ตอนที่1
แสงอาทิตย์ที่สาดส่องมายังหน้าต่าง ตกกระทบลงบนเรือนร่างสีขาวอมชมพูที่อยู่บนเตียง ผมมองไปยังผมสีเงินประกายของคนข้างกาย และลูบปลอยผมนั้นเบาๆ ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาเลย สงสัยเมื่อคืนจะเหนื่ิอยไปหน่อย เขาคิดในใจ
“งื้ออ~”
“ตื่นแล้วหรอ จีมิน”
“อื้อ~ ตื่นแล้ว”
“ตอนนี้รู้สึกไงมั้งปวดตรงไหนมั้ย”
“เราปวดตรงเอวนิดหน่อยนะ”
“ลุกไปอาบน้ำสิเดี๋ยวจะทายาให้”
“อืม”
---Jimin---
ซ่าาาา~(กำลังอาบน้ำ)
ผม “ปาร์ค จิมิน”ครับ ตอนนี้กำลังอารมณ์เสียอยู่เพราะไอ้รอยคิสมงคิสมาร์กที่อีตาแทฮยองมันทำทิ้งไว้บนตัวผมเกือบทั้งตัว โดยเฉพาะตรงคอ ไม่รู้ผมบอกมันไปกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำรอยตรงคอเกิดคนอื่นมาเห็นจะทำยังไง แต่ผมก็ทำได้แค่ด่าในใจ เพราะรู้เหตุผลอยู่แล้วว่ามันเป็นการประทับตราไม่ให้ปีศาจตัวอื่นมาทำร้ายผมหรือเข้าใกล้ได้ ผมจึงค่อยๆทำใจให้เย็นลงแล้วค่อยเดินออกไปหาวีที่รออยู่อีกห้องนึงเพื่อให้เขาทายาให้
เมื่อผมเปิดประตูออกไป ผมตกใจจนล้มไปนั่งกองอยู่บนพื้น แล้วเงยหน้ามองคนตรงหน้า แล้วเขาก็ก็มองกลับมาด้วยสีหน้าเย็นชา ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาชอบทำหน้าแบบนั้นตลอดเวลาที่อยู่กับผม บางที่ผมก็แอบคิดว่าเขาอาจะเกลียดผมหรือเห็นผมเป็นแค่อาหารเท่านั้น (ระหว่างที่คิดเหม่อคิดเรื่องไร้สาระไปเรื่อยๆ)
“นี่!จะนั่งตรงนั้นอีกนานแค่ไหนหะ”
ผมตกใจและรีบลุกขึ้นทันที
“ก็นายนั้นแหละมายืนทำอะไรหน้าห้องน้ำ”
“ชั้นแค่เห็นว่านายอาบน้ำนานผิดปกติเลยจะมาดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า”
โห~ถึงกับขั้นจับเวลาตอนอาบน้ำเลยเหรอ ผมเริ่มกลัวแล้วนะ
“เปล่าชั้นแค่คิดอะไรเพลินๆตอนอาบน้ำนะ”
“อืม งั้นไปกินข้าวได้ละ ชั้นทำเสร็จแล้ว แล้วก็จะได้ทายาด้วยเห็นบอกว่าปวดนิ”
“อืม”
«ระหว่างกินข้าว»
ผมว่าตามจริงแทฮยองก็ไม่ได้แย่กับเขามากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็แค่ชอบทำเย็นชาใส่ แต่ตามจริงเขาเป็นคนที่อบอุ่นและเร้าร้อนมากโดยเฉพาะเวลาที่ผมต้องให้อาหารเขา อย่างแบบเมื่อคืนนี้ แล้วเขาก็เป็นคนที่หน้าตาดี มากความสามารถเลยทีเดียว แต่ช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุดคงเป็นการจูบของเขาในยามเช้า มันทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนกว่าปกติจนบางครั้งมันทำให้ผมเกิดมีอารมณ์อีกครั้ง… “ อ๊ากกกกกก นี่ผมคิดไรอยู่เนี่ย”
---Taehyung---
“นี่!เป็นอะไรหะจีมินจู่ๆก็ตะโกนเสียงดัง”
“ม...ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย”
“ไม่มีอะไรแล้วจะตะโกนทำไมหะ!”
“นี่บอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีไงเล่า!”
(ถ้าบอกหมอนั้นไปนะต้องโดนมองด้วยสายตาแปลกๆแน่)
“อืม”
ผมตอบจีมินด้วยเสียงเย็นชาใส่เขา ตอนนี้ผมกังวลสุดๆว่าจีมินกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ถึงขั้นขึ้นเสียงใส่ผม ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนานไม่เคยเลยสักครั้งนึง เขาออกจะเป็นคนว่าง่ายบอกให้ทำอะไรก็ทำ แล้วก็เป็นคนที่ซื่อมากจนบางทีผมยังแอบคิดเลยว่าเขาโง่นิดหน่อย แต่นั้นก็เป็นส่วนที่น่ารักของเขา แต่ที่ผมชอบมากที่สุดคงเป็นใบหน้าที่หวานกับเรือนร่างสุดยั่วยวนของเขา บางครั้งที่มีอะไรกันผมแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะทำให้กล้ามเนื้อน้ันแปดเปื้อนไปด้วยรอยของผมทุกครั้ง จนผมโดนเขาโกรธทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาเห็นรอยจั้มนั้น แต่เเค่ผมทำเมินนิดหน่อยจีมินก็รีบมาตามง้อผม ทำไมเขาชั่งเป็นอาหารที่ดีและน่ารักขนาดนี้กันนะ....นอกเรื่องไปไกลและตอนนี้ผมต้องรู้ให้ได้เลยว่าเขาปิดบังอะไรอยู่ อีกไม่นานเดี๋ยวผมก็จะได้รู้แล้ว เพราะว่าเวลาผมทำการประทับตราช่วงเวลานั้นผมจะสามารถอ่านใจของอีกฝ่ายได้ แต่อาจมียากสักหน่อยเพราะว่าจีมินแปลกกว่าคนอื่นนิดหน่อยตรงที่ว่าเขาสามารถต้านพลังจิตได้แต่ตัวเขานั้นยังไม่รู้ ผมคงต้องทำให้เขามีอารมณ์ก่อนแล้วค่อยเริ่มสะกดจิต เมื่อผมวางแผนในใจเสร็จเเล้วก็เงยหน้ามองคนตรงหน้าที่กำลังจ้องมองผมด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่าผมจะไปล้วงความลับของเขา ผมเห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมา กับท่าทีเหล่านั้น
“นี่!ไม่ต้องจ้องชั้นขนาดนั้นก็ได้”
“หะ..อะ..อืม”
“ชั้นไม่อยากรู้ความลับของนายแล้ว”
“จริงเหรอ..นายไม่อยากรู้แล้วใช่มั้ย”
(เฮ้อออ~ โล่งอกที่เขาไม่อยากรู้แล้ว)
“อืม”
หึ...ทำหน้าโล่งอกซะชัดเจนเชียว คอยดูเถอะคืนนี้นายไม่รอดแน่จีมิน ชั้นคนนี้จะเอาความลับของนายออกมาให้หมดเอง