เจ้านายตัวร้าย กับ นายเลขาสุดซี๊ด
ตอน ความรู้สึกที่คุ้นเคย
16 ปีก่อน.....
ย้อนไปเมื่อสมัยผมยังเด็ก ( ตอนประมาณ 5 ขวบ )ครอบครัวของผมอาจจะเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีกันเลยทีเดียว มี ป๊า ม๊า และผม สวี่เว่ยโจว ลูกคนแรกและคนเดียวของพวกท่านทั้งคู่ ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวที่มีความสุขและความอบอุ่นเหมือนอย่างที่ครอบครัวควรจะเป็น....
สมัยเด็กๆ ผมชอบไปเล่นกับคุณป้าข้างบ้านเสมอ เพราะมีพี่ชายที่แสนดีคนนึงซึ่งเค้าแลดูน่าจะอายุมากกว่าผมสัก 2 ปี เราสนิทกันมาก มีอะไรก็แบ่งปันกันเสมอและผมติดพี่เค้ามาก
จนผู้คนบ้านใกล้ เรือนเคียงต่างมองว่าผมเป็นสาวน้อยที่กำลังหลงรักเด็กหนุ่ม ( ^////^ )
ด้วยเพราะความใสซื่อและหน้าตาจิ้มลิ้มคล้ายเด็กผู้หญิง ( มาก )
จนบางคนยังเผลอคิดว่าผมเป็นเด็กผู้หญิงซะอย่างงั้น และเพราะนั่นคือตอนผมยังเด็ก จึงไม่รู้เรื่องอะไรมากมาย กิจวัตรประจำวันของผมคือไปเกาะติดกับพี่ชายคนนี้อยู่ทั้งวัน ไม่ว่าจะทำอะไร ไปเล่นที่ไหนก็ไป ด้วยกัน... ( เพราะเค้าเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายคนเดียวที่ผมอยากเล่นด้วย )
จนกระทั่งวันนึงป้าข้างบ้านก็หายไปพร้อมกับพี่ชายแสนดีของผม ซึ่งผมก็ไม่รู้เช่นกันว่าเค้าไปไหน และพี่คนนั้นชื่ออะไร ผมเองก็จำไม่ได้เลย....
.
.
.
.
.
.
16 ปี ต่อมา...... ( เร็วเนอะ )
ผมเว่ยโจว คนเดิมฮ้ะ ตอนนี้อายุ 21 ปี ตอนนี้ผมก้าวขึ้นมาในถานะ รอง CEO ของ สวี่เฟิงซงกรุ๊ป และกำลังเริ่มเรียนรู้งานจากผู้เป็นพ่อบริษัทนี้เป็นของ พ่อ และ แม่ของผมก็คือ '' สวี่เฟิงซง '' และแม่ของผม '' สวี่หลินฉาง '' แม่ของผมท่านเสียไปแล้วเมีย 2ปี ก่อน ทำให้เราเหลือกันแค่สองพ่อลูก แต่ก็ยังมีคนในตระกูลอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งยังอยู่คอยสนับสนุนพวกเราอยู่ข้างหลัง และก็มีอีกส่วนนึงเช่นกันที่พยายามจะหุบสมบัติของตระกูล
'' ก๊อก ก๊อก ก๊อก... '' หญิงสาวคนนึงเปิดประตูเข้ามาพร้อมใบหน้าที่ใสซื่อ แต่ภายใต้ใบหน้านั้นกลับแฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
'' มีอะไรหรอครับ คุณลู่ลู่ '' ผมเรียกคนที่เปิดประตูเข้ามา ซึ่งเป็นเลขาของผมนั่นเอง
'' ท่านประทานให้มาตามคุณหนูไปพบค่ะ '' เลขาสาวยิ้มแสยะยิ้มเมื่อเห็นเว่ยโจวบนโต๊ะทำงาน
'' อ่าครับ เดี๋ยวผมออกไป ขอบคุณครับ '' เว่ยโจวเอ่ยบอกเลขา ในขณะที่ในมือยังถือเอกสารและอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนจะวางลงและเดินไปที่ห้องของท่านประธาน
'' เอ่อ.. ป๋า ไม่ใช่สิ ท่านประธานเรียกผมมามีอะไรหรอครับ.. '' โจวโจวเรียกบิดาของตนแบบติดๆขัดๆ เพราะยังไม่ชินกับการเรียกแบบนี้
'' เรียกป๋าเหมือนเดิมก็ได้โจวโจวเดี๋ยวก็ชินเอง มานั่งนี่มา '' ผู้เป็นพ่อตบลงบนเก้าอี้ข้างๆ สองสามที เป็นเชิงเรียกให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขามานั่ง เว่ยโจวที่กำลังมึนๆงงๆกับการเรียกชื่อก็มองไปทางพ่อของตน
ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ
'' ป๋ามีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูก... เรื่องเลขาของลูก '' ท่านประธานกล่าวมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูจริงจัง เว่ยโจวเห็นดังนั้น จึงลุกขึ้นอ้อมไปด้านหลังผู้เป็นพ่อแล้วนวดเบาๆที่ไหล่หนา แล้วจึงเอ่ยถามต่อว่า......
