บทนำ
**ภาพประกอบหามาจาก Google เครดิตตามภาพค่ะ**
สัญญาว่าจ้างการอุ้มบุญ
สัญญาว่าจ้างนี้ทำขึ้นเพื่อการอุ้มบุญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีจิตเสน่หาใดๆ มาเกี่ยวข้อง โดยจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำสัญญาว่าจ้างการอุ้มบุญ ดังนี้
ข้าพเจ้า นายธนดล เดเวอร์นิส โอลเรส อายุ 36 ปี หมายถึง “นายจ้าง” และนางสาวกุลธิดา ฤทธิ์ดำรง อายุ 28 ปี หมายถึง “ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง” โดยที่ ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง มีความยินยอมในการอุ้มบุญ บุตรหรือธิดาให้แก่นายจ้างตามเงื่อนไขข้อกำหนดในสัญญาว่าจ้างการอุ้มบุญ ดังนี้
1. ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างจะยินยอมตั้งครรภ์โดยวิธีทางการแพทย์ ไม่ว่าเป็นวิธีใดก็ตาม เพื่อให้ได้การบุตรหรือธิดามา ตามความต้องการของนายจ้าง
2. ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างจะไม่เรียกร้องค่าเสียหาย หรือ ค่าชดเชยใดๆ จากนายจ้าง หากเกิดข้อผิดพลาดที่จะส่งผลต่อร่างกายหรือจิตใจในระหว่างขั้นตอนการอุ้มบุญ แต่ทั้งนี้นายจ้างจะทำการพิจารณาจ่ายค่าเสียหาย หรือ ค่าชดเชยให้ ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างตามความเหมาะสม
3. ขั้นตอนการอุ้มบุญ บุตรหรือธิดาของนายจ้างและผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง จะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อมีการคลอดบุตรหรือธิดาแล้ว หลังจากนั้นบุตรหรือธิดาจะอยู่ในความดูแลของนายจ้างแต่เพียงผู้เดียว โดยที่ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างจะไม่มาพบเจอกับบุตรหรือธิดาและทำการเรียกร้องใดๆทั้งสิ้น
4. ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการอุ้มผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างจะได้รับเงินเดือน หรือ ค่าตอบแทนเดือนละ 30,000 บาทต่อเดือน ในทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน จนกว่าการอุ้มบุญจะสิ้นสุดลง
5. ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการอุ้มบุญ ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างจะต้องจดทะเบียนสมรสกับนายจ้าง และอยู่ในความดูแลของนายจ้างจนกว่าจะสิ้นสุดการอุ้มบุญ และหลังจากสิ้นสุดการอุ้มบุญแล้วผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างพร้อมที่จะทำการจดทะเบียนหย่ากับนายจ้างทันทีโดยไม่มีข้อแม้ หรือ เรียกร้องใดๆทั้งสิ้น
6. สัญญาว่าจ้างฉบับนี้เป็น “ความลับ” ระหว่างนายจ้าง และ ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง หากมีผู้ล่วงรู้เพิ่มเติมถือว่าสัญญาจ้างฉบับนี้เป็น “โมฆะ”
และผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง จะต้องชดใช้ค่าเสียหายของบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 10,000,000 บาท รวมทั้งจ่ายค่าเสียหายให้แก่นายจ้างอีกเป็นจำนวน 5,000,000 บาทโดยต้องชำระค่าเสียหายทั้งหมดภายในระยะเวลา 3 เดือน และจะไม่รับเงินชดเชยใดๆจากนายจ้างทั้งสิ้น
7. ขั้นตอนการอุ้มบุญนั้นไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้อย่างชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของนายจ้าง และ ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง ดังนั้น ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างยินยอมให้นายจ้างพาไปตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่นายจ้างเห็นชอบโดยละเอียดได้โดยไม่มีข้อแม้
8. ในระหว่างขั้นตอนการอุ้มบุญที่ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง จะไม่สามารถมีจิตเสน่หาต่อชายอื่นได้และไม่สามารถมีจิตเสน่หา มีความหึงหวง หรือ ร้องขอความรักต่อนายจ้างได้เด็ดขาด หากเกิดเหตุการณ์ที่นายจ้างรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในความรู้สึก ทรัพย์สิน หรือ ชีวิต นายจ้างมีสิทธิยกเลิกสัญญา และสัญญาจ้างถือว่าเป็น “โมฆะ” ทันที โดยที่ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้างจะไม่ได้รับค่าชดเชย หรือ ค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
ข้อกำหนดข้างต้น ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง ได้อ่านอย่างครบถ้วนแล้ว และพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วยความยินยอมโดยไม่มีข้อเรียกร้องใดๆทั้งสิ้น
ลงชื่อ............................................................... ผู้รับหน้าที่การอุ้มบุญ หรือ ลูกจ้าง
“อ่านจบแล้วใช่ไหม ว่าไง...เธอยินยอมที่จะทำตามข้อตกลงหรือไม่กุลธิดา” ธนดลเอ่ยถามเสียงเข้มเมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของกุลธิดา
“เอ่อ... คือว่า ฉัน...” เสียงที่ตอบอย่างตะกุกตะกักของหญิงสาวทำให้ประธานใหญ่ของบริษัทฯ เกิดอารมณ์หงุดหงิดได้อย่างง่ายดาย
“ถ้าไม่ตกลงก็จ่ายเงินมาสิบล้าน!!!!!”ปากการาคาแพงลิ่วถูกโยนออกจากมือหนาอย่างไร้ราคาด้วยความโมโห สายตาแข็งกร้าวบวกกับหน้าตาดุดันที่มองมายังหญิงสาวราวกับว่าจะให้คนตรงหน้าแหลกละเอียดเป็นเศษแก้วในทันที
“ฉันตกลง”
………………………………………………………………..
บทความด้านบนเป็นบทหนึ่งในนิยาย ผู้แต่งได้นำมาเป็น “บทนำ” ให้ผู้อ่านได้ลองพิจารณาตามความชอบของแต่ละบุคคลนะคะ
นิยายเรื่องแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงตามจินตนาการและความเพ้อฝันของผู้แต่งล้วนๆ ตัวละคร สถานที่ วันเวลา หรือ พฤติกรรม ทั้งหมดในนิยายเป็นเพียงเรื่องสมมติเท่านั้นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอบคุณค้า ^____^
ปล. หากมีคำผิดขออภัยด้วยนะค้าาาาา แจ้งได้จะแก้ไขให้นะตัวเอง
....ดอกไม้ริมรั้ว....