กรุ่นไอรักบ้านทุ่ง
----------
ข่าวที่ว่า เหล่าเศรษฐีถูกโจรปล้นบ้านแพร่สะพัดไปทั่วทั้งตำบล
ใครมีเงินทองในระดับที่มั่งคั่งต้องระวังให้จงหนัก
หากขุดหลุมฝังไหทองคำได้..ก็จงขุด
หรือถ้าย้ายออกจากหมู่บ้านได้..ก็ยิ่งดี
บางคนบอกว่าพวกมันเป็นโจรผี ทำงานไม่ทิ้งร่องรอย
บางคนเล่าว่าพวกมันปล้นคนรวยแล้วนำเงินไปช่วยคนจน
อย่างไรก็ตาม
ไม่เคยมีใครรู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร
...เช่นเดียวกับที่ไม่รู้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นคือใคร !
...
แต่ความลับไม่มีในโลก
เมื่อทางการประกาศออกมาว่าปลัดคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่อำเภอ
ใช้ดาบฟันที่หน้าอกของหนึ่งในกลุ่มโจรที่ออกปล้นเมื่อคืนนี้
ดังนั้น ใครที่มีแผลถูกฟันหรือใครที่หายหน้าออกไปจากหมู่บ้าน...
มันคนนั้นคือโจร !
...
และ โทน คือคนที่แสดงอาการ...
ชายหนุ่มนอนซมเพราะพิษบาดแผลอยู่หลายวัน
จนกระทั่ง กำนันกับพรรคพวกบุกมาที่บ้าน
เขาหอบร่างไปหลบที่ชายป่าท้ายสวน
รอให้ยายตอบคำถามจนเป็นพอใจแก่คนพวกนั้นเสร็จ จึงออกมาอีกครั้ง
หนี...คือทางออกเดียวที่ชายหนุ่มนึกออก
แต่จะให้โทนหนีไปไหน หนีไปได้อย่างไร
ในเมื่อมีข่าวที่ว่า คำแพง แฟนสาวของเขาถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงาน...กับปลัดอำเภอคนใหม่ !
*❤*❤*❤*
"เอ็งจะหนีไปกับพี่ไหม?" ถามขึ้นทันทีที่พบหน้าสาว นึกขอบคุณที่เธอยอมมาตามนัดทั้งที่เขาขาดการติดต่อไปนานหลายวัน
"พี่โทนจะหนีไปอยู่ที่ไหน?" เธอเองก็เป็นห่วงเขาไม่น้อย เมื่อได้ยินข่าวว่าชายคนรักคือสมาชิกโจรที่ถูกฟัน หญิงสาวก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ได้แต่เฝ้ารอให้เขาติดต่อมา...
"เข้ากรุงเทพฯ เขาว่าที่นั่นกว้างใหญ่ คงพอหลบซ่อนได้นานจนคดีเงียบ" พูดตามที่ยายเล่าให้ฟัง ทั้งที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยเห็นมันเลยสักครั้ง
"..."
"เอ็งจะไป...กับพี่ไหม?"
เมื่อหญิงสาวนิ่งไปนาน
ความมั่นใจของคนหนุ่มก็ลดน้อยลงพอ ๆ กับน้ำเสียงที่แผ่วเบา "หรือถ้าเอ็ง.."
"ไปจ้ะ พี่โทนไปไหน คำแพงก็จะไปด้วย"
มือที่กุมอยู่กระชับแน่นแทนคำมั่นสัญญา สองร่างโผกอดกันท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า
ขอให้ความรักของเราเป็นเครื่องนำทาง...
###
ชีวิตใหม่ของโทนและคำแพงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยทั้งสองไม่รู้เลยว่าการหนีเข้ากรุงของตนนั้นจะสร้างความลำบากให้ผู้หญิงอีกคน
ร่างเล็กหาบถังใส่น้ำที่ไปตักมาจากบ่อน้ำท้ายหมู่บ้าน เธอเดินกึ่งวิ่งไปตามทางดินเพื่อทำเวลา
หาบน้ำไปเติมใส่โอ่งไว้ให้ย่าอาบ เสร็จแล้วก็ต้องไปฝ่าฟืนเอาไว้ก่อไฟทำอาหาร
การที่พี่ชายผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องหนีไปเช่นนี้ ทำให้งานหนักต้องตกมาอยู่ที่เธอคนเดียว แต่นั่นยังไม่หนักเท่าปัญหาที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า !
"ล้อมมันไว้!" เสียงห้าวของชายหัวโจกดังขึ้นเมื่อเธอปรากฏกายพ้นจากมุมป่าละเมาะ คำสั่งนั้นเป็นผลให้ลูกน้องของเขากรูกันเข้ามาล้อมตัวหญิงสาวเอาไว้โดยพร้อมเพรียง
ขมิ้นยืนนิ่ง ไม่กล้าวางถังน้ำลงกับพื้น เพราะกลัวว่าพวกมันจะเตะถังจนกลิ้งเหมือนคราวที่แล้ว
เมื่อไม่อยากไปตักน้ำใหม่อีกหน หญิงสาวก็ต้องทนหาบความหนักนี้เอาไว้ รอจนกว่าไอ้หัวหน้าก๊วนจะเดินนวยนาดเข้ามาถึง...
ถุ๊ย !
และเมื่อไอ้คนที่ว่าเดินมาใกล้ มันก็ถ่มน้ำลายใส่ถังน้ำของเธอเป็นการเปิดงาน จากนั้นลูกน้องทั้งหลายก็มีพฤติกรรมเลียนแบบทันที
"หยุดนะ!" หญิงสาวที่ตกใจกับการกระทำอันกักขฬะได้แต่หันไปมาโดยที่ทำอะไรไม่ได้
น้ำในถังสังกะสีเริ่มกระฉอกตามแรงเหวี่ยงของคนตัวเล็ก มันเปียกตามตัวของเธอจนนำไปสู่การจุดประกายความคิดให้แก่ชายตัวต้นเรื่อง
ดำเกิงลอบยิ้มกับความคิดนี้ มือใหญ่เอื้อมไปปลดถังใบหนึ่งออกจากไม้คาน ทำให้ความสมดุลบนบ่าเล็กหายไป
เคร้ง !
เธอล้มลงตามน้ำหนักของถังข้างที่เหลือ ร่างเล็กทับถังน้ำจนบู้บี้ และไม่ทันจะได้ตั้งรับกับเหตุที่เกิด น้ำจากถังที่ถูกแย่งไปก็ราดลงมาบนศีรษะของเธอทันที...
"นี่คือโทษที่มึงช่วยให้ไอ้โทนพาน้องคำแพงหนี..." มันว่า ก่อนจะโยนถังลงข้าง ๆ ตัวเธอ...เฉียดหน้าไปเพียงนิดเดียว
~❤~❤~❤~❤~
กรุ่นไอรักบ้านทุ่ง คือ นิยายที่จู่ ๆ พล็อตเรื่องก็แว้บเข้ามาในหัวของไรท์โดยไม่ทันตั้งตัว อารมณ์เรื่องดูคล้ายสลับรัก เดิมพันแค้น แต่ไรท์เชื่อว่าจะไม่เหมือนนะเออ (อิอิ) เรื่องนี้ไรท์ตั้งใจจะทำพระนางสองคู่ สลับฉากไปมาระหว่างกรุงเทพฯ ที่โทนพาแม่หนูคำแพงหนีไป กับบ้านทุ่งที่ขมิ้นต้องอยู่รับมือกับไอ้ดำเกิงจอมป่วน นี่ถือเป็นความแปลกใหม่สำหรับไรท์ จากที่เคยเขียนคู่เดียวมาโดยตลอด (หรือต่อให้มีคู่รองก็เพียงเล็กน้อย) คราวนี้จะมาทำเรื่องท้าทาย โดยการควบสองฉากที่แตกต่างกัน ! โอ้ววววว จะรอดไหมเจ๊ !!! ดังนั้น ดังนี้ ไรท์จึงขอวอนนักอ่านที่หลงเข้ามา...เป็นกำลังใจให้ฝนย้อยด้วยนะคะ อ้อน ๆ ค่าาาาา ><
...สามกันยา
หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้อาจมีคำหยาบคายและหยาบโลน ในการพูดของตัวละคร เช่นคำแทนตัวว่ากูมึง ซึ่งตามวิถีชนบทแล้วถือเป็นเรื่องปกติ ผู้เขียนไม่มีเจตนาให้เป็นคำด่าหรือคำหยาบแต่อย่างใด