'' เรื่องคุณลู่ลู่หรอ.. มีอะไรหรอคับป๋า '' เว่ยโจวกล่าวด้วยสายตาที่งุนงงและต้องการคำตอบ เพราะเขาเพิ่งจะมาไม่นานเลยไม่รู้เรื่องอะไรในบริษัทมากนัก
'' ป๋าจะไล่เลขาลู่ลู่ออก แล้วหาเลขาคนใหม่มาแทนให้ลูก '' ผู้เป็นพ่อเอี้ยวตัวมองหน้าโจวโจว ที่เอาแต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก
'' ท ทำไมต้องไล่ออกด้วยหละคับ '' แววตาแห่งความสงสัยผุดขึ้นจากใบหน้าของคนน่ารัก
'' ป๋าจับได้ว่าลู่ลู่ยักยอกเงินของบริษัทร่วมกับพนักงานคนอื่นอีก 2 คน และคนพวกนั้นก็ต้องโดนไล่ออกด้วยเหมือนกัน '' ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกด้วยใบหน้านิ่งขรึมและให้เหตุผลในการไล่พนักงานของเขาออกให้เว่ยโจวได้ฟัง
'' แต่ว่า..'' เว่ยโจวกำลังจะพูดออกไป แต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อผู้เป็นพ่อพูดขัดขึ้น
'' ป๋าหาเลขาคนใหม่มาให้เเล้ว สวี่เว่ยโจว '' คนตัวเล็กได้ยินผู้เป็นพ่อเรียกชื่อเต็มของตนดังนั้น จึงไม่กล้าที่จะกล่าวขัด ได้แต่ทำใจยอมรับ เฮ้ออออ....
'' เข้ามาสิ '' เว่ยโจวมองป๋าที่เรียกใครสักคนอยู่นอกห้อง แล้วประตูบานหนาก็เปิดออกพร้อมๆกับร่างสูงของใครอีกคนเดินเข้ามา
'' สวัสดีครับ ท่านประธาน '' เว่ยโจวมองใบหน้าเลขาคนใหม่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เหมือนจะคุ้นเคยกับคนๆนี้ แต่ก็พึมพัมบอกตนเองว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ สุดท้ายเว่ยโจวก็ขอตัวไปเค้าห้องน้ำ เพื่อที่จะใช้น้ำเย็นๆผ่อนคลายอารมณ์เครียดของตน
และในขณะที่เว่ยโจวเงยหน้าขึ้นมามองกระจกหลังจากล้างหน้าแล้ว ก็ต้องชะงัก เมื่อคนที่เพิ่งเจอในห้องของป๋า มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
'' สวัสดีคับ คุณสวี่เว่ยโจว '' ร่างสูงทักขึ้นพร้อมมองใบหน้าของเว่ยโจวผ่านทางกระจกบานใหญ่
'' ครับ สวัสดีครับ แล้วนี่คุณ..... '' เว่ยโจวหันหลังกลับมา เว้นคำพูดเป็นเชิงถาม คนตรงหน้าว่าชื่ออะไร
'' ผม หวงจิ่งหยู ครับ เรียก จิ่งหยู ก็ได้ '' คนตัวสูงว่าพรางมองคนตัวเล็กอย่างใจจดใจจ่อ จนคนถูกมองไม่กล้าจะสบตาเขาด้วยซ้ำ
'' อะ ครับ งั้นผมขอตัวนะครับ '' เว่ยโจวกล่าวแล้วเดินออกไปทันที
'' อ๊ะ! '' แต่อยู่ๆก็ถูกเเรงดึงจากคนข้างหลัง ( กระชาก ) จนเซไปกระทบกับอกแกร่ง
'' ท..จะทำอะไร! '' คนตัวเล็กว่าอย่างตกใจกับการกระทำของเลขาคนใหม่ที่กอดเขาจากข้างหลัง เพิ่งจะเจอกันวันนี้ครั้งแรก แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
'' ปล่าวครับ ก็แค่อยากจะถามว่าจะรับกาแฟไหม? เดี๋ยวผมจะยกไปให้ที่ห้อง '' จิ่งหยูกล่าวบอกคนตัวบาง ในขณะที่จมูกโด่งสูดดมกลิ่มกายจากคนที่อยู่ในอ้อมกอดแกร่ง
( ห๊าาาา! แค่จะถามว่าจะเอากาแฟไหม จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยหรอออ )
'' ม..ไม่เป็นไรครับ '' คนตัวบางว่าแล้วพยายามดิ้นอยู่สักพักภายในอ้อมกอดแกร่ง พอหลุดออกมาได้ ก็เดินกลับห้องทำงานไปทันที
ตอนนี้หัวใจของเว่ยโจวมันเต้นดังจนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ เพราะไม่อยากให้พนักงานเห็นท่าทางผิดปกติของตน ทั้งหน้าและหูที่แดง แววตาที่สับสน และอีกหลายๆอย่างที่บ่งบอกว่าเขากำลังใจเต้นแรงกับการที่โดน ผู้ชายคนนึงกอด และสูดดมกลิ่นกายเขา ความรู้สึกคุ้นเคยที่ได้รับจากคนๆนี้มันคืออะไรกันนะ.....
'' หึ น่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ แมวน้อยของพี่ '' จิ่งหยูพึมพัมกับตนเองก่นจะเดินไปที่โต๊ะทำงานของตน และเริ่มทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงค่ำของวัน...
( 6 ชั่วโมงผ่านไป... )
'' นี่ก็เลิกงานแล้ว ทำไมไม่ออกมาสักