ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ทัชนะคะ เปลี่ยนชื่อเป็น ตรวนมลทิน ค่ะ
วาต ลมที่พัดพามาแต่กลิ่นโศกเศร้าและคาวคลุ้ง
อย่าพึ่งตัดสินพฤติกรรมตัวละครกันเนาะใจเย็นๆ
จะเรียกว่าเกริ่นนำก็ไม่น่าจะใช่ ^^’ เอาเป็นมาว่ายกมานิดๆหน่อยแล้วกัน
**************
“ไอ้ขี้ฟ้อง มึงก็ได้แต่มุดหัวอยู่กะลาที่นายรุตถือคุ้มไว้”วาโยหยุดเดิน ด้วยอารมณ์เดือดดาล “คนอย่างมึง ไม่มีนอเข้าหน่อย มันก็ตัวเมียดีดีนี่แหละวะ”ยิ่งเห็นวาโยโมโห วาตก็ยิ่งได้ใจ
“ไอ้วาต ไอ้ระยำ ไอ้ลูกพ่อไม่รัก” วาโยงัดประโยคเด็ดขึ้นมา
“มึง มันก็ไอ้ลูกแม่ไม่รักเหมือนกัน”คราวนี้วาตย้อน แล้วก็ส่งยิ้มเฉือดเฉือน นาทีเดียวที่วาโยตรงดิ่งเข้าหาวาตแล้วทั้งคู่ก็ชกต่อยกัน วาตโดนหมัดวาโยเข้าที่โหนกแก้มอีก ก่อนจะปัดได้ในหมัดถัดไปแล้วผลักวาโยไปชนประตู เมื่อวาโยตั้งท่าหันกลับมา เขาก็ส่งหมัดเข้ามุมปากวาโยให้ได้เลือดบ้าง
หากจะเทียบกัน หมัดคนถ่อยอย่างวาตนั้นหนักกว่าเป็นไหนๆ เมื่อผสานไปด้วยแรงโกรธแรงเกลียดด้วยแล้ว มันก็ยิ่งหนักหน่วง สองครั้งซ้อน ก่อนวาตจะแทงเข่าให้วาโยได้ล้มลงไปกอง
วาตเกือบตามไปซ้ำ แต่เขาชะงักเท้าเอาไว้ได้ทัน เมื่อวาโยเงยหน้าขึ้นมองแล้วร้องท้าทาย
“เอาสิ กระทืบกูเลย”
***********
“แล้วความจริงมันคืออะไร”ตรีสุคนธ์ขมวดคิ้วเชิดหน้ามองเขา
“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นตรีสุคนธ์ อย่าพูดจาถากถางผมแบบที่คุณชอบทำอย่างที่ผ่านมา ผมก็คน โกรธเป็น โมโหเป็น อย่าให้ผมต้องทำอย่างวันแรกที่ผมปีนขึ้นมาเลย”วาตชี้นิ้วลงไปที่พื้น ส่งวาจาข่มขู่ มันทุ่มดำดิ่งลงตามอารมณ์ที่เริ่มไม่ค่อยดีจนน่าหวั่นเกรง
ตรีสุคนธ์ทำใจดีสู้ หล่อนก็อยากจะรู้นักว่าเรื่องของเขามันเป็นยังไง แล้วเมื่อครู่ก็เผลอพลาดทำท่าทางดูแคลนเขาไปอย่างยั้งไม่อยู่
“ฉันขอโทษ”
“ผมไม่ต้องการคำขอโทษ”
“แล้วคุณต้องการอะไร”วาตถอนหายใจสงบสติอารมณ์แล้วหันมองไปทางอื่น
“ทำแผลให้ผม
นิยายเรื่องนี้ถูกปรุงแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากมีเนื้อหา ชื่อหรือสิ่งอื่นใด ไปซ้ำหรือใกล้เคียง ผู้เขียนก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้
ปานกลาง...
มีอะไรคอมเม้นท์พูดคุยกันได้นะคะ
ไม่มีอิมเมจเรากลัวคุณสะดุด ให้เลือกนึกเองเลย :)
แต่ละตอนไม่ได้ลงเป็นตอนนะคะ บางครั้งหนึ่งส่วนสามไม่ก็ครึ่งหนึ่ง เพราะต้องค่อยๆแก้แล้วแก้อีก ^^