หลีฮว๋าสาวงามแห่งรัฐฉิน
เรื่องเล่านี้มีผู้คนน้อยมากที่จะรู้ คนส่วนใหญ่มักจะรู้จัก 4 สาวงามของจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า มี 4 คนที่ขึ้นชื่อมีนามว่า
•คนแรกนามว่า ไซซี นางได้รับฉายาว่า "มัจฉาจมวารี"
•คนที่สองนามว่า หวังเจาจวิน นางได้รับฉายาว่า "ปักษีตกนภา"
•คนที่สามนามว่า เตียวเสียน นางได้รับฉายาว่า "จันทร์หลบโฉมสุดา"
•คนที่สี่นามว่า หยางกุ้ยเฟย์ นางได้รับฉายาว่า "มวลผกาละอายนาง"
แต่ความจริงนั้นยังมีอีกหนึ่ง คนที่ประวัติศาสตร์จีนไม่ได้จดบันทึกหลังจากนางได้เป็นที่โปรดปรานของจิ๋นซีฮ่องเต้แล้วนางก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งสาวงามคนที่ห้านี้ เธออยู่ในยุครัฐฉิน สมัยฉินอ๋องเจิ้ง หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ นางมีนามว่า หลีฮว๋า เป็นคนเมืองเสียนหยาง ในยุคนั้นสาวงามผู้คนมักนึกถึงจ้าวจี๋ หรือจูจี แต่สมัยฉินอ๋องเจิ้งหลีฮว๋าคนนี้งามมากถึงขนาดได้รับฉายานามว่า "กระบือตกภวังค์ " คือเรื่องมันมีอยู่ว่า หลังจากฉินอ๋องเจิ้งรวบรวมหกแคว้นทำให้แผ่นดินเป็นปึกแผ่นแล้วได้มีการคัดสาวงามจากทุกหนทุกแห่งเข้ามาในวัง เพื่อคัดเลือกให้มาเป็นพระสนมของฉินอ๋องเจิ้งหนึ่งในนั้นคือหลีฮว๋านางได้รับคัดเลือกเข้าไปในวัง แต่หลังจากนางได้เข้าไปอยู่ในวังแล้วใช่ว่านางจะได้เป็นคนโปรดของฉินอ๋องเจิ้งโดยทันที เพราะว่ามีสาวงามมากมายต่างแย่งชิงหน้าที่สาวงามเพื่อจะมาเป็นคนโปรดปรานขององค์ฮ่องเต้ แต่ด้วยบุพเพสันนิวาส หรือวาสนาของหลีฮว๋า ซึ่งนางได้เข้ามาในวังจะได้ 1ปี แต่นางมิเคยได้พบพระพัตร์ขององค์ฉินอ๋องเจิ้งเลย มีอยู่วันหนึ่งนางได้เล่นว่าวกับสาวใช้ของนาง และว่าวนั้นได้ลอยตกไปหาฉินอ๋องเจิ้ง ทันทีนั้นขันทีคนสนิทได้พูดออกมาว่า ?!"ใครบังอาจมาเล่นว่าวที่อุทยานส่วนตัวของพระองค์" ด้วยความที่หลีฮว๋าเป็นสาวชาวบ้านธรรมดาที่แตกต่างจากลูกสาวขุนนาง และธิดาของเชื้อพระวงศ์องค์อื่นๆ หลีฮว๋านางมีนิสัยที่ร่าเริง สดใสแบบหญิงสาวชาวบ้าน ยิ้มเก่ง ช่างพูด นางเลยพูดว่า ว่าวของข้าพเจ้าเองเพคะ ด้วยที่นางไม่เคยพบเจอพระพักตร์ฉินอ๋องเจิ้งนางไม่รู้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านางนั้นคือใคร หลีฮว๋าจึงยิ้ม และพูดขอโทษ ขันทีทำหน้าดูดันจึงพูดขึ้นว่า ผู้ชายที่พูดด้วยนั้นคือ องค์ฮ่องเต้ หรือฉินอ๋องเจิ้ง หลีฮว๋าได้ยินอย่างงั้นเลยตกใจ นางจึงกราบขออภัยโทษ จากนั้นนางจึงยิ้มอย่างดีใจ และพูดว่าหม่อมฉันดีใจที่ได้พบพระองค์เพคะ คืนนี้หม่อมฉันจะต้องนอนหลับฝันดีแน่นเลยเพคะ ฉินอ๋องเจิ้งได้ยินอย่างงั้นจึงแปลกใจแล้วจึงถามนางว่า เพราะอะไรเล่าจึงฝันดี หลีฮว๋าส่งยิ้มแบบอายๆ ให้ฉินอ๋องเจิ้งนางไม่พูดสิ่งใดกลับนางได้แต่ขอทูลลาและวิ่งจากไปด้วยที่ว่านางอายฉินอ๋องเจิ้งที่ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก.... นับจากวันนั้นมาฉินอ๋องเจิ้งจึงบอกขันทีคนสนิทของพระองค์ให้ไปเชิญตัวหลีฮว๋าเข้าเฝ้า ในที่สุดนางก็ได้เป็นคนโปรดปรานของฉินอ๋องเจิ้ง และมีฉายาว่า" กระบือตกภวังค์ " นั้นได้มาตอนที่ฉินอ๋องเจิ้งได้เสด็จออกนอกวังแล้วได้ผ่านทุ่งนาที่มีกระบือเคี้ยวหญ้าอยู่ด้วยที่ทิวทัศน์ของหมู่บ้านเล็กๆ นั้นสวยงามมากจนหยุดพักหลีฮว๋าจึงได้ลงจากเกี้ยวแล้วเดินไปที่ทุ่งนาไปพบกระบือตัวหนึ่งกำลังเคี้ยวหญ้าอยู่หลีฮว๋าเห็นจึงนำหญ้าไปให้กระบือเคี้ยวกิน แต่พอกระบือตัวนั้นเห็นหลีฮว๋าก็ตกใจหยุดนิ่งเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ส่วนฉินอ๋องเจิ้งเดินมาเห็นพอดีพระองค์จึงตรัสว่า ความงามหลีฮว๋าของข้าทำให้กระบือตกอยู่ในภวังค์เลยหรือนี่ พระองค์ทรงพระสรวลหลีฮว๋าเห็นดังนั้นจึงตรัสขึ้นว่าหม่อมฉันมิได้งามขนาดนั้นหรอกเพคะ แต่หม่อมฉันคิดว่าต่อจากนี้ไปหม่อมฉันขอตั้งปณิธานว่าจะไม่ขอทานเนื้อสัตว์ใหญ่ทุกชนิดอีกตลอดชีวิตของหม่อมฉันเพคะ ฉินอ๋องเจิ้งได้ฟังดังนั้นจึงพูดขึ้นเจ้านี่มีจิตใจงดงามเหมือนหน้าตาของเจ้าทำให้ข้ามีความปิติในตัวเจ้านัก นางจึงเป็นคนโปรดของพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ พระองค์จึงมอบของล้ำค่าของพระองค์ให้หลีฮว๋าคือ "จี้หยก"ที่ได้มาจากหยกมรกตของฉินอ๋องเจิ้งทำให้หลีฮว๋าขึ้นเป็นนางใน และพระสนมองค์อื่นๆ ต่างพากันอิจฉาริษยายิ่งนักประกอบกับว่าขุนนางเห็นว่าความงามของหลีฮว๋า แล้วการที่นางได้เป็นคนโปรดปรานขององค์ฮ่องเต้จะทำให้รัฐฉินล่มสลายเพราะนางเป็นแน่นจึงได้วางแผนฆ่าหลีฮว๋าอย่างลับๆ หลังจากนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าการตายของหลีฮว๋าทำให้ฉินอ๋องเจิ้งเสียพระทัยมาก และได้เปลี่ยนนิสัยพระองค์ไปตลอดพระชนม์ชีพ ฉินอ๋องเจิ้งกลายเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ความลับของราชวงค์ฉินยังมีอีกมากมายที่คนรุ่นหลังหรือแม้แต่นักประวัติศาสตร์ไม่รู้ยังมีอีกมาก เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น