมนติก

รวมอยู่ในนิยายเรื่องนี้แล้ว!

สั่งจองหนังสือได้แล้วที่

https://www.facebook.com/1DERmomo

 ซื้อในรูปแบบ E-BOOK ได้แล้วที่นี่

 

 

 

“ฉลอง!” เสียงตะโกนร้องลั่นอย่างมีความสุข แก้วหลายใบกระทบพร้อมกันทันทีเมื่อปาร์ตี้ได้เริ่มขึ้น เหล่าชายหญิงที่มาร่วมงานต่างยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดและทำท่าเขย่าแก้วเปล่าๆ บนหัวอย่างรื่นเริง

“ใครไม่เมาห้ามกลับนะเว้ย เติมๆ” ชายร่างสูงใหญ่ตะโกนให้เหล่าเพื่อนๆ รับรู้และทำหน้าที่เสิร์ฟเหล้าอย่างแข็งขัน เสียงเพลงเร่งจังหวะให้ฝูงชนในคลับเริ่มเคลื่อนไหวตามทำนองเพลงอย่างคึกคัก ทุกคนกำลังเติมเต็มความสนุกและรสชาติขมๆ ของเครื่องดื่มในมือ ไม่ต่างจากอีกหนึ่งหนุ่มที่นั่งดื่มอย่างอารมณ์ดีอยู่ในมุมหนึ่งของไนต์คลับแห่งนี้

“ยูชอนหลังเที่ยงคืนเราไปต่อกันนะ” เสียงหวานกระซิบข้างใบหูของชายหนุ่มที่กำลังเหลือบมองร่างอรชร ใบหน้าเย้ายวน ปากอวบอิ่มรวมไปถึงเนินอกที่เบียดชิดร่างของเขากำลังออดอ้อนออเซาะให้ชายหนุ่มหันมาสนใจ

“เอาสิ” เขารับคำชวน ตรรกะง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องคิดมาก เมื่อฝ่ายหนึ่งยินดีเสนอ เขาก็พร้อมสนองเช่นกัน ยิ่งวันที่เขาอารมณ์ดีแบบนี้ด้วยแล้วคงไร้เหตุผลที่จะปฏิเสธคำชวนของสาวสวย มือหนาจึงโอบกระชับเอวบางอย่างถือวิสาสะและยิ้มพิมพ์ใจให้เธอที่ไม่คิดขัดขืนต่อการกระทำนั้นแต่อย่างใด

“งั้นเราจะไปต่อที่ไหนกันดีล่ะ คอนโดของผมดีไหม” ดวงตาขี้เล่นหยอกเย้าหญิงสาวในอ้อมกอด “รู้แล้วยังจะถาม” เธอหัวเราะคิกคักชอบใจ อดไม่ได้จะยีจมูกสวยได้รูปของคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว นอกจากความหล่อเหลาที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและฐานะทางการเงินที่ไม่ธรรมดา ความขี้เล่นก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดอีกอย่างที่ทำให้เหล่าสาวๆ เข้ามาแจกเบอร์โทรให้เขาไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งวันนี้ปาร์ค ยูชอนก็ได้สาวสวยไปนอนกอดโดยไม่ต้องเสียเหงื่อแม้สักหยดเดียว

จริงอยู่ที่สถานบันเทิงเบื้องล่างกำลังสนุกสนานกับเหล้าเบียร์และเสียงเพลงอันอึกทึก แต่เหนือพื้นดินขึ้นไปยังตึกสูงระฟ้านั้นกำลังมีอีกคนที่ดิ้นรนหาทางรอดจนสุดกำลัง

“ตึก! ตึก!” เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วตึกเงียบๆ ที่ไร้ซึ่งผู้คนในยามดึก ไม่มีใครล่วงรู้ว่าที่นี่กำลังเกิดอะไร ไม่มีใครรู้ว่ายังมีผู้หญิงที่ติดอยู่ในตึกแห่งนี้กำลังวิ่งหนีและหอบหายใจอย่างตื่นตระหนกเมื่อผู้ล่าเข้าใกล้เธอทุกที

“จะเล่นเกมอีกนานไหม!” เสียงตะโกนดังกังวาน คนที่ถูกล่าชะงักงันและหยุดก้มลงมองบันไดที่เธอดั้นด้นวิ่งขึ้นมา

“เฟี้ยว!” ลูกกระสุนพุ่งขึ้นจนร่างเธอผงะออกห่าง หากก้มหน้าลงไปอีกหน่อย ชีวิตของเธอคงจบเพียงเท่านี้ “บ้าจริง! ปืนเก็บเสียง!” เธอสบถเมื่อรู้ว่าผู้ล่าต้องการฆ่าเธอโดยที่จะไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอตายอยู่ตรงนี้ ก่อนจะตั้งสติและก้าวขาวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนอย่างรวดเร็ว

และในขณะนั้นเอง...เขาคิดว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่กลับเป็นว่าเขาพลาดโอกาสงามๆ ไปอย่างไม่น่าเชื่อ

“ฮะ! มาไม่ได้แล้ว ทำไม” ยูชอนยืนพิงรถสปอร์ตสีแดงคันงามและกำลังรับสายของสาวคนเดิมที่เขาอุตส่าห์เกี้ยวมาตลอดคืนอย่างหัวเสีย

“แฟนฉันมาพอดี ขอโทษ ไว้คราวหน้านะ” ปลายสายตัดฉับอย่างรวดเร็ว หล่อนไม่เหลือเยื่อใยให้เขาเลยแม้แต่นิด ยูชอนไม่อาจเก็บอารมณ์ที่เดือดพล่านได้อีกต่อไปเขาจึงตะคอกใส่มือถือผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างสุดทน

“มีแฟนแล้วยังอยากนอนกับคนอื่นเนี่ยนะ คราวหน้าก็ไม่มีแล้วโว๊ย ยัยบ้า!” เขาสบถด่าอย่างกับคนบ้าก่อนจะเก็บโทรศัพท์เครื่องบางใส่กระเป๋าและเงยหน้ามองพลุที่อยู่บนท้องฟ้าสีดำเหมือนกำลังมีใครสักคนจุดเยาะเย้ยเขาเสียอย่างนั้น

“ใครมันมาจุดพลุอะไรตอนนี้วะ!”

ปัง! ปัง! เสียงปืนยิงสกัดร่างที่กำลังวิ่งหนี เธอหยุดชะงักก่อนหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ล่า ร่างสูงโปร่งสวมสูทสีดำสนิทใบหน้ายียวนกำลังยกกระบอกปืนมาทางเธอและแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด

“มีเสียงแบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย...ว่าไหม” เขาแสร้งถาม ขณะที่จ้องหน้ามาทางเธอ หญิงสาวหยุดนิ่งแต่เสียงหอบหายใจยังดังต่อเนื่อง เหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าบ่งบอกว่าเธอเหนื่อยจนสุดกำลัง

“ปืนเก็บเสียงมันไม่เหมาะกับคนอย่างเธอ แต่ยังไงซะตอนนี้มันไม่จำเป็นต้องเก็บเสียงซะด้วยสิ” เขาแหงนหน้ามองพลุที่กำลังระเบิดอยู่บนท้องฟ้า ต่อให้เหนี่ยวไกยิงอีกหลายนัด เสียงพลุเหล่านั้นก็กลบเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำได้อยู่ดี

“เอาละ อยากฝากอะไรถึงคู่หมั้นหรือเปล่า” ดวงตาสีเข้มฉายแววเลือดเย็นจับจ้องผู้หญิงที่เขาจะพรากลมหายใจในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

หัวใจของเธอเต้นระส่ำ ไม่มีหนทางใดให้หนีอีกต่อไป เธอถอยห่างจนสุดขอบตึกและเผลอหันมองไปยังเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย พวกเขาคงไม่มีทางรู้ว่าเธอกำลังเจอกับอะไรอยู่แน่ ก่อนหันกลับมาหาคนที่จ้องจะทำลายชีวิตของเธอ…ในเมื่อคืนนี้ชีวิตของเธอจะจบ ทำไมเธอต้องตายอย่างน่าเวทนาด้วยล่ะ

“ฝากเหรอ หึ” เธอยกนิ้วกลางขึ้นนึกอยากล้อเลียนคนตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย เขาถลึงตาอย่างโมโหที่เห็นท่าทางไม่ยี่หระของเธอ แรงโทสะทำให้เขาเหนี่ยวไกยิงทันที แรงปะทะอันรุนแรงพุ่งเข้าใส่แขนของเธอจนร่างซวนเซ...ในที่สุดก็ไม่สามารถมั่นคงอยู่ได้ หญิงสาวจึงหล่นลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

ปัง! ปัง! ปัง! ลูกกระสุนหลายนัดยิงตามลงไปอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาสีนิลจ้องเขม็งและโกรธจัด คิ้วขมวดมุ่น มุมปากกระตุกขึ้นอย่างมีอารมณ์จ้องมองไปยังเบื้องล่างอย่างหัวเสีย

“โธ่เว้ย!” เขาสบถก่อนหยิบมือถือโทรหาลูกน้องอย่างรีบเร่ง “คืนนี้ฉันต้องได้ศพนังบ้านี่ รีบจัดการซะ!”

 

แรงลมปะทะร่างกายจนเย็นเฉียบทำให้เธอมีสติเต็มที่ ขณะที่กำลังร่วงหล่นเธอก็พยายามประคองตัวเองให้เข้าใกล้ตัวตึก ตั้งหน้าตั้งตามองหาสิ่งที่ช่วยฉุดรั้งเธอไว้ ไม่ว่ามันจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็ตามที

“หมับ!” และโชคยังดี...เธอสามารถคว้าเอาขอบหน้าต่างที่มีคนเผลอเปิดทิ้งไว้ได้ทัน หญิงสาวพยายามยึดขอบหน้าต่างแน่นและหวังอย่างยิ่งว่ามีแรงเหลือพอดันร่างของตัวเองเข้าไปยังช่องหน้าต่างได้ แต่อาการบาดเจ็บและเหนื่อยล้าเล่นงานเธออย่างจัง มือที่ชุ่มเหงื่อและเลือดลื่นๆ ทำให้มันไม่สามารถยึดติดกับขอบหน้าต่างนั้นได้อีกต่อไป เธอพลัดตกอย่างรวดเร็ว! และไม่กี่วินาทีชีวิตของเธอก็คงจบสิ้นแต่เสียงในหัวกลับร้องลั่น

‘บ้าเอ้ย! ฉันยังไม่อยากตายนะ!’

 

ตุ๊บ! ยูชอนชะงักมือจากกระป๋องเบียร์เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างจากเบื้องหลัง เขาหันขวับและกวาดมองไปรอบๆ บริเวณนั้นอย่างสงสัย

“เสียงอะไรวะ” ยูชอนดันตัวเองออกจากรถ โยนกระป๋องเบียร์ให้พ้นมือและเดินเข้าไปในซอยแคบๆ นั้นทันที

แสงสลัวทำให้ซอยแคบๆ ดูน่ากลัว ทำเอาผู้ชายแมนๆ อย่างเขาเกิดอาการปอดแหกขึ้นมาดื้อๆ

“ฉันคงไม่เจอเรื่องฆาตกรรมอะไรเทือกนั้นหรอกนะ” เขากลืนน้ำลายดังอึกและก้าวเท้าเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ทันใดนั้น!

“เฮ้ย!”

“เมี๊ยว!”

ตัวปัญหาร้องลั่นเมื่อเผชิญหน้ากับยูชอน แมวสีดำนัยน์ตาสีอำพันหยุดวิ่งตรงทางออก มันขู่ฟ่อใส่เขาก่อนจะวิ่งหนีไปทันที

“ไอ้แมวบ้า ตกใจหมด” เขาถอนหายใจโล่งเมื่อเห็นเพียงแมวดำและถังขยะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยถุงสีดำกองพะเนินจนล้นออกมาและวางกองระเกะระกะบนพื้น ยูชอนไม่เห็นสิ่งปกติใดๆ  อีกจึงหันกลับออกไปเพื่อหาเบียร์ดื่มแก้เครียดในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน

 

“ยินดีต้อนรับครับ” พนักงานร้องทัก ยูชอนพยักหน้ารับคำทักทายนั้นและตรงดิ่งไปยังตู้เครื่องดื่มคว้าเอาเบียร์หลายกระป๋องติดมือมากองไว้หน้าเคาน์เตอร์ชำระเงินทันที

“ฉลองคนเดียวเหรอเนี่ย อย่างคุณน่าจะอยู่กับสาวๆ นะครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยแซวลูกค้าที่มีสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“แล้วนายล่ะ ทำไมไม่ไปฉลองข้างนอกนู่น” ยูชอนย้อนบ้าง

“ถ้าผมไม่ขาย คุณลูกค้าจะได้เบียร์ไปดื่มเหรอครับ” เด็กหนุ่มยิ้มยียวนใส่

“หึ ก็ถูก แต่ถ้าฉันไปกับสาวๆ แล้วนายจะได้เงินจากฉันหรือไง” ยูชอนรับเงินทอนและเดินออกจากร้านพร้อมถุงใส่เบียร์ อดไม่ได้ที่จะยิ้มฝืดให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

มันช่างเป็นคืนที่ห่วยแตกสิ้นดี หญิงก็ไม่ได้แถมต้องกลับไปกินเหล้าคนเดียวย้อมใจ เขาพึมพำในใจและเดินกลับไปยังรถของตัวเองด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวสุดบรรยาย แสงไฟกะพริบเล็กน้อยเมื่อเขาปลดล็อกประตูรถ

“หมับ!” เขาชะงักเมื่อมีบางอย่างพุ่งเข้าใส่ ยูชอนเบิกตาโพลงและมองไปยังต้นเหตุที่กำลังกอดเขาแน่นอย่างงงงวย

“อะ เอ่อ..คุณ” เขามองซ้ายทีขวาทีว่าเธอคนนี้วิ่งออกมาจากที่ใดกัน

“พะ พาฉันออกไปจากที่นี่ที” เสียงอู้อี้ร้องขอ ยูชอนพยายามรวบรวมสติเรียบเรียงเหตุการณ์อย่างช้าๆ และเหลือบดูคนตัวเล็กที่โผเข้ากอดเขาแน่นด้วยอาการสั่นเทา ใบหน้าที่หลบซ่อนทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นเธอชัดเจนนัก แต่เชื่อเถอะว่าสัญชาตญาณของเขาบอกได้ว่าผู้หญิงที่กำลังกอดเขาอยู่นี่ต้องไม่ธรรมดา กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของเธอและเสียงหวานๆ ทำให้เขาเริ่มออกลาย “ไอ้ที่ผมจะไปมันบ้านผมนะคุณยังจะ...”

“ได้โปรด...พาฉันไปด้วย” เธอยืนยันและกระชับกอดให้แน่นขึ้น อาการแบบนี้เขาเรียกมันว่าอ่อยชัดๆ ยูชอนคิด

“ทำไมคุณดูรีบร้อนอยากไปกับผมนักล่ะ” เขายังคงเล่นตัวไม่ยอมตกลงกับหล่อนง่ายๆ

“ก็เพราะ...คุณเป็นคนเดียวที่ฉันอยากไปด้วย” เธอเผยใบหน้าขาวผ่องให้เขาได้เห็นเต็มตาและดูเหมือนว่าวันนี้ก็ไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่ ตรรกะง่ายๆ ที่เค้าใช้ประจำผุดขึ้นอีกครั้ง เมื่อฝ่ายหนึ่งยินดีเสนอ เขาก็พร้อมสนองนะสิ!

รถหรูคันแดงแล่นออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ร่างนับสิบหยุดรวมตัวกันอยู่พื้นด้านล่างตึกต่างมองซ้ายขวาตามหาร่างที่เจ้านายของตนสั่งการ “หาเจอหรือเปล่า” ร่างสูงใหญ่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมและมีรอยแผลบากตรงหน้าผากร้องถามลูกน้องที่พร้อมใจกันส่ายหน้าไปมา “บ้าเอ๊ย!” เขาจึงรีบกดโทรรายงานเจ้านาย

“นังนั่นไม่มีปีกให้บินหนี ถ้าพวกแกตามไม่เจอ ฉันจะเอามือพวกแกคนละข้าง!” เสียงเกรี้ยวกราดดังลั่น เขากำลังโกรธจัดที่ไม่ได้อย่างใจ คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลอดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้น

“แทนที่จะตามหาแบบไร้จุดหมาย ทางที่ดีนายควรสั่งให้ลูกน้องดักรอตามโรงพยาบาลหรือคลินิกไม่ดีกว่าเหรอ อย่างน้อยๆ ถ้ามันเจ็บหนักคงมีคนเห็นใจพาส่งโรงพยาบาลสักที่นั่นแหละ” ดวงตาแข็งกร้าวหันขวับไปจ้องคนที่ยิ้มอย่างใจเย็น

“หึ! ถ้าอย่างนั้นก็หัดใช้มือสะอาดๆ ของคุณชายช่วยทำให้เรื่องนี้มันจบทีสิ” เขากระแทกไหล่ร่างนั้นอย่างตั้งใจก่อนเดินลงจากดาดฟ้าทันที

“เฮ้อ! ฉันเกลียดพวกอันธพาลไร้สมองซะจริง” เขามองหนุ่มเลือดร้อนหายลับตาไป เมื่อให้พวกใช้แรงออกหน้าแต่กลับทำงานไม่ได้เรื่องก็คงต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เขาจึงโทรศัพท์หาคนคนหนึ่งที่จะช่วยจัดการกับปัญหานี้

“ผมเอง รบกวนคุณดูให้ผมทีสิว่ามีผู้หญิงคนไหนบาดเจ็บแล้วเข้าไปรักษาคืนนี้บ้าง...เรื่องนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรู้” เขาตัดสายและเดินลงจากดาดฟ้าไปอีกราย

 

เสียงเครื่องยนต์ดับลงเมื่อถึงคอนโดหรูของเขาเอง ยูชอนถอดเข็มขัดนิรภัยออกและหันไปมองร่างที่หลับพิงกระจกรถอยู่ข้างกาย

“คุณถึงแล้ว” เขาพูดเบาๆ ร่างนั้นก็รู้สึกตัว เปลือกตาของเธอลืมขึ้นและมองรอบๆ ลานจอดรถ ใบหน้าเพียงเสี้ยวของหญิงสาวตกเป็นเป้าสายตาของยูชอนในทันที ไม่ใช่เพียงกลิ่นหอมๆ เสียงหวานๆ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงใบหน้าเรียวสะสวยของเธอ ดวงตากลมโต ปากชมพูใสและผิวขาวเนียนยิ่งทำให้หัวใจของหนุ่มโสดชั่วคราวอย่างเขากระตุกได้ง่ายๆ

“งั้น...เราขึ้นไปกันเลยไหม” ยูชอนหยั่งเชิงถามอีกครั้งและมองหญิงสาวที่ไม่มีท่าทีคิดหนีไปไหนอย่างลำพองใจ

“ตกลงค่ะ” รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวสวย ทำเอาหัวใจของ ยูชอนกระตุกวูบ เขารีบลุกขึ้นเปิดประตูรถและเดินวนไปยังประตูอีกฝั่งที่มีเธอนั่งรออยู่

 

ติ้ง! ในที่สุดประตูลิฟต์ก็เปิดออก คนทั้งคู่หยุดอยู่หน้าประตูห้อง ยูชอนกดรหัสเข้าห้องของเขาอย่างรวดเร็วและความรู้สึกที่มีทั้งหมดก็ท่วมท้นจนแทบไม่อยากรีรออีกต่อไปแล้ว

ปัง! ประตูปิดลงพร้อมกับร่างบางถูกดันติดประตูห้อง ดวงตาของทั้งคู่ประสานกัน ก่อนเธอจะเอ่ยถาม “นี่คุณจะทำอะไรคะ”

“ก็ทำอย่างว่าไง” เขาไม่รีรอพูดในสิ่งที่อยู่ในใจ

“ตรงดีจัง” หญิงสาวยิ้มอีกครั้ง ยูชอนหัวเราะชอบใจก่อนโน้มตัวลงหมายจะสัมผัสเข้าที่ปากสวย แต่หญิงสาวกลับใช้มือป้องปากของเขาเบาๆ ส่ายหน้าไปมาเหมือนต้องการยื้อเวลาเอาไว้ และมือของเธอก็ค่อยๆ เลื่อนสัมผัสที่แผงอกแข็งแรงและไล้ลงช้าๆ ไปยังหน้าท้องจนถึงขอบกางเกง ดวงตาเป็นประกายอย่างมีเสน่ห์ทำให้ยูชอนยิ้มอย่างพอใจ มือเล็กซุกซนของเธอกำลังปลดเข็มขัดออกช้าๆ เร้าอารมณ์ให้ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปอีก

ตุ๊บ! เข็มขัดเส้นสีดำหล่นลงสู่พื้น เขาโน้มตัวเข้าใกล้เรียวปากสวยอย่างปรารถนาทันที!

หมับ! แทนที่เขาจะได้สัมผัสปากสวยของหญิงสาวเธอกลับคว้าเอาใบหน้าของชายหนุ่มและใช้เล็บยาวจิกลงไปอย่างไม่ปรานี เสียงโอยดังลั่นจนเขาต้องถอยห่าง เมื่อเธอเห็นจังหวะเหมาะก็คว้าแขนของเขาและบิดมันอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย อะไรของคุณ ซาดิสม์เหรอ ผมไม่ถนัดหรอกนะ!” ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวทนไม่ได้กับคำพูดน่ารังเกียจจึงเตะเข้าสีข้างอย่างฉุนกึก เขาทรุดลงไปกองกับพื้น ไม่รอช้าหญิงสาวคว้าแขนทั้งสองข้าง ไขว้หลังเอาไว้พร้อมทั้งใช้ขาของเธอดันร่างนั้นให้ติดกับพื้นห้องทันที

“ถ้าพูดอะไรทุเรศๆ อีกครั้ง ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้เลย!” หญิงสาวคว้าเข็มขัดที่ปลดทิ้งไว้ผูกเข้ากับข้อมือของยูชอนอย่างรวดเร็ว

“อ๊าก! อะไรเนี่ย คุณจะฆ่าผมได้ไง” ยูชอนตะโกนโหวกเหวกอย่างตื่นตระหนก

“หึ! ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ แค่จับนายหักคอเรื่องแค่นี้มันง่ายจะตายไป”

“เฮ้ย! จะบ้าหรือไง เราก็แค่จะมีอะไรกันเฉยๆ ทำไมต้องเอาถึงตายด้วย!”

“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพูดจาทุเรศๆ ออกมา!” เธอเตะเข้าสีข้างซ้ำอีกครั้ง ยูชอนจุกตัวงอและแทบหายใจไม่ออก เธอไม่รอเวลาหันรีหันขวาเดินไปยังสายโทรศัพท์ ดึงมันออกมาและนั่งลงมัดขาทั้งคู่ของเขาเอาไว้

“แค่กๆ” เสียงไอคอกแคกดังไม่หยุดเพราะถูกจู่โจมอย่างแรง เธออดไม่ได้จึงหันกลับมาและทำสีหน้าสมเพชในตัวชายหนุ่ม

“อะไร แค่นี้ก็จอดแล้วเหรอ เหอะ! อ่อนชะมัด” เธอยิ้มเยาะเมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าจัดการง่ายกว่าที่คิดไว้

“ปะ ปล่อย ผมไปเถอะ แค่กๆ ผมไม่ทำอะไรคุณแล้ว” ยูชอนร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา เธอจึงนั่งลงข้างกายและมองหน้าชายหนุ่มอย่างจริงจัง

“จะบอกอะไรให้นะ นายไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะ ถ้าฉันไม่อนุญาต” เธอยิ้มเยาะก่อนลุกขึ้นเดินจากเขาไป ปล่อยให้ปาร์ค ยูชอนผู้โชคร้ายต้องนอนรอความตายด้วยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบเดียว

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว