บทนำ
"ที่นี่ที่ไหนกัน"
เด็กหนุ่มพึมพำขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าของมิเกลมองไปรอบๆตัวล้วนมีแต่ความมืดมิด บรรยากาศรอบตัวชวนให้อึดอัดแต่กับให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น
“มิเกล จงหยุดเขาซะ ในภายภาคหน้าเขาจะทำให้โลกเสียสมดุลและความมืดจะคืบคลานมาสู่โลก ก่อนจะถึงวันนั้นขอให้หยุดเขาก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”
เมื่อสิ้นเสียงนั้นทำให้มิเกลหลุดจากภวังค์ของการหลับใหลและสะดุ้งตื่นขึ้น เหงื่อไหลท่วมเต็มบนใบหน้า
“ความฝันอะไรกันเนี่ย” มิเกล ลูเซียนโน่ เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองในวัยสิบสี่ปีเอ่ยขึ้น ก่อนหันหน้ามาที่เตียงนอนที่ตอนนี้แม่เขาได้นอนล้มป่วยด้วยโรคประจำตัวซึ่งเขานั่งเฝ้าแม่จนเผลอหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนนี้เขามองแม่ด้วยสายตาที่เศร้าซึมเป็นอย่างมากก่อนลุกขึ้นเดินไปยังริมหน้าต่างของโรงพยาบาลรัฐเเห่งหนึ่งเพื่อมองวิวที่มีตึกมากมายสูงใหญ่เเละถนนหนทางที่เต็มไปด้วยรถยนต์
วันต่อมา
ในช่วงเช้ามืดของวันแม่ของมิเกลได้จากโลกนี้ไป มิเกลตอนนี้หลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้าเสียใจซึ่งตอนนี้ผู้เป็นมารดาที่เขารักยิ่งจากเขาไป หลังจากนั้นเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงานต่างก็มาช่วยเรื่องงานศพ ครอบครัวครูยอดซึ่งเป็นคนสอนมวยไชยาให้มิเกลจึงได้พาไปอยู่ด้วย จนผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ มิเกลนึกถึงคำกล่าวของแม่ก่อนเสียได้ขึ้นใจ
"เมื่อแม่เสียไปแล้วค่อยเปิดกล่องไม้น่ะลูกแล้วสิ่งที่ลูกจะได้พบเจอหลังจากนี้ลูกจงยืนหยัดและต่อสู้ไปให้ได้น่ะลูก"
ณ ค่ายมวยครูยอดมิเกลยังคงซ้อมมวยเป็นประจำ เขาฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุแปดขวบจนฝีมือร้ายกาจรุดหน้าไปเร็วกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอย่างก้าวกระโดด ครูยอดเดินมาดูมิเกลที่ชกเตะกระสอบทรายอย่างหนักหน่วงและดุดันราวกับโกรธแค้นใครมา
“ไอ้มิเกล” ครูยอดพูดขึ้น เขามองมิเกลที่ยังชกกระสอบทรายต่อและไม่สนที่เขาพูด เขาเลยใช้ไม้เท้าเคาะหัวมิเกลดังลั่น “ข้าพูดด้วยทำไมไม่ตอบ!!”
“โอ๊ย!! ครู เขกหัวผมทำไมเนี่ย” มิเกลหันมามองผู้เป็นครู พร้อมกับลูบรอยปูดที่หัว
“เอ็งยังใช้อารมณ์เกินไปจนขาดสติ ไปช่วยป้าอ้อมทำกับข้าวก่อนไป” ครูยอดบอกพร้อมกับส่งสายตาเพชฌฆาตใส่ เมื่อมิเกลเห็นจึงรีบวิ่งไปที่ท้ายครัว “เฮ้อ…มิเกลเอ๊ย” เขาพูดพึมพำขึ้นด้วยความสงสาร
เวลาค่ำของวัน มิเกลตัดสินใจหยิบกล่องไม้ขนาดเหมาะมือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาเปิด ทันใดนั้นแสงสว่างจ้าก็ออกมาจากกล่องไม้จนทำให้มิเกลหลับตาลงในทันที เมื่อแสงสว่างหมดลงสถานที่ที่มิเกลอยู่ก็เปลี่ยนไป!!!