ยัยแกะมืดมน พิชิตใจ นายหมาป่า

อีโรติก

ยัยแกะมืดมน พิชิตใจ นายหมาป่า

ยัยแกะมืดมน พิชิตใจ นายหมาป่า

majesty

อีโรติก

6
ตอน
11K
เข้าชม
99
ถูกใจ
46
ความคิดเห็น
19
เพิ่มลงคลัง

 

Chapter 1. หมาป่ากับแกะ

 

'ฝูงลิงตัวเมีย ทุเรศซะจริง'

หญิงสาวร่างเล็กกับแว่นตาหนาเตอะ คิดในใจ เมื่อเห็นกลุ่มหญิงสาวจำนวนหนึ่ง ที่มีท่าทางเหมือน 'รุมทึ้ง' อะไรสักอย่างอยู่หน้าอาคารเรียน 1

หญิงสาวเดินแหวกฝูงชน ที่ขวางเธออยู่อย่างไม่สนใจ ว่ายัยผมแดงที่เธอเดินชน กำลังส่งสายตาอาฆาตใส่ หรือว่ายัยผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนหลุดออกมาจากย่านฮาราจุกุ กำลังใช้ศอกดันตัวเธอจนแทบล้ม

"ยัยคุโระ! ที่มีตั้งเยอะแยะ อย่ามาเดินแถวนี้สิยะ!"ผู้หญิงที่ดูจะเป็นหัวโจกของฝูงลิงทะโมนพวกนี้ แผดเสียงใส่หน้า 'คุโระ' ที่ตอนนี้เธอกำลังหัวเสีย กับเสียงแหลมตรงหน้า

คุโระไม่พูดอะไร แต่ใช่มือทั้งสองข้างปิดหู แล้วรีบเดินออกไป

ตุบ!

"อ่ะ!...ขอโทษ" คุโระรู้สึกว่าตนเองเดินชนเข้ากับใครบางคน แต่ก็ไม่ได้เงยหน้ามอง ได้แต่ก้มหน้าขอโทษและพยายามเดินไปที่ห้องสมุด ที่ตอนนี้ โดนฝูงชนหรือที่คุโระเรียกว่า "ฝูงลิงป่า" กำลังรุมร้อมอะไรสักอย่าง จนขวางทางเข้าห้องสมุด

แต่ไม่ทันจะก้าวเท้าเข้าประตูห้องสมุด คุโระก็โดนใครสักคน กระชากข้อมืออย่างแรง จนตัวเธอแทบกระเด็น

"ขอโทษ...แค่นี้นะเหรอ ?"

เสียงทุ้ม ที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ชาย กำลังถามคุโระ ที่ตอนนี้โดนชายหนุ่มร่าสูงโปร่งดึงแขนเธอขึ้นสูง จนตัวแทบลอย

"อึ๊ก...เจ็บนะ..." คุโระนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

"ยัยมืดมนนี่เอง..."ร่างสูงมองเหยียดคุโระ เหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่าง

"...ต้นเหตุของฝูงลิงป่า...คือนายเองสินะโรว..."คุโระพูดด้วยท่าทีเหยียดหยันอีกฝ่ายไม่แพ้กัน

 

- Yukirou part-

 

ขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าห้องสมุด เพื่อนำเอกสารสำหรับการจัดตั้งชมรมวรรณกรรม เข้าไปให้ในเจ้าหน้าที่ในห้องสมุด ผมก็ต้องผจญกับสาวๆ จำนวนมากที่ยืนรอผม แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าควรจะเรียกว่ากลุ่มสาวๆ หรือฝูงลิงทะโมนดี - -^)

 

ถึงจะน่ารำคาญ แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษพอ ที่จะปั้นหน้ายิ้มให้กับพวกเธอ ที่รายล้อมเข้ามาพร้อมยื่นขนมและสารพัดสิ่งของมาให้ แต่นี่มันผ่านไปเกิน 5 นาทีแล้ว ผมยังไม่สามารถก้าวเท้าเข้าไปในห้องสมุดได้เลย

 

ผมปั้นยิ้มที่ตอนนี้อาจจะดูบิดเบี้ยวไปบ้าง เพราะผมเริ่มจะร้อนขึ้นมาซะแล้วสิ...

 

ตุบ!

 

ผมรู้สึกถึงอะไรสักอย่าง ชนเข้ากับเอวผมอย่างจัง ไม่สิ นี่มันจงใจเดินชนชัดๆ ผมมองหาสิ่งที่ชนเข้ากับตัวผม ...

 

ยัยเด็กสติปัญญา ระดับ A+ แต่หน้าตาท่าทางระดับ D- หนำซ้ำรูปร่างและส่วนสูง อยู่ในระดับ Fแบบติดลบ

 

นี่มันโชคร่ายอะไรกัน

 

ผมหรี่ตามองร่างเล็กที่กำลังมองผมและเหล่าสาวๆ ราวกับมองของประหลาด เธอมองผล สลับกับสาวๆไปมา ก่อนจะหันหลังให้ แล้วเดินเข้าห้องสมุดทันที และผมเพิ่งสังเกตเห็น ว่าสาวๆที่เมื่อกี้รุมทึ้งผม พวกเธอกลับหยุดนิ่งมองคุโระ จนลืมว่ามีผมอยู่ตรงนั้น ผมจึงรีบผละตัวออก แล้วเดินเข้าห้องสมุดทันที

"ให้ตาย เกือบเเย่แล้ว..." ผมสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะวางเอกสารไว้บนโต๊ะ ที่มีคุโระนั่งอยู่

"..."

คุโระมองผมสลับกับเอกสาร

"หน้าที่ของประธาน เธอก็รู้ ว่าผมควรเอาเอกสารมาให้ เธอเองก็ควรจะรีบกรอกรายชื่อสมาชิก และชื่อครูที่ปรึกษาซะ ส่งก่อนเย็นวันพรุ่งนี้นะ" ผมเลิกคิ้วมองเธอ ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยพอใจอะไรผมสักอย่าง

"อือ..." เธอก้มหน้ามองเอกสาร ราวกับมีอะไรติดอยู่

 

------

ยัยนี่ พูดสั้นๆแค่นี้เองหรอ

ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังคงยืนมองเธออยู่ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ ว่าผมยังยืนอยู่ที่เดิม...

 

เธอกำลังวุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือ 'ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของลัทธิแม่มด'

 

เดี๋ยวก่อนนะ แม่มด ?

 

ผมหลุดขำออกมานิดหน่อย แต่ก็พอทำให้คุโระสะดุ้ง แล้วมองหน้าผมอย่างคาดโทษ

 

"เธอเป็นแม่มดหรอ อุ้บ! ฮ่าๆๆ ไหน...ลองเสกคาถาง่ายๆสักบทให้ฉันดูหน่อยสิ"

 

ผมแทบจะหัวหงายหลัง เมื่อเห็นหน้าของคุโระที่แดงจัด ไม่รู้ว่าหน้าเธอแดงเพราะเขินหรือว่าโกรธกันแน่

 

แต่ทำไมผมรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก

 

คุโระยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับหน้าที่แดงจนส่งผลให้อุณภูมิรอบตัวเธอร้อนไปด้วย เธอกำหมัดแน่น เหมือนอยากจะซัดเข้าหน้าผมเต็มทีแล้วละ แต่กำปั้นน้อยๆแบบนั้น ชกผมสักสิบที ก็คงไม่ระคายผิวนักหรอก

 

ก็ยัยนี่ ตัวเท่าถั่วงอกเองนี่ครับ <( ̄︶ ̄)>

 

"ไหนละ คาถาบทง่ายๆนะ คุโระ~"

ผมพูดแหย่เธออีกครั้ง แต่จู่ๆ ยัยคุโระ ก็ขว้างอะไรบางอย่างใส่หน้าผม แน่นอน ว่ามันโดนเข้ากลางหน้าผากผมอย่างจัง

 

"อ่ะ!" ผมกุมหน้าผาก และนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

 

"ระวัง จะโชคร้ายทั้งวัน ที่มาทำกับฉันแบบนี้!" คุโระเดินหมาหาผมแล้วเขย่งเท้าเพื่อจะใช้สันหนังสือฟาดเข้าที่ใดที่หนึ่งบนหัวผม แต่ใครจะยอมละครับ

 

ผมคว้าข้อมือเธอไว้ แล้วจัดการดีดหน้าผากเธอไปสองที

 

....

 

"โอ้ย!! เจ็บ!! ปล่อยนะ! โรวว!!" คุโระพยายามแกะมือผมออก แหละการที่เธอทำแบบนั้น ผมยิ่งบีบนัดข้อมือเธอแน่น

"โรว ? เรียกชื่อห้วนๆแบบนี้เลยหรอ ? ฉันชื่อยูกิโรว ไม่ใช่โรว" ผมบอกเธอพร้อมกับดึงข้อมือเธอขึ้นอีก

คุโระนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ดูเหมือนเธอจะโกรธจัดจนเเทบจะพ่นไฟได้อยู่แล้ว

 

หน้าตาอย่างกับยักษ์ในร่างคนแคระของสโนไวท์

'น่าขำ'

 

"โอ้ย!...ป ปล่อยฉัน!" คุโระกระชากแขนตัวเองอยู่หลายครั้ง

 

ผมเห็นอย่างนั้นก็นึกสงสาร แต่ก็น้อยกว่าอาการรู้สึกสนุก

 

-------------

 

"ปล่อย...หรือ จะไม่ปล่อยดี" ผมยิ้มใสซื่อ ที่ดูแล้วออกจะขัดกับคำพูด พร้อมกับมองร่างเล็กที่โกรธจนหน้าแดงหูแดงไปหมด

 

"จะไม่ปล่อย ใช่หรือเปล่า..."คุโระถามเสียงสั่น

"...ก็ไม่รู้สินะ"

"จะไม่ปล่อย อย่างนั้นหรอ.."

"แล้วอยากให้ปล่อยหรือเปล่าละ"

"อยาก..."

"..."

"ปล่อยฉัน...นะ"

"..."

"ปล่อยเถอะ...นะ ฉันเจ็บ"

"หึ..."

 

การสนทนาซ้ำๆ วนกลับไปมาจนผมเริ่มจะเบื่อขึ้นมาซะแล้วสิ

 

"อ้ากกก!!! เจ็บนะว้อยย!!!"

จู่ๆคุโระก็กระทำการ 'กัด' เข้าที่มือผม ขอย้ำนะครับ 'กัดชนิดที่เรียกว่าจะฉีกเนื้อผมออก'

 

ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บพร้อทกับปล่อยให้มือร่างเล็กทันที

 

ให้ตายสิ ฟันคมยิ่มกว่าหมาที่บ้านซะอีก ยัยนี่มันปิศาจชัดๆเลย

 

 

------

คุโระทิ้งรอยฟันไว้บนมือผม ซึ่งตอนนี้มันเริ่มจะบวมๆแดงๆขึ้นมาแล้วครับ ผมมัวแต่ก้มหน้ามองสภาพมือตัวเอง จนเพิ่งสังเกตุเห็นว่าคุโระหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ผมก็ได้แต่เจ็บใจอยู่แค่นั้นแหละ ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ก็ยัยนั้นเป็นผู้หญิง ถึงผมจะไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไรก็เถอะ

 

และสาเหตุที่ทำให้ผมไม่ชอบเธอ มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรอกครับ เพียงเพราะ ยัยนี่เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่มีบรรยากาศรอบตัวไม่พึงประสงค์นัก เธอดูน่ากลัวมืดมนอยู่ตลอดเวลา และเธอเอง ก็ชอบที่จะมองผมราวกับมีตัวอะไรติดอยู่บนตัวผม ซึ้งมันเป็นแบบนี้มานานราวๆ 9 ปีแล้ว เพราะเธอชอบมองผม ผมจึงโดนเพื่อนๆและคนใกล้ตัว มองว่าเธอกับผม เป็นแฟนกัน

 

และผมก็ไม่ชอบให้ใครจับคู่ผม กับยัยมืดมินนั้นเลยสักนิด

 

สำหรับผม ยัยนี่ ก็มีไว้เพื่อแกล้งเท่านั้นแหละครับ เผื่อเธอจะเบื่อหน้าผม แล้วเกลียดผมจนไม่อยากเข้าใกล้

 

จะว่าไป ตั้งแต่ผมและเธอเรียน ม.ปลาย เธอก็ไม่ค่อยจะมองผมบ่อยนัก ตรงกันข้าม เธอใช้วิธีเดินชน เฉียด หนักๆเข้า ก็ชอบขัดคอเวลาที่ผมคุยกับสาวๆ ซึ้งมันทำให้ผมรำคาญยิ่งขึ้น

 

 

--------

และทุกครั้งที่ผมเห็นคุโระ ผมก็อดใจที่จะเข้าไปแกล้งไม่ได้ และคุโระ เป็นผู้หญิงที่แกล้งได้สนุกและสะใจที่สุดแล้ว

 

ผมใช้เวลาอยู่กับตัวหนังสือ จนลืมไปว่า อีกไม่ถึงสิบนาที ก็จะได้กลับบ้านแล้ว ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูเหมือนวันนี้ ฟ้าออกจะครึ้มไปสักหน่อย ทั้งๆที่เมื่อเช้า ผมดูข่าว ก็ไม่เห็นมีแจ้งเตือนเรื่องสภาพอากาศเลยสักนิด ตรงข้ามกลับบอกว่าท้องฟ้าแจ่มใส กรมอุตุฯ ก็ไม่แม่นยำเสมอไปหรอกนะ ผมที้ไม่ได้เอาร่มมา จะต้องเดินตากฝนตัวเปียกปอนกลับบ้านงั้นหรอ ไม่ดีเลยแฮะ

 

เสียงออดบ่งบอกถึงเวลาเลิกเรียน และหลังจากเสียงของออดดังได้ไม่นาน หยาดฝนก็เริ่มตกลงมา

 

ผมขมวดคิ้วมองสภาพอากาศอย่างไม่พอใจ พร้อมกับเปลี่ยนรองเท้าหน้า

ล็อกเกอร์ จู่ๆก็รู้สึกมีอะไรมาทิ่มเข้ากลางหลังผม ผมหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์

 

และเมื่อผมเห็นสิ่งที่ทิ่มเข้าที่กลางหลังผม พร้อมกับร่างหญิงสาวที่ยืนก้มหน้า ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดและเกิดอาการไม่เข้าใจ

 

"คุโระ...?"  ผมเอ่ยชื่อเธอเสียงเบา

"ร่ม ฉันให้ยืม" เธอส่งร่มให้ผม แต่จู่ๆเธอก็จัดการยัดร่มใส่มือผม แล้วรีบวิ่งตากฝนออกไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ ยัยนี่มันบ้าหรือยังไง เอาร่มมาให้คนอื่นแล้วตัวเองวิ่งตากฝนออกไปแบบนั้น

 

ผมคิดแบบนั้น ก็เลยต้องวิ่งจ้ำอ้าวออกไปเหมือนกัน ( ̄_ ̄)・・・

 

ให้ตายสิ ยัยนี่คิดอะไรอยู่กันแน่นะ ถึงจะแอบดีใจนิดหน่อย ที่ตัวเองไม่ต้องเดินตัวเปียก หรือยืนรอให้ฝนซาก็เถอะ แต่ถ้ายัยนั้นไม่สบายขึ้นมา ทันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีใจขึ้นมาหรอกนะ ถึงแม้ผมจะชอบแกล้งเธอก็เถอะ

 

----------

 

ผมวิ่งผ่านสวนสาธารณะ ที่อยู่ห่างจากไฮสคูลไปประมาณ 600 เมตร และรู้สึกว่า ฝนมันเริ่มจะตกหนักขึ้น บวกกับขาผมเริ่มจะเปียกเพราะน้ำฝนที่สาดกระเซ็นใส่ เลยต้องวิ่งเข้าไปพักในสวนสาธารณะนั้น ผมมองซ้ายมองขวา ก็เจอสนามเด็กเล่น ที่มีอุโมงค์พอที่จะใช้หลบฝนได้ จึงรีบเดินเข้าไป

 

ผมค่อยๆซุกตัวที่มีส่วนสูง 183 เซนติเมตร เข้าไปในอุโมงค์ มันแคบขึ้นมาถนัดตาเลยละ (- -)

 

ผมพับร่มวางไว้ข้างๆ และ...

 

"อ๊ะ!"

 

ผมหันไปมองข้างตัวทันทีที่ได้ยินเสียง

 

"ค...คุโระ?!"

 

ยัยคุโระมนสภาพเปียกปอน ราวกับลูกหมาตกน้ำ นั่งสั่นเทาอยู่ห่างจากผมไม่ถึง 20 เซนฯ

 

ทำไมผมถึงไม่เห็นเธอนะ?!

 

เธอมองผมด้วยท่าทีที่ตกใจพอๆกับผมที่เห็นเธอ

คุโระมีท่าทีลุกลี้ลุกลน และมองออกไปข้างนอกสลับกับมองด้านในอุโมงค์เด็กเล่นนี้

 

"จะออกไป..." เธอชี้ออกไปข้างนอก

"ก็เห็นอยู่ว่าฝนมันตก"ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

"..."คุโระก้มหน้าลง

"ถึงจะใช้ร่ม เธอก็ยังต้องเปียกฝนอยู่ดี ลมมันแรงออกขนาดนี้" ผมพูดเสริม

 

 

ร่างเล็กใช้มือเรียวสัมผัสผมที่ปรกข้างแก้ม ก่อนจะจัดการเห็บผมไว้ข้างหู จังหวะเดียวกันกับผมหันไปมองเธอ

 

แก้มของเธอเนียนมาก และมีสีขาวอมชมพู ซึ่งปกติ ผมหรือแม้แต่คนอื่นๆก็ไม่มีทางได้เห็น เพราะคุโระจะชอบปล่อยให้ผมยาวๆสีดำขลับนั้น ปกหน้าปกตาอยู่ตลอดเวลา

 

ผมคิดอะไรออกแ้ลวละ...หึหึ

 

-------

ผมเอื้อมมือไปดึงแว่นตาของเธอออกทันที คุโระถึงกับผงะจนหัวไปโขกเข้ากับผนังปูนด้านหลัง ผมเห็นดังนั้นก็อดขำไม่ได้

"เอาแว่นมานะ~ ฉัน มองไม่เห็น" คุโระพูดด้วยคำพูดที่ฟังดูเหมือนเด็กหัดพูด แต่เสียงเบา

"ว่าไงนะ" ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกวนๆ

"แว่น..." เธอพยายามคว้ามือไปทั่ว แต่ดูเหมือนตัวอะไรสักอย่าง

 

ก็ตลกดี...

 

คุโระนั่งนิ่งสักพัก พร้อมกับหรี่ตาในอุโมงค์เด็กเล่น ที่ตอนนี้มันมืดอยู่สักนิด ผมเห็นอย่างนั้น ก็อดขำไม่ได้ แต่ก็กลั้นขำจนตัวสั่นเหมือนกัน หึหึ

 

เธอขยับไปนั่งพิงผนังปูนด้านข้าง ก่อนจะปัดผมเปียกชุ่มออกจากคอ...

 

ซอกคอขาวนวล...

เสื้อสีขาวโดนน้ำ ที่รับกับทรวดทรง และอกอวบ เธอใส่เสื้อชั้นในสีครีมลายลูกไม้...

 

ผมสบัดหัวรัวๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าๆออกไป

 

...ตัวเล็กๆ แต่ทำไมหน้าอกดูจะเต็มไม้เต็มมือดีจัง

...อยากจับ

 

"อ่า!! คิดบ้าอะไรวะ!!"

ด้วยความลืมตัวผมกำแว่นคุโระจนแหลกคามือ...

 

แต่ใครจะสนละ เดิมที ผมก็จะโยนมันทิ้งอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะได้ยินเสียงของแว่นแตก

 

เสียงฝนออกจะดังขนาดนี้แท้ๆ นี่เธอเป็นตัวอะไร ทำไมถึงหูดีนัก

(¬_¬;)

 

เธอคว้าถูกมือผม ที่ตอนนี้เหลือแต่เศษแว่น ก่อนจะทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ เธอพยายามก้มมองเศษแว่น

 

ก้มต่ำเกินไป...

 

รู้สึกว่า ตอนนี้ ผมเริ่มจะอึดอัดตรงส่วนล่างขึ้นมาแล้วละครับ

 

------

จู่ๆ ผมก็ตะครุบเอวร่างบาง อย่างไม่รู้ตัวจนเธอล้มนอนหงายลง

 

"ร...โรว?!"

"แกล้ง...อย่างที่เคยทำไงละ"ผมกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

คุโระหน้าตื่น เธอเอ่ยเรียกผมพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุด แต่ยิ่งดิ้น ก็ดูเหมือนว่าผมจะได้กำไร เพราะก่อนเนื้อของข้างของเธอ มันเบียดกับอกของผม แถมยังถูไถเพราะการดิ้นแบบนั้น

 

- - - - -

 

ผมกดข้อมือร่างเล็กไว้กับพื้นแน่น พร้อมกับก้มลงซุกไซร้คอระหงอย่างอดใจไม่ไหว ก่อนจะใช้มืออีกข้างเล่นซุกซนกับหน้าท้องของคุโระ เธอยังคงเม้มปากไว้แน่น เพื่อสะกดกลั้นเสียงร้องเอาไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่อผมเริ่มลากลิ้นไปตามซอกคอขาว แล้วบีบคลึงอกอวบคู่นั้น

 

"ฮึก...อืออ~"

 

เธอครางค่ำในคอ ถึงผมจะได้ยินไม่ชัดนัก แต่เสียงเธอก็หวานใช้ได้เลยทีเดียว

 

"แกล้ง อะไรต่อดีนะ~" ผมขยับกระซิบข้างๆหูของเธอ ก่อนจะขบเม้มติ่งหูด้วยความหมั่นเขี้ยว

 

เธอได้แต่ส่ายหัว และดูมีอาการสั่นเทิ้ม ราวกับลูกแกะตัวน้อยๆ ที่กำลังจะโดนหมาป่าอย่างผมเขมือบ

 

...น่ารักเป็นกับเค้าด้วยแฮะ

 

พอนึกแบบนั้น ผมก็ไม่รีรอที่จะแกล้งยัยนี่ต่อ

 

ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเธอออกทีละเม็ด จนเผยให้เห็นอกอวบ ที่ดันชุดชัันในจนล้นออกมา

 

...อ่า~ ยัยนี่ซ่อนรูปหรอกหรอ ทั้งๆที่ตัวแค่นี้เอง เอวก็เล็ก ขาก็เล็ก ผิวยังเนียนขาวซะขนาดนี้

 

"ผิวเนียนดีนะ"ผมใช้หลังมือไล้ตั้งแต่ต้นคอขอลงเธอลงมาลูบวนที่หน้าท้อง "แต่เสียดาย ที่มันไม่มีรอย"

 

ฉับพลัน ผมก็โน้มตัวลงไปขบดูดตรงซอกคอขาว ลวมาเรื่อยๆถึงหน้าท้อง ทิ้งร่องรอยสีแดงไว้ทั่วร่างขาวนวลอย่างจงใจ

 

"อ๊ะ!...อื้ออ...ไม่ นะ~ อืออ~" ร่างเล็กเอ่ยเสียงแหบพร่า พร้อมกับบิดเร้าร่างไปมา ไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ แต่ไอ้การตอบสนองแบบนี้ มันทำให้อารมณ์ที่อยากจะแกล้งของผม แปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นซะแล้วละ

 

ผมเลื่อนมือ มาลูบเรียวขาขาว ค่อยๆลูบร่นขึ้นไปถึงขอบกางเกงใน

 

"ร...โรว หยุดนะ~"

 

อีกครั้งที่เธอเอ่ยชื่อผมเสียงแหบพร่า มันทำให้กำหนัดผมมันเริ่มพุ่งสูงขึ้น

 

ผมค่อยๆดึงรั้งกางเกงในของคนตัวเล็กออกมา กางเกงในสีขาวนวล

 

"ไอ้นี่ ขอนะ" พูดเสร็จ ผมก็รีบจัดการยัดกางเกงในไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที

 

"หยุด...แล้วเอาคืนมานะ" เธอช้อนตามองผมอย่างออดอ้อน แลดูเหมือนลูกแกะที่กำลังร้องขอชีวิต แต่ทำไงได้ละ ผมมันพวกดื้อดึงซะด้วยสิ

 

-------

 

"ว้าว~...ตรงนี้ยิ่งน่ากัด" ผมจับเรียวขาของอีกฝ่ายแยกอก โดยไม่สนใจคำขอ(ที่ดูเหมือนจะเป็นคำสั่งมากกว่า)ของคุโระ ก่อนจะไล่จูบจากตรงเหนือหัวเข่า แล้วขบดูด สลับเลียซ้ำรอยเดิม ร่นขึ้นมาจนถึงสะโพกมน และยังคงทิ้งร่องรอยของคิสมาร์คไว้จนทั่วขาอ่อน ร่างเล็กก็บิดเร้าพร้อมส่งเสียงครางกระเส่า ตอบสนองออกมาอย่างพึงพอใจ

 

...ส่วนน้องชายผม มันก็แข็งขืนจนผมเริ่มจะเจ็บขึ้นมาแล้วละ

 

"อือ...หยุดนะ ขอร้องละ~" ร่างเล็กปรือตามอง เอ่ยเสียงแหบพร่ากับผม

 

 

เสียงฝนที่ยังกระหน่ำไม่หยุด ยิ่งทำให้บรรยากาศมันเป็นใจยิ่งขึ้น

 

ผมค่อยๆจูบไปตามสะโพกกลึง มือลูบไล้ไปตามเรือนร่างอีกฝ่ายอย่างสะเปะสะปะ ก่อนจะตัดสินใจลงลิ้นระรัวกับจุดกระสันเสียวอีกฝ่าย

 

"อ๊ะ!!...อ๊ะๆ!...อื้ออ! ร..ร..โรว!"

 

ฉับพลัน เธอแอ่นเอวขึ้นรับอย่างรู้งาน พร้อมกับขยุ้มขยำเส้นผมและกดหัวผมลง

ผมใช้นิ้วกลางสอดเข้าไปในช่องทางสีหวานนั้น ก่อนจะเริ่มรูดนิ้วขยับถูไถกับผนังภายใน

 

...ยัยนี่ยังเวอร์จิ้น

 

 

ผมแทบจะหยุดชะงักครับ (; ̄Д ̄)

 

แต่...ขออีกนิดละกัน

 

 

ผมขยับแทรกเข้ามาตรงหว่างขาของเธอ ก่อนจะจับเรียวขาข้างนึงยกพาดบ่าไว้ แล้วโน้มหน้าลงไปประกบริมฝีปาก แต่เธอปิดปากแน่น

 

จูบไม่เป็นหรอ หรือยังไง ...

 

"อ้าปากสิ อย่าปิดปากแน่น" ผมสั่งเสียงเฉียบ ก่อนจะทาบริมฝีปากอีกครั้ง

 

เธอเผยอปากน้อยๆ

 

ผมค่อยๆสอดแทรกลิ้นน้อนเข้าไปกระหวัดเกี่ยวปลายลิ้นเล็กของเธอเชิงอยอกเย้า ส่วนมือที่ซุกซนของผม ก็ยังคงขยับสอดนิ้วดึงรูดเข้าออกที่ช่องทางของเธอ มันทั้งคับ และแน่นมาก จนผมไม่แน่ใจ ว่าควรจะเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปดีมั้ย...

 

ผมยังคงบดเบียดจูบเจ้าหาเธออย่างไม่ลดละ ด้วยแรงอารมณ์ที่พลุ้งพล่าน แต่ก็ต้องละปากออกก่อน เพราะผมเองก็ยังไม่อยากให้เธอขาดใจตายเสียก่อน

 

-------

 

"อืออ~..."ร่างเล็กส่งเสียงครางต่ำในลำคอ

 

ผมเริ่มจัดการกับไอ้น้องชายตัวใหญ่ภายใต้กางเกง ปลดเข็มขัด รูดซิปและปลดตะขอกางเกง ก่อนจะดึงร่นกางเกงลง จนเผยให้เห็นแก่นกายที่แข็งขืนเพราะอารมณ์ที่พลุ้งพล่าน

อารมณ์ที่ดูเหมือนจะควบคุมไม่อยู่ จนตอนนี้ ผมก็ไม่คิดว่าจะควบคุมมันได้อีกต่อไปแล้ว ผมค่อยๆกดส่วนปลายแท่งร้อนกับช่องทางอีกฝ่ายอย่างเบามือที่สุด...

 

ผมพยายามทำซ้ำไปมาหลายรอบ แต่มันไม่เข้า...( - -)

 

"อึ๊กก!....เจ็บบ อื้อออ!..ร โรวว"

 

จับยัดปากซะดีมั้ย...

 

"อื้อออ...ได้โปรด...ย หยุด เถอะ~ ฉันเจ็บ...~"

 

เสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ เมื่อส่วนหัวของแท่งร่อนพยาบามเบียดเข้าไปในช่องทางที่คับแคบ แต่มันไม่สามารถเข้าได้ ยิ่งทำ เธอยิ่งบิดเร้าร่างด้วยความเจ็บปวด บวกกับเสียงร้องที่บอกถึงความเจ็บ มากกว่ารู้สึกดี

 

 

...น้ำตาเธอ เริ่มไหลรินออกมา พร้อมกับในที่เริ่มจะซาลง และร่างกายเธอที่สั่นเทิ้มจนผมกลัวว่าเธอจะช็อคเอา

 

ผมหยุดการกระทำไว้ทั้งหมดแค่นั้น... (- -)

 

'อ้ากกก!!! ค้างว้อยยย!!!' ผมคิดในใจอย่างทนไม่ไหว ถ้าเธอไม่ร้องนะ! ฮึ่ยย!

 

ผมจัดการใส่เสื้อผ้าให้เธอ แน่นนอน กางเกงในผมไม่ให้คืนหรอก

 

และค่อยๆพยุงร่างเล็กขึ้นนั่ง และใส่กางเกงตัวเองให้เรียบร้อย รอจนฝนซา

 

"ขอโทษนะ...วันนี้ ฉันก็แกล้งแรงไปหน่อย" พูดจบ ผมก็รีบลุก ออกมา และกลับบ้านทันที ถึงจะเสียดาย แต่ผมก็ทำเกินไปจริงๆ นั้นแหละ ถึงผมไม่ใช่ผู้ชายที่ดี เคยมีอะไรกับผู้หญิงแบบไม่เลือกหน้ามาแล้วก็จริง แต่อย่างน้อย ผมก็ไม่เอากับผู้หญิงที่ร้องไห้ต่อหน้าผมหรอก

 

...ถึงอย่างนั้น ผมก็ต้องจัดการกับอารมณ์ที่มันค้างละนะ

 

------

 

3 วันแล้ว ที่คุโระไม่มาโรงเรียน ผมเริ่มไม่แน่ใจ ว่ายัยนั้นไม่มาเพราะป่วยหรือไม่มาเพราะเรื่องเมื่อ 3 วันก่อน

 

แต่ใครจะสนละครับ มันดีซะอีก ที่ไม่มีใครมากวนใจผม ไม่มีคนมาคอยขัดคอเวลาผมพูดกับสาวๆหรือเวลาผมโดนสาวๆรายล้อม ออกจะสบายใจ

 

พักเที่ยง ผมถือขนมปังกับนมกล่อง ขึ้นไปนั่งทานบนดาดฟ้า เพื่อหนีความวุ่นวาย ซึ่งอันที่จริง ผมก็ไปหาที่นอนนั้นแหละครับ ผมเอนตัวลงนอนกับพื้น ตามองดูท้องฟ้าที่มืดครึ้มอยู่สักหน่อย แต่ก็พอมีแสงแดดลอดผ่านจากกลุ่มเมฆมาได้บ้าง

 

ผมนึกถึงเรื่องเมื่อ 3 วันก่อน ก็อดเสียดายไม่หาย ถ้าคุโระสูงกว่านี้ เธอก็คงจะทำให้ผมสนใจได้บ้าง เพราะเธอดูสมบูรณ์แบบแทบทุกอย่าง ทั้งผิวกายก็ดูขาวเนียน ใบหน้าเล็กเรียวอดวงตากลมโต แถมดูสดใส ไม่ว่าอะไรก็ดีไปหมด...

 

รวมถึงเสียงคราง และปฎิกิริยา ที่ตอบรับไวขนาดนั้น...

 

แต่ยังไง ผมก็ชอบไม่ลงจริงๆ นิสัยอย่างกับพวกโรคจิต แอบตาม แอบมอง สตอล์คเกอร์ชัดๆ (_ _")

 

ผมลืมตาตื่นขึ้นมา อยู่บนตักของใครสักคน และรู้สึกถึงอะไรร้อนๆสอดแทรกเข้ามาในปาก

 

ผมกำลังโดนจูบ!

 

"อืม~..." เสียงของใครสักคน ครางต้ำมนคอ ก่อนที่จะไปกันใหญ่ ผมรีบลุกขึ้นมากระทันหัน จนหัวผมและเธอชนกัน

 

"ทำอะไรของเธอ?!" ยัยผู้หญิงที่มีปามิวเป็นไอดอล เธอแต่งตัวราวกับหญิงสาวจากย่านฮาราจุกุ เธอกำลังจูบผม!

 

"จูบค่ะ" เธอส่งสายตาหวานหยดเยิ้มมาให้ผม ซึ้งมันก็เลี่ยนมากเลยทีเดียว

"ขอโทษ ฉันไปก่อนละ" ผมรีบซอยเท้าเดินหนีอย่างไว ก่อนจะรีบลงจากดาดฟ้า

 

แย่ชะมัด รสจูบแย่ๆกับผู้หญิงแบบนี้ ไม่ชอบเลย ถ้าเป็นยัยคุโระ คงดีกว่านี้

 

...คุโระคงดีกว่านี้งั้นหรอ ?

 

 

ผมสบัดหัวไล่ความคิดเรื่องคุโระออกไป ผมทำแบบนั้อยู่สองครั้ง ไม่ว่าด้วยอะไร ผมก็ไม่นึกว่าคุโระจะดูดีไปเดินกว่าต้นถั่วงอก หรือพวกแม่มดสักนิดเดียว

 

--   Kuro part --

 

ชีวิตมันน่าเบื่อเสียจริง ฉันเป็นพวกที่มองโลกในแง่ร้ายมาก รวมถึง "โรว" ฉันไม่เคยมองว่าเค้าเป็นมนุษย์ที่ดีเลยด้วยซ้ำ เค้าเป็นผู้ชายที่น่ารำคาญ และไม่น่าเกิดมาบนโลกในนี้ เค้าชอบแกล้งฉัน แกล้งจนกระทั่งร้องไห้ก็ทำอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งเค้าก็หัวเราะเยาะด้วยความสะใจ ฉันเกลียดเค้า...

 

วันจันทร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย ทั้งเรื่องฝูงลิงป่า ที่ยืนออกันอยู่หน้าอาคารเรียน ตรงหน้าห้องสมุดที่ฉันต้องเข้าไปจัดการธุระ และไหนจะยูกิโรว ที่บีบข้ามือฉันจนแดงก่ำ หมอนั้น คิดแต่จะแกล้ง

 

แต่ทำไมฉันละสายตาจากเค้าไม่ได้นะ...

 

ขณะตะกลับบ้านฉัน ฉันก็พอจะรู้ ว่าฝนมันต้องตก เพราะเมื่อช่วงพักเที่ยง ฉันไปนั่งหลังโรงเรียน และเห็นมดดำจำนวนมาก ทยอยขนไข่ขึ้นไปไว้ในที่สูง

 

อ่า...มันเป็นวิธีสังเกตสภาพอากาศ ที่ฉันไปอ่านเจอในตำราแม่มด

\( ̄▽ ̄)/

 

ฉันที่กำลังจะก้าวท้าวออกจากอาคารเรียน จู่ๆก็เหลือบไปเห็นโรว ที่ทำหน้าตาอย่างกับคนปวดหนัก อยู่หน้าล็อกเกอร์ ถ้าให้เดา เค้าคงหงุดหงิดกับสภาพอากาศ เพราะแต่ไหนแต่ไร หมอนี่ก็ไม่ชอบฝนตกเท่าไรนัก

 

...ถ้าไม่ใช่เพราะรู้จักกันมานาน ฉันคงไม่รู้ว่าหมอนี่ทำหน้าบึ้งตึงทำไม

 

ยังไงซะ บ้านเราก็ทางเดียวกัน จะใช้ร่มด้วยกัน ก็คงไม่เป็นไร

 

ฉันเดินตรงไปหาเค้า และคิดชั่งใจอยู่สักพัก ก่อนจะยื่นร่ม...ไม่สิ เอาร่มแทงหลังหมอนี่เพื่อสกิด เมื่อเค้าหันหมา ก็ชักสีหน้าใส่

 

ฉันทำอะไรไม่ถูก เลยรีบส่งร่มให้แล้ววิ่งหนีออกมา...

 

นี่เราเอาร่มให้หมอนั้นไปเลยงั้นรึ?!

 

ฉันรีบวิ่งเข้ามาหลบในอุโมงค์ตรงสนามเด็กเล่น ที่ตอนนี่ ดูจะปลอดภัยที่สุด ร่างกายที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ทำให้เสื้อนักเรียนสีขาว แนบกับเนื้อ จนเห็นไปถึงไหนต่อไหน

 

ฉันก็อายนะ...

 

ผ่านไป 10 นาที ฉันที่เกือบจะหลับ ในสภาพเปียกปอน จู่ๆก็ต้องสะดุ้งขึ้นมา เพราะเสียงของใครสักคน

 

'โรว!?'

 

อึดอัด...อยากออกไปเต็มทน ถ้าหมอนี่เห็นฉันในสภานี้ เค้าต้องหัวเราะแน่ๆ!

 

ฉันคิดอย่างนั้น...แต่มันไม่ใช่ เพราะตอนนี้ เค้ากำลังจะปล้ำฉัน!!

 

กลัว...

 

ฉันพยายามดิ้น ทุบอกกว้างของอีกฝ่าย แต่เมื่อถูกมือหนาคู่นั้นสัมผัส ฉันก็ระทวยโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

"อึ๊กก!..."

 

ฉันกัดปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง เมื่อรู้สึกถึงอะไรแข็งๆสักอย่าง เสียดสีและพยายามสอดแทรกเข้ามาตรงช่องทาง

 

ฉันเจ็บ...ฉันกลัว...

 

สิ่งนั้นพยายามเบียดเข้ามาอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนฉันทนไม่ไหว ปล่อยให้น้ำใสอุ่นๆไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้าง

 

ตัวของฉันสั่นเทิ้ม ...

ฉันกลัวโรว...

 

"ขอโทษ" โรวกล่าวขอโทษ และอีกหลายประโยคที่ตามมา แต่ฉันหูอื้อจนไม่ได้ยินอะไร และเค้ากิ่งจากไปพร้อมกับสายฝน

 

และฉันก็เป็นไข้ ลุกไม่ขึ้นอยู่ 3 วัน...

 

 

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว