บทนำ
ณ บ้านเล็กๆหลังหนึ่ง
เด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งผมยาวประบ่า นั่งหวีผมยาวสลวยของเธออยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในห้อง ท่าทางของเธอซึมเศร้ามาก เธอยังนั่งหวีผมอย่างไร้ความหมายต่อไปจนกระทั่งมีคนมาเคาะประตู
ก๊อกๆ
- แก้ว ออกมาทานข้าวได้แล้วลูก –
แม่ของเธอเรียกเธอเสียงดังเพราะลูกสาวของเธอไม่ได้ลงมาทานข้าวเมื่อตอนเย็น
- แม่คะ แก้วอยากอยู่คนเดียว ขอให้แก้วอยู่คนเดียวสักพักเถอะค่ะ –
เด็กสาวตอบรับคำแม่เสียงเบา ท่าทางจะเป็นลมซะให้ได้
- ถ้าอย่างนั้นแม่ออกไปทำธุระก่อนนะ บางที แม่อาจจะไม่กลับมาอีกเลย อย่าลืมทานข้าวนะ –
เธอไม่ตอบ แต่ยังนั่งนิ่งอยู่ มือหยุดสาละวนกับผม แล้วเดินไปเปิดประตูห้องแทน
...แม่ไปแล้ว แม่ไปแล้ว อย่างนั้นเหรอ แม่จะไม่กลับมาแล้วใช่มั้ย...
เด็กสาวปิดประตูน้ำตาไหลพราก แล้วเดินไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเสื้อผ้า ทั้งที่ดวงหน้ายังมีคราบน้ำตาอยู่ ระหว่างเก็บของอยู่ เหตุการณ์เมื่อวาน ก็พุ่งขึ้นในสมองอันขาวโพลน แม่ของเธอบอกลาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม่ของเธอพูดกับเธอมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เด็กสาวก็คิดเพียงแค่ว่า แม่คงอำเธอเล่น แต่เมื่อเห็นจดหมายลาตาย รวมถึงข้อมือขวาซ้ายของแม่ที่คล้ายโดนของมีคมกรีด เธอยังจำคำพูดของแม่หลังจากที่เธอถามสาเหตุถึงแผลบนข้อมือได้ดี ...แก้ว เดินทางไปประจวบ ถามเส้นทางคนแถวนั้นว่า คฤหาสน์คอนฟอลเนอร์ อยู่ที่ไหนแล้วไปอยู่ที่นั้นซะ ไขปริศนาให้ได้ แล้วแม่จะตายตาหลับ... คำพูดของแม่ในตอนนั้น ทำให้เด็กสาวหวาดกลัวต่อมาก็กลายเป็นซึมเศร้า ...คอนฟอลเนอร์... ตระกูลนั้นมีอะไรกับแม่นะ
ตู๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
- ฮัลโหล ยัยแก้ววววววววว –
เสียงของอร เพื่อนสนิทของแก้ว แก้วทำหน้าเรียบ รู้สึกเสียใจการตายของแม่ แต่อีกใจก็รู้สึกชินชา
- แก โทรมามีไรหรอ อร –
แก้ว ถามเสียงเย็น รู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น
- ไอ้แก้ว พี่นนท์กับพี่ธัน พี่ชายแกอ่ะ แข่งบาสชนะอ่ะ เห็นบอกว่าจะพาแกกับฉันไปฉลองด้วยล่ะ คืนนี้-
แก้วสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำว่า นนท์กับธัน นนท์กับธันเป็นพี่ชายต่างแม่ที่ไม่เคยได้เห็นหน้ากัน รู้แค่ว่าเป็นพี่น้องต่างแม่ เด็กสาวไม่อยากเจอหน้า ทั้งสองคนเพราะความรู้สึกผิดที่แม่เป็นภรรยาน้อยแล้วไปแย่งพ่อของพวกเขามา
- เฮ้ย ไอ้แก้วนี่อย่าบอกนะว่าแกรู้สึกผิดอีกแล้วน่ะ ไม่เอาน่า อีกแล้ว ไม่ต้องมาลำบากใจหรอก แล้วอีกอย่างพี่เขาไม่โกรธแกหรอก -
เนื่องจากว่าอรเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด แก้วจึงบอกเล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง อย่างไม่กลัวความแตก เพราะจิตใจของเด็กสาวด้านชา ตั้งแต่แม่บอกเธอ ว่าเธอเป็นแค่ลูกเลี้ยง
- อร บอกพี่เขาด้วยนะว่าฉันไปไม่ได้ไม่สบายมากเลย -
-โฮ แก้ว ไม่เนียนเลย ไม่รู้ล่ะ ฉันจะลากแกมาให้ได้เลย –
- นะ อร ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมอ่ะ กลัว -
- ไม่เอาอ่ะ ไปด้วยกันดิ น้า –
เด็กสาวตอบตกลงในที่สุดเพราะขี้เกียจเถียงกับเพื่อนสาว
คืนต่อมา
เนื่องจากว่าเธอไม่มีญาติคนไหนอีก จึงต้องสืบเสาะหาร่างของแม่ เธอเปิดทีวีดูข่าวทุกวัน ว่ามีข่าวเกี่ยวกับแม่เธอมั้ย ไปโรงพยาบาลขอติดต่อเจ้าหน้าที่ห้องดับจิต ขอดูร่างแม่ แต่ก็ไม่มี เธอสงสัยว่าร่างของแม่อยู่ไหน เด็กสาวหายเศร้านานแล้ว แต่ยังมีดวงตาเศร้าโศกแฝงความคิดถึงอยู่ เด็กสาวนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทำหน้าทำตาเหมือนเมื่อวาน หวังให้ได้ยินเสียงแม่เรียกไปกินข้าว แล้วก็รั้งแม่ไม่ให้ไปจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงของแม่ เด็กสาวส่ายหัวแล้วตระหนักถึงความจริง ว่าไม่มีแม่อีกแล้ว
ติ๊ง~ ต๊อง~
- แก้ว มาแล้วจ๊ะ รีบๆ ออกมาเร็ว –
- อือ กำลังจะไป -
หลังจากที่เธอเดินลงบันไดมา เปิดประตูบ้านก็เจอเด็กสาวผมเปียเดี่ยวยืนยิ้มแฉ่ง โบกมือให้ ทางขวาซ้ายขนาบด้วยสองหนุ่มที่น่าจะเป็นกานนท์และธันวา คนทางซ้ายมีใบหน้าสุขุมนุ่มลึก ส่วนคนทางขวามีใบหน้าขี้เล่น ร่าเริง
- เธอเองเหรอ ที่ชื่อเกวรินทร์น่ะ ฉัน กานนท์ ยินดีที่ได้รู้จัก –
เด็กหนุ่มใบหน้าสุขุมเอ่ยขึ้นมา สายตาที่มองมามีความเป็นมิตร
- เอ่อ ใช่ค่ะ ยินดีเช่นกันค่ะ -