อารัมภบท
แซ่ซ้อง นักศึกษาสาวร่างบางวัยยี่สิบสองปียืนหอบแฟ้มเอกสารและหนังสืออีกสองสามเล่มในมืออยู่ตรงบริเวณหน้าปากซอย พลางยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกา สลับกับสอดสายตามองหาเพื่อนตัวดีที่คอยย้ำเวลานัดและสั่งห้ามไม่ให้เธอมาสาย ทว่าหลังจากเลยเวลานัดไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่อวดตนว่าตรงเวลาเลยแม้แต่น้อย โชคยังดีที่อากาศวันนี้ไม่ร้อนมากนัก มิเช่นนั้น เธอคงจะหงุดหงิดเสียจนกลายเป็นนางยักษ์ขี้โมโหไปแล้ว
เพียงชั่วครู่แซ่ซ้องก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ราวกับว่ามีใครกำลังแอบมองเธออยู่ แขนของเธอกระชับแฟ้มและหนังสือเข้าหาตัวแน่นอย่างเริ่มหวาดระแวง หลังจากนั้น เธอจึงค่อยๆ เหลือบตามองไปรอบกาย ซ้ายที ขวาที พลันสายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับปีกหมวกลูกเสือสีน้ำตาลที่โผล่พ้นพุ่มไม้ข้างทางมาเล็กน้อย เธอจึงถอนหายใจเบาๆ ด้วยความรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะหันกลับมาพลางส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเอือมระอาให้กับผู้ลักลอบติดตามที่จะเป็นใครไปเสียไม่ได้ นอกจากเจ้าสามหน่อน้องชายตัวดีที่มักจะแอบติดตามทุกครั้งที่เธอมีนัดกับมนุษย์เพศชาย
เพราะพวกเขาหวงเธอเสียยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ เสียจนต้องทุ่มเทกับการเป็นองครักษ์ปกป้องเธอจากผู้ชายทำให้พี่สาวคนโตอย่างเธอไม่มีแฟนจนถึงทุกวันนี้
เธอไม่อยากจะคิดต่อเลยว่า หากพริ้มพรายหรือน้องสาวคนเล็กของบ้าน ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมตอนต้นกลายเป็นสาวเมื่อไหร่ หนุ่มๆ อย่าหวังจะได้เข้าใกล้พริ้มพรายเลย
ปี๊น
เสียงแตรของรถที่ค่อยๆ เคลื่อนมาจอดตรงหน้าทำให้แซ่ซ้องสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะเข้าสู่อารมณ์หงุดหงิดเช่นเดิม เมื่อเจ้าของรถเลื่อนกระจกลงพลางส่งยิ้มแห้งๆ มาให้อย่างรู้ทันความผิด
แซ่ซ้องเดินไปเปิดประตูและก้าวขึ้นรถอย่างไม่รอช้า ท่ามกลางสายตาของน้องชายทั้งสามที่เยี่ยมหน้าออกมาจากพุ่มไม้เพื่อลอบดูสถานการณ์
“ขับรถหรูเสียด้วย ฐานะคงดีไม่น้อย” เด็กหนุ่มสวมแว่นสายตา เจ้าของร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนมัธยมปลายหรือเต็มตื้น ผู้เป็นพี่ชายคนรองเดินออกมาจากพุ่มไม้ทันทีที่เห็นว่ารถยนต์ที่พี่สาวของตนเพิ่งขึ้นไปนั่งเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ก่อนที่ผู้ร่วมสังเกตการณ์อีกสองคนจะเดินตามออกมา
“ฐานะผ่าน แต่ท่าทางก็ไม่น่าไว้วางใจอยู่ดีนั่นแหละ” เด็กชายในชุดลูกเสือสามัญหรือลิงโลด ผู้เป็นน้องเล็กว่าพลางถอดหมวกออกมาเพื่อปัดเศษกิ่งไม้ ใบไม้ออก ก่อนจะหันไปถามพี่ชายของตนอีกสองคนว่า
“แล้วพวกเราจะไม่ตามไปจริงๆ เหรอ ถ้าหมอนั่นมันทำอะไรเจ๊ แล้วจะทำยังไง” สีหน้าของลิงโลดดูเป็นกังวลกับการปล่อยให้พี่สาวคนเดียวต้องไปกับผู้ชายสองต่อสอง พลันความคิดก็หยุดลงเมื่อฝ่ามือของปลาบปลื้มหรือพี่ชายคนโตฝาดเข้าที่ศีรษะเข้าให้เสียงดังป้าบ
“แกจะบ้าเหรอ!”
“โหย เฮีย มันเจ็บนะ” ลิงโลดว่าพลางลูบหัวป้อยๆ สีหน้าเง้างองอนพี่ชายตามประสาน้องเล็ก
“หมอนั่นมันเป็นเกย์ มันคงจะพิศวาสเจ๊หรอก” ปลาบปลื้มว่าพลางส่ายหน้าให้กับความไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรของน้องชาย
“แล้วถ้าหมอนั่นมันพาเพื่อนมาแนะนำให้เจ๊ล่ะ ก็ไม่มีใครไปขัดขวางสิ” เต็มตื้นสันนิษฐานขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้
“เห็นมั้ย! เฮียเต็มยังคิดเลย…เฮ้ยยยยย”ลิงโลดพูดไม่ทันจบก็ร้องเสียงหลงพลางกระโดดผลุงไปหลบอยู่ด้านหลังเต็มตื้นทันทีที่เห็นปลาบปลื้มยกแขนขึ้น
“อะไรของแก...” ปลาบปลื้มว่าอย่างหงุดหงิด
“ก็เฮียจะตบหัวผมอ่ะ”
“แกจะบ้าเหรอ ฉันก็แค่จะเกาหัว”
“แหม่ เดี๋ยวนี้มีเล่นมุขนะเรา” ลิงโลดล้อเลียนพี่ชาย
“หรือแกอยากจะโดน”
“โหยๆ อย่าเลยเฮีย ตบวันละป้าบก็พอ ขืนมากกว่านี้ สมองผมคงไหลออกหูพอดี”
“แหม่ ลิงโลดน้องรัก...” ปลาบปลื้มแกล้งเปลี่ยนสีหน้าและทำเสียงนุ่มทุ้มพลางเดินเข้าไปกอดคอลิงโลดอย่างช้าๆ
“ฮะ...เฮ้ย เฮีย จะทำอะไรของเฮียเนี่ย” ยังไม่ทันหายสงสัย ปลาบปลื้มก็ล็อคคอน้องชายเข้าให้ ในขณะที่ลิงโลดพยายามดิ้นให้หลุดจากแขนของพี่ชาย
“โอ๊ย! ปล่อยผมนะ!”
“...สมองหมูอย่างแกเนี่ย ตบหัววันละป้าบอย่างเดียวไม่พอหรอก มันต้องเจอท่าไม้ตายของพี่ชายเข้าไปเสียหน่อยนะจ๊ะ ที่ร้ากก” ว่าแล้วปลาบปลื้มก็หันหน้าไปยิ้มให้กับแนวร่วมอย่างเต็มตื้น “สนใจมั้ยจ๊ะ ดาร์ลิ้ง”
“อืม ผมว่าอย่าเสียเวลาถามผมเลยน่า” เต็มตื้นตอบรับพลางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งคู่
“ฮะ...เฮ้ย เฮียเต็มๆ ผมรู้นะ ว่าเฮียรักผม รักมาก รักมากมายก่ายกองมหาศาล รักยิ่งกว่าเกาะแก้วพิศดาล รักจนปานจะกลืนกิน...”ลิงโลดพูดรัวขณะพยายามดีดดิ้นให้หลุดจากแขนแกร่งของพี่ชายตัวเอง แต่ทว่าเต็มตื้นกลับยังคงยิ้มเย็นและเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ก่อนจะพูดเสียงหวานว่า
“เพราะรักหลอกจึงหยอกเล่นไงล่ะครับ ไอ้น้องชาย”
“อย่าตบหัวผมเลยน้า” ลิงโลดยังคงร้องขอชีวิตต่อไป
“กระผมไม่วาดฝ่ามือลงบนหัวของคุณหรอกครับ แค่จะ...” เต็มตื้นเว้นวรรคก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นมา ในขณะที่ลิงโลดได้เบิกตากว้างและพยายามดิ้นสุดพละกำลัง
“ไม่นะ เฮีย ม้ายยย”ลิงโลดร้องลั่นและกระตุกร่างทันทีที่นิ้วของเต็มตื้นจิ้มเข้าที่เอวทั้งสองข้างอย่างสนุก “โอ๊ยๆ เฮียๆ เฮีย! พอๆ พอแล้วๆ ผม...ผมกลั้นไม่ไหวแล้วนะ ฮะๆ ฮ่าๆ”
และลิงโลดก็ถูกกลั่นแกล้งเหมือนดังเช่นทุกวัน โดยที่ทั้งสามคนนั้น ลืมไปเสียสนิทเลยว่าต้องกลับไปเรียน