ดั่งรอยทราย
26
ตอน
13.7K
เข้าชม
104
ถูกใจ
8
ความคิดเห็น
66
เพิ่มลงคลัง



 

ดั่งรอยทราย



วรนัน

 

“กลิ่นหอมจัง คุณต้องท่องไว้นะว่าจะต้องให้รสมันออกมาแย่ๆ ไม่งั้นผมจะจับคุณไปเป็นเชฟประจำตัว”

แม่ครัวจำเป็นไม่ได้สนใจจะต่อปากต่อคำด้วย เพราะมัวแต่อ่านโพยที่ได้จากแม่มาเช้านี้ ร่างเล็กขยับหนีวิถีน้ำมันโดยเร็วเมื่อไก่สดๆ ลงไปกลิ้งอยู่ในกระทะ สาวใช้ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความขำก่อนจะอาสาผัดให้ ส่วนเจ้านายคอยใส่ส่วนผสม ขณะที่ปากสอนขั้นตอนการทำไปด้วย เพราะครั้งหน้าจะได้นั่งรอกินอย่างเดียว ไม่นานกลิ่นอายอาหารจานแรกในชีวิตไกด์สาวก็เสร็จสิ้น อรันจึงรีบจัดแจงไปเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ โดยมีแขกไม่ได้รับเชิญตามไปไม่ห่าง

“ขอบคุณค่ะ”

หญิงสาวบอกตามมารยาท เมื่อเขาช่วยส่งอาหารที่เป็นเนื้อผสมด้วยหัวหอม ขนมปังบด ไข่ เกลือ และพริกไทยปั้นแล้วนำไปเสียบไม้ทอด ซึ่งบ้านเขาเรียกว่า ชิช เคิฟเตให้ แต่เธอก็เลือกตักดอล์มาเย็นเข้าปากก่อนอย่างอื่น ซึ่งถือว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยได้ดีชนิดหนึ่ง วันนี้อรันนำใบคะน้ามาห่อไส้แทนพริกหยวก เหมือนสองวันแรกที่เธอมาถึงแล้วบ่นว่าเผ็ด กลิ่นหอมของน้ำมันมะกอกที่ใช้ผัดข้าว ลูกสน องุ่นจิ๋ว และสะระแหน่แห้งบด ซึ่งเป็นส่วนผสมของไส้ด้านในวันนี้รสชาติกลมกล่อมกว่าวันก่อนในความคิด หากให้เดาคนทำก็คงตั้งใจทำเป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าเธอมีแขกที่เชิญตัวเองมาร่วมโต๊ะด้วยเป็นแน่

กาแฟของแขกและชาอุ่นของเจ้าบ้านถูกอรันยกไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะในสวนหย่อมหน้าบ้าน แล้วรีบกลับเข้าบ้านทันที ประหนึ่งอยากทิ้งให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังก็ไม่ปาน เมรีย์ค่อยๆ ยกชาขึ้นจิบทีละน้อยสลับกับมองแขก และครุ่นคิดว่าควรจะพูดยังไงเพื่อให้เขาพาตัวเองอยู่ให้ห่างๆ หรือไม่ต้องมาคอยก่อกวนแบบนี้ เพราะในใจนั้นคิดว่าการมาของเขาคงไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ หากแต่คงจะเป็นความอยากเอาชนะหรืออะไรบางอย่างมากกว่า

“ผมจะยังไม่บอกคำทำนายจากคราบกาแฟให้คุณรู้ตอนนี้หรอกนะครับ จะเก็บไว้ไปบอกตอนเราไปเมืองไทยด้วยกันอีกที” จู่ๆ เขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ขึ้นมาทำเอาอีกคนต้องมองอย่างสงสัย

“จบมื้อนี้ฉันก็ไม่ได้ติดค้างอะไรคุณอีกแล้วนี่คะ”
เพราะอาหารที่เขาคอยเรียกร้องอยู่ร่ำไรเพิ่งจะผ่านพ้นไป แต่เขากลับทำหน้ายียวนกวนประสาท ด้วยรอยยิ้มแฝงนัยบางอย่าง ซึ่งมันทำให้ใบหน้าเขียวครึ้มด้วยเครา ที่เพิ่งผ่านการโกนมาใหม่ๆ ดูดีกว่าหลายๆ ครั้งที่เคยเห็นมา และเธอก็แอบยอมรับกับตัวเองเงียบๆ ว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามอยู่ไม่น้อย แต่โชคร้ายที่ไม่มีเธอรวมในจำนวนนั้น

“ใครบอกล่ะครับ มื้อเย็นเมื่อกี้แทนคำขอโทษที่คุณไม่ยอมรับของกำนัลจากผมต่างหาก คุณรู้ไหมว่าทำให้คนหล่ออย่างผมเสียเซลฟ์มากแค่ไหน ซ้ำไปกว่านั้นก็คือทำร้ายจิตใจผมอย่างรุนแรงด้วย เพราะไม่เคยมีสาวไหนเคยปฏิเสธผมได้แม้แต่คนเดียว หรือถ้าคุณอยากให้อาหารมื้อนี้เป็นการเลี้ยงที่คุณติดค้างผม คุณก็ต้องรับของพวกนั้นก่อนผมถึงจะไม่ตามทวงคุณอีก” เมรีย์คิดไปถึงแหวนเจ็ดวงในกล่องขึ้นมาได้ จึงวางถ้วยชาในมือลงแล้วมองเขาตาเขม็ง

“คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร และทำไมจะต้องคอยตามมาตอแยฉันไม่เลิกด้วย”
แล้วในที่สุดสิ่งค้างคาใจก็เผยออกมาด้วยความเหลืออด ทำเอาแขกต้องจ้องมองกลับตาแทบไม่กะพริบก่อนจะบอกตามตรงเกี่ยวกับการมาของเขา

“ผมก็แค่อยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ เพราะคุณน่าสนใจน่าค้นหามากกว่าหลายคนที่ผมเคยรู้จักก็แค่นั้น” เจ้าของผมยาวหยักสลวย ถึงกับจ้องหน้าเขาเขม็งอีกครั้ง เมื่อได้คำตอบที่ไม่ค่อยจะตรงกับใจคิดนัก

“เท่านั้นเองเหรอคะ! ไม่ยักรู้นะ! ว่าผู้ชายเติร์กคิแยจะไม่ค่อยกล้ายอมรับความจริงสักเท่าไหร่ หรือภาษาบ้านฉันเรียกว่าปากไม่ตรงกับใจไงคะ” คาห์รามานคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องบอกออกมาตามตรง เพราะคนอย่างเธอคงไม่โง่พอที่จะดูไม่ออก ว่ามีจุดประสงค์อะไรถึงได้ตามเธอแจขนาดนี้

“โอเคๆ บอกก็ได้ ว่าผมชอบคุณเพราะไม่เหมือนใคร และไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยจะปลื้มนัก เวลาคนหล่อรวยอย่างผมมาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ ผิดกับ...”
“ผู้หญิงอีกหลายๆ คนของคุณ เพราะเพียงแค่ใช้เงินหว่านก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ใช่ไหมคะ!”

เธอรีบสวนในทันที เพราะนั่นคือข้อสงสัยในใจเพียงอย่างเดียวที่มองเห็น คาห์รามานเลี่ยงไม่ต่อปากต่อคำด้วยการยกกาแฟขึ้นดื่มจนเหลือแต่กากก้นแก้ว แต่เธอทิ้งชาไว้จนเย็นเพราะไม่มีอารมณ์สุนทรีที่จะกลืนอะไรลงไปแล้ว แถมยังนั่งจ้องเขาเพื่อรอว่าเขาจะหาข้อแก้ต่างให้ตัวเองยังไง

“ก็แล้วทำไมคุณถึงทำให้ผมยุ่งยากตามจีบขนาดนี้นักล่ะครับ”
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันทำตัวง่ายๆ คุณจะเอาฉันไปนอนกองรวมกับสาวในฮาเร็ม แล้วชะโงกคอคอยว่าเมื่อไหร่คุณจะมีจิตเสน่หาเรียกตัวไปใช้งานสักทีอย่างนั้นเหรอคะ”

เมื่อก่อนเขาอยู่ในฐานะลูกทัวร์ซึ่งจะต้องรักษามารยาทไม่ว่าแรงๆ แต่ตอนนี้เธอสามารถพูดตรงได้ ทำเอาเขาถึงกับหันขวับไปมองดวงหน้าสวยๆ แทบจะทันทีกับข้อกล่าวหาอันร้ายแรงของเธอ แต่ป่วยการที่จะต้องแก้ตัว หากในความคิดเธอเขาดูเหมือนจะเป็นคนแบบนั้น

“แล้วคุณสนใจไหมล่ะครับ” คนถามยิ้มยียวนเป็นเชิงท้าทายจนเมรีย์ไม่ชอบใจ
“ไม่ล่ะค่ะ! แต่ก็ขอบคุณนะคะที่กรุณาเชื้อเชิญ เก็บเอาไปไว้ชวนสาวอื่นเถอะค่ะ ยังไงๆ ฉันก็ชอบอยู่บ้านธรรมดาแต่อบอุ่นมากกว่าฮาเร็มหรูหราแต่หาความสุขทางใจไม่ได้ เห็นคนเขาว่ากว้างขวางจนแทบเดินไม่ทั่วเลยไม่ใช่เหรอคะ”

“คุณจะว่ายังไงล่ะ ถ้าผมจะทำให้คุณเปลี่ยนคำพูดและเดินเข้าฮาเร็มผมอย่างเต็มใจ” เขาชักสนุกกับการได้ยั่วให้เคืองเล่นๆ และเชิดจมูกรั้นๆ อย่างคนเย่อหยิ่ง ถือตัว ถือดี มันออกจะน่ามองในความคิดเขา
“ฉันก็จะบอกว่า คุณจะเหนื่อยเปล่าเสียเวลาเปล่า หรืออาจจะเสียเงินเปล่าๆ น่ะสิคะ”

“ขนาดนั้นเชียว! ทำไมคุณถึงไม่คิดว่าผมจะทำสำเร็จบ้าง แล้วคุณไม่คิดเลยเหรอว่าผมอาจจะอยากพาคุณไปอยู่บ้านเป็นหนึ่งในสมาชิคคนใหม่แทนจะเข้าไปอยู่ฮาเร็มน่ะ”

“เพราะฉันจะไม่มีวันจะใจอ่อนกับของกำนัลที่คุณเอามาล่อ ไม่ว่าจะเป็นพาไปนั่งรถราคาแพง ดินเนอร์ในร้านหรูหรา หรือดอกไม้พวกนั้น อีกอย่างฉันไม่มีวันเชื่อว่าผู้ชายเจ้าชู้อย่างคุณ จะสนใจฉันมากพอถึงกับจะยกย่องให้อยู่ในฐานะอื่น มากไปกว่าผู้หญิงในฮาเร็มเพื่อเอาไว้บำเรอความต้องการบนเตียง และสำคัญสุด ฉันชอบผู้ชายไทยไม่นิยมนำเข้าเพราะจะเสียดุลการค้าเปล่าๆ” เป็นคำตอบตรงและแรงสำหรับคนฟัง แต่มีหรือเขาจะละความพยายาม

“งั้นเรามาพนันกันไหมล่ะ”
“ด้วยอะไรคะ แล้วถ้าคุณแพ้ล่ะฉันจะได้อะไร”
“คุณอยากได้อะไรผมยกให้หมด แล้วถ้าคุณแพ้ผมล่ะ”
“ฉันมองเห็นแต่วันที่ตัวเองมีชัยชนะมากกว่าค่ะ เอาไว้ถ้าฉันแพ้จริงๆ คุณค่อยบอกแล้วกันว่าอยากได้อะไร”
“คุณจะไม่บอกผมหน่อยเหรอ ว่าถ้าผมแพ้แล้วคุณอยากจะได้อะไร” เธอจึงรีบสวนทันควัน

“แค่อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันก็พอค่ะ หรือถ้าจำเป็นก็ให้อยู่ในฐานะอื่น ไม่ใช่คุณจะมองฉันเป็นเหมือนเครื่องไว้ปลดปล่อยทางเพศของคุณ ตกลงไหมคะ” เขายิ้มร่าออกมาด้วยความขำก่อนเอ่ย
“คุณนี่ดูจะมักน้อยนะ เป็นอันว่าตกลง แล้วมาดูกันว่าใครจะแพ้หรือชนะ กู๊ดไนต์ครับ”

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง สิ้นคำก็ลุกจากโต๊ะเดินตรงออกประตูไปชนิดเจ้าของบ้านตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว แต่ก็แฝงไว้ด้วยความโล่งใจเป็นที่สุด เมื่อรถของเขาแล่นออกไปแล้ว จะต่อว่าอรันที่กำลังเดินมาเก็บแก้วกาแฟ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก จึงเดินขึ้นห้องเงียบๆ และความเงียบนี้เองที่นำจิตใจให้ล่องลอยไปถึงอีกคนโดยฉับพลัน แล้วน้ำตาไหลออกมาโดยฉับพลันเช่นกัน ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำใจให้ลืมเขาได้ยากเย็นนัก เธอก็ได้แต่หวังเอาไว้ว่า สภาพแวดล้อมใหม่ๆ บวกกับงานอันยุ่งเหยิง และภารกิจอันสำคัญยิ่งของพ่อ จะทำให้ขจัดเขาออกไปจากใจได้ในเร็ววัน

มือบางรีบปาดหยดน้ำตาออกจากแก้มเนียน แล้วเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้ากระเป๋าใบย่อมถูกดึงออกมา แล้วข้าวของจำเป็นสำหรับใช้ระหว่างไปทำงานก็ทยอยลงไปอยู่ในกระเป๋า เมื่อได้ทุกอย่างแล้วจึงรีบอาบน้ำในทันที เพื่อไม่ให้ตัวเองมีเวลาว่างได้คิดไปถึงใคร เพลงแจ๊สเปิดเบาๆ ช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น เพราะวันพรุ่งต้องบินไปรอรับลูกทัวร์ที่น้องชายเป็นคนนำทีมมาจากเมืองไทย




สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

ห้ามหยิบยก คัดลอก หรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ รวมทั้งถ่ายทอด ถ่ายเอกสาร สแกน ในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น เว้นเสียแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ประพันธ์เป็นลายลักษณ์อักษร ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์อันเป็นประโยชน์แก่หนังสือเล่มนี้เท่านั้น

 

 

 

ดั่งรอยทราย

วรนัน

www.mebmarket.com

ดั่งรอยทราย

วรนัน

www.mebmarket.com

 

 




แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว