คืนที่นอนไม่หลับ
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องเล่าเขย่าขวัญมามากมายฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยได้ฟัง แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้เชื่อโดยสนิทใจ จนกระทั่งเหตุการณ์สยองขวัญครั้งหนึ่งเกิดขึ้นกับฉัน ตอนที่เรียน จบมัธยมปลาย ฉันเป็นเพียงแค่เด็กสาวบ้านๆธรรมดา เติบโตแถวชนบท กำลังเตรียมที่จะเข้ามหาลัย แล้วฉันก็ได้มีโอกาสได้ไปทำงาน ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง ญาติที่รู้จักช่วยฝากงานให้พร้อมกับเพื่อนอีกคน ฉันเห็นว่าปิดเทอมนานทั้งที่น่าจะช่วยแม่หาเงินได้บ้าง จะเรียกว่าโชคดีก็ได้เพราะตอนอยู่ที่นั้นใช้ได้เงินมาพอสมควร แต่ทว่าวันแรกที่ไปเหยียบที่นั้น ฉันก็ต้องเจอกับเรื่องน่าขนลุกตั้งแต่ที่ย่างเท้าเข้าไปเลย วันที่เดินทางไปถึงฉันกับเพื่อนนั่งรอญาติที่กำลังไปทำเรื่องขอห้องพักให้ ตอนนั้นเองฉันไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ทว่านั่งไปสักพักกลับรู้สึกว่าอากาศมันเย็นผิดปกติทั้งที่ข้างนอกแดดร้อนตั้งแต่เช้า ฉันเหนียวตัวแล้วก็อยากอาบน้ำมาก พอญาติพาไปที่ห้องพักพนักงานที่โรงแรมจัดให้เพื่อนกับฉันก็เก็บของเข้าที่ ตอนที่เปิดประตูห้องเข้าไปภาพที่เห็นคือ ห้องเป็นทางยาว ภายในมีเตียงอยู่หกเตียงแล้วก็ตู้เหล็กไว้เก็บของ ทั้งที่อากาศด้านล่างเย็นขนาดนั้น แต่ในห้องกลับทั้งอับทั้งร้อน ฉันสังเกตุดูแล้วทั้งที่ฝั่งห้องที่ฉันอยู่ไม่ค่อยจะโดนแดดด้วยซ้ำ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ญาติให้ฉันพักก่อนที่จะเริ่มงานฉันเหนื่อยจาการเดินทาง ในห้องก็มีพัดลมแค่ตัวเดียวฉัน เลยอาบน้ำแล้วนอนพัก โดยที่หันหัวไปทางปลายเตียงเพื่อจะได้โดนพัดลม ตอนนั้นฉันหลับไปแล้วตื่นอีกที่ตอนเย็นประมาณห้าโมงได้ หลังจากนั้นพออาบน้ำตอนที่จะเข้านอนอากาศก็เย็นๆ ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนเมื่อตอนกลางวัน ฉันไหว้พระก่อนนอนแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร พอปิดไฟนอนสักพัก ฉันร้อนจนเหงื่อท่วมตัวรู้สึกตัวจะลุกไปเปิดพัดลมให้แรงขึ้นกลับเห็นเงาดำๆอยู่ที่ปลายเตียงตอนนั้นฉันคิดว่าตัวเองตาฝาด เลยเอาผ้าห่มมาคลุมโปงสักพักก็เผลอหลับ แต่ทว่าเรื่องมันไม่จบแค่นั้นจู่ๆผ้าห่มก็ถูกดึงออกแล้วฉันก็ขยับตัวเองไม่ได้ ฉันหายใจไม่ออกแล้วพยายยามที่จะส่งเสียงเรียกเพื่อนแต่เหมือนว่าเธอไม่ได้ยิน ฉันตัดสินใจลืมตาเพื่อให้รู้ว่าตัวเองฝันอยู่รึเปล่าแล้วสิ่งที่ฉันเห็นตรงหน้าคือร่างของหญิงชราที่กดทับอยู่บนอกฉัน จ้องมาที่ฉัน แลบลิ้นไปมา นัยน์ตาของเธอลึกโบ้ ฉันกลัวมากแต่ตอนั้นทำอะไรไม่ได้เลยฉันพยายามสวดมนต์ พยายามที่จะเปล่งเสียงแต่ไม่เป็นผล หญิงแก่ที่นั่งอยู่บนอกกลับหัวเราะลั่นก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพยายามดิ้นสุดชีวิตทันใดนั้นราวกับฉันจะหลุดพ้นจากการถูกหมด ฉันใช้นิ้วจิ้มไปที่เบ้าตาลึกโบ้ของหญิงชรา ความรู้สึกตอนนั้นมือฉันเย็นยะเยือก ขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเธอกรีดร้องด้วยความเจ็บและขณะที่เธอพยายามจะบีบคอฉัน ฉันถีบเธอตกเตียงตอนนั้นเองฉันเองก็ตกเตียงเช่นกัน คืนนั้นฉันลุกไปนอนกับเพื่อน เช้าวันต่อมาฉันกับเพื่อนต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า ฉันเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกฉันว่าเมื่อคืนเพื่อนฉันได้ยินเสียงฉันละเมอและดิ้นตลอด ตัวเพื่อนฉันเองก็รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่อยากพูดเพราะกลัวว่าฉันจะกลัว เธอบอกว่าตั้งแต่ตอนเข้ามาในหอพัก ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ที่ชั้นสองตลอดตอนที่เราสองคนรอกุญแจ แต่ช่วงเช้าแบบนั้น คนที่เข้ากะตอนเช้าคงไปหมดแล้ว แล้วกะกลางคืนก็คงจะหลับเสียมากกว่า เย็นวันนั้นฉันกับเพื่อนลงไปถามป้าที่ขายข้าวอยู่ล่างหอว่าเคยมีคนเจอผีมั้ย ป้าแกก็บอกว่าเคยมีนักศึกษาฝึกงานเจอบ้าง แต่ว่าพอเริ่มมีคนรู้มากบ้างก็หาว่าฉันโกหก บ้างก็ว่าเรียกร้องความสนใจ ด้วยความที่เป็นเด็กก็เล่าไปตามที่ผู้ใหญ่ถาม ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่ได้ว่าอะไร ฉันกับเพื่อนเลยนั่งรถไปตลาดซื้อดอกไม้น้ำแดงของหวานมาไหว้เจ้าที่ เพราะวันแรกที่เข้ามาก็ไม่ได้ไหว้ คืนนั้นเองฉันสวดมนต์ก่อนนอนตามเคย แต่แล้วฉันก็ไปสะดุดกับพวงมาลัยแห้งๆบนหัวเตียงเมื่อวานตอนที่นอนฉันเข้ามาไม่เห็นเลยว่ามันแขวนอยู่ตรงนั้น ฉันขนลุกบอกไม่ถูก ตอนนั้นคิดแค่ว่าฉัน ไปหลบหลู่อะไรเข้ารึเปล่า คืนนั้นฉันขอนอนกับเพื่อนแล้วพอหลับได้สักพักฉันก็รู้สักว่าอากาศมันหนาวๆ ขนลุกอีกตอนนั้นพยายามไม่คิดอะไรแล้วก็เอาผ้าห่มคลุมโปง คืนนั้นฉันฝันว่ามีชายแก่ชุดขาวยื่นมองแลยิ้มมาให้ฉัน ตอนเช้าฉันกับเพื่อนก็ไปทำงานปกติตกเย็นฉันเลยเล่าเรื่องความฝันให้เพื่อนฟัง ผ่านไปอีกวันสองวันตอนที่ลงไปซักผ้าด้านล่างหอฉันรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องฉันอยู่ ตอนนั้นเองไม่ได้คิดอะไร แต่ว่าตอนที่หันหลังจะกลับขึ้นหอก็เหมือนมีลมเย็นๆพัดมาที่แผ่นหลัง ฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัวก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นหอ วันต่อมาพี่พนักงานคนหนึ่งมาถามเรื่องที่ฉันเจอเหตุการณ์แปลกๆ ตอนนั้นเองพี่เขาเลยถามว่าฉันไปไหว้เจ้าที่ทั้งหมดรึยัง ตอนนั้นฉันก็คิดว่าก็ไปไหว้หมดแล้วนี้ก็เห็นมีศาลที่ทางเข้าที่เดียว พี่คนนั้นบอกว่าไม่ ยังมีศาลเก่าอีกที่ตรงด้านหลังหอพักใกล้กับที่ซักผ้านั้นแหละ ฉันรู้สึกหนาวขึ้นมาเลยตอนนั้น พอเลิกงานเดินไปดูก็มีศาลจริงๆ เป็นศาลเก่าๆที่พังแล้ว ฉันกับเพื่อนเลยไปซื้อน้ำแดงมาไหว้เพื่อให้สบายใจ นับตั้งแต่นั้นฉัน ไม่เจออะไรที่หน้ากลัวอีก อาจจะมีบ้างแต่ก็พยายามคิดว่าคิดไปเอง แล้วตั้งแต่นั้นตลอดเวลาที่ไปทำงานฉันก็นอนกับเพื่อนตลอดเผื่อว่าคืนไหนที่ฝันร้ายจะได้ไม่ต้องนอนคลุมโปงคนเดียว…