ณ เมืองหยี่ไห ฤดู เหมันต์
กลางดึกคืนนั่นเป็นวันที่มีงานฉลองของการกลับมาของเหล่าทหารที่ไปสู้รบบางคนฉลองเพราะความดีใจที่บุตรหรือชายหนุ่มที่อยู่ในตระกูลกลับมาและบางคนกลับได้ไปฝังศพคนในบ้านตนเองอย่างเงียบเฉียบ
“เห้ย ทั้งๆที่หลายๆคนในหมู่บ้านต่างพากันดีใจเพราะได้เจอคนในบ้านที่ออกไปเป็นทหารกลับมาแต่ทำไมเจ้าถึงมานั่งทำหน้าตาเช่นนี้เล่า”ต้าเว่ยพูดขึ้นพรางเอาขนมไหว้พพระจันทร์ขึ้นมาทานอย่างสบายใจก่อนที่จะมองมาที่คนที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ข้างๆ
“ทั้งทีทหารคนอื่นๆกลับมากันตั้งเยอะแล้วแท้ๆทำไมพี่ใหญ่ไม่กลับมาเสียที ข้าเริ่มใจไม่ดีแล้วนะต้าเว่ย”ฉางซีเอ่ยออกมาก่อนที่จะทอดถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าสลด นั่นทำเอาต้าเว่ยกินขนมไหว้พระจันทร์ไม่ลงเลยทีเดียว
“อย่าคิดมากเลยน้องฉางซีเดียวข้าจะช่วยตามหาพี่ใหญ่ให้เจ้าเอง แต่ก่อนจะตามหาเจ้าช่วยข้าลงไปจากหลังคาบ้านได้หรือไม่ข้ากลัว”ต้าเว่ยเอ่ยออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าฉางซีจะหัวเราะเพราะขึ้นได้แต่ลงไม่ได้
“อุ ฮ่าฮ่าฮ่า ต้าเว่ยแล้วท่านขึ้นมาได้เยี่ยงไรเล่า เฮ้ย ท่านขึ้นเยี่ยงใดก็ลงเยี่ยงนั่นแหละขอรับ”ฉางซีหัวเราะออกมาก่อนที่จะถอนหายใจแล้วพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะมองไปทางบึงบัวแห่งหนึ่ง
“ย อย่าหัวเราะสิก็ข้ากลัวนี่น่าตกลงเจ้าจะช่วยข้าหรือไม่”ต้าเว่ยเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำก่อนที่จะหันหน้าไปทางอื่น
“ช่วยสิขอรับแต่ท่านหน้าแดงจังเลยนะขอรับหรือว่าเมาแล้ว ถ้าเมาแล้วท่านควรกลับบ้านไปนอนเสียข้าก็เริ่มง่วงแล้ว”ฉางซีเอ่ยขึ้นพรางเดินมาโอบเอาเอวของต้าเว่ยก่อนที่จะโดดลงจากหลังคาบ้านอย่างชำนาญ
“ข ข้ากลับก่อนนะ ฝันดี”ต้าเว่ยหน้าแดงขึ้นมากกว่าเดิมก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปจากบ้านของฉางซีส่วนฉางซีก็รีบเข้าบ้านไปเพราะหมอกเริ่มลงแล้ว
“หวังว่าพรุ่งนี้ข้าจะได้ข่าวท่านบ้างนะท่านพี่”ฉางซีเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเพลอหลับไป
เช้าวันต่อมา ยามเฉิน(เวลาประมาณ 07:00-08:59 น.)
“นี่อาฉางเจ้าทานเถอะๆหน่อยสิ แม่รู้ว่าเจ้าเป็นห่วงพี่เจ้าแม่ว่าอาหยุนมิเป็นอันใดหรอกอ่ะนี่เกี๊ยวปูของโปรดเจ้า”อันฮูหยินเอ่ยขึ้นเมือเห็นฉางซีเอาแต่เขี่ยข้าวเล่นก่อนที่จะยกจานที่ใส่เกี๊ยวปูอยู่ยกไปวางตรงหน้าฉางซี
“ข้าทานไม่ลงจริงๆขอรับท่านแม่ ขนาดอ่านตำราตั้งสามรอบยังไม่เข้าใจสักนิดเลย”ฉางซีเอ่ยขึ้นพรางเบือนหน้าหนีจานเกี๊ยวปูก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอกบ้านด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
“เฮ้ย ข้าคงจะต้องหาเมียมาให้เจ้าเองเสียแล้วมั้ง ซือซือเจ้าไปตามแม่สื่อมาให้ข้าหน่อยนะ”อันฮูหยินเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินหนีไปนั่งที่อื่น
ด้านฉางซี
ฉางซีเดินคิดเรื่องราวต่างๆอย่างสงสัย เพราะเหตุอันใดเค้าถึงต้องอารมณ์ไม่ดีเสมอเมื่อเวลาที่หยุนซุนหรือพี่ใหญ่ของเค้าไม่อยู่บ้าน จู่ๆความคิดนั่นก็ต้องหยุดชงักลงเมื่อฉางซีสังเกตุเห็นใครบางคนกำลังก้มๆเงยๆอยู่แถวลำธาร
“คุณหนูเหม่ยเหม่ยสวัสดี ท่านสบายดีไหมขอรับ”ฉางซีเดินไปแตะไหล่ของเหม่ยเหม่ยลูกของเศรษฐีแถวบ้านดูเหมือนเธอจะตกใจก่อนครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน