ชีวิต(กู)บัดซบ
คุณเคยรู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อชีวิตมันถึงทางตัน...
วันนี้ผมนั่งรถโดยสารปรับอากาศชั้นหนึ่งจากต่างจังหวัดมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ผมครุ่นคิดตลอดระยะทาง หากมนุษย์เราเมื่อชีวิตมันถึงที่สุด เส้นทางเดินต่อไปมันมืดมนเจ้าความคิดพยายามฆ่าตัวตาย ดูเหมือนว่ามันจะแวบขึ้นมาทันที คุณเคยมีความคิดเช่นนี้หรือไม่
มรสุมชีวิตซัดถาโถม ด้วยปัญหานานาที่มันเกิดขึ้นร้อยแปด ผมคงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าปัญหา ร้อยแปดอย่างที่แต่ละคนจะพานพบกับมัน ผมจะไม่มองเรื่องแบบนี้ของคนอื่น หากจะมองดูกูนี่แหละ
!
เพราะว่าชีวิตบัดซบ
ความรักของชีวิตคู่ เริ่มแรกดูเหมือนว่าจะราบรื่นดี แต่นานวันไปสิ่งที่ทุกคนเรียกว่าความรักจะสร้างชีวิตคู่อย่างมีความสุขเปล่าเลย ความรักนี่ย่อมมีสิ่งเคลือบแฝงอยู่นั่นคือความเกลียด เสมือนเหรียญสองด้าน หากด้านหนึ่งคือความรัก ดั่งนั้นอีกด้านเป็นความเกลียด (ใครจะนิยามอย่างไรก็ได้)
ขณะที่ผมนั่งอยู่บนรถกำลังแล่นเรื่อยไป มองผ่านหน้าต่างกระจก สายฝนพร่ำสาดน้ำฝนเม็ดเล็กๆเกาะตามผิวกระจกหน้าต่างรถ ผมยกมือขึ้นสัมผัสหยดน้ำแนบกับผิวกระจก ชีวิตบัดซบก็เหมือนยิ่งอยู่ใกล้มองเห็นแต่ทว่าจับสัมผัสไม่ได้ มันยิ่งปวดร้าวเจ็บใจมากแค่ไหน
“
พี่คะตรงนี้หมายเลขที่นั่ง
11
ซีใช่ไหม
”
เสียงใสของหญิงสาววัยของเธออายุไม่เกินยี่สิบ เธอเรียกปลุกผมออกจากห้วงความคิดทันที
“
ใช่ๆๆครับ
!”
ผมตกใจสะดุ้งนิดหนึ่ง ยิ่งตะลึงกับความสวยน่ารักของเธอใบหน้ารูปหัวใจที่ยื่นเกือบมาชิดใกล้ เสียงพูดจึงตะกุกตะกัก
เธอก้มมองที่ตั๋วบัตรในมือ จนแน่ใจว่าเป็นที่นั่งของเธอจึงจัดแจงเก็บกระเป๋าใบขนาดย่อมยัดใส่บนชั้นเก็บของ แล้วก็นั่งเบาะข้างผม เธอหันมายิ้มให้ผม
“
จะไปลงที่ไหนหรือน้อง
”
ผมถาม
“
นวนครค่ะ
”
เธอบอกพลางขยับตัวนั่งให้สบายที่สุด
ห้วงความคิดของผมก็หวนกลับมาอยู่ปัจจุบัน เธอนี่คือความรักเริ่มแรกของผมเอง เมื่อครั้งนั้นผมคิดว่าเราทั้งสองต้องเริ่มมีชีวิตคู่อย่างมีความสุขเป็นแน่แท้ ตามภาพฝันที่ผมวาดดั่งศิลปินระบายสีสันสวยงามหลากสีลงในเฟรมชีวิต
เมื่อมีจุดเริ่มแรกก็ย่อมมีจุดหมายปลายทาง ในวันนี้จุดสุดท้ายหรือจุดหมายปลายทางของผมไปถึงกรุงเทพมหานคร หรือว่า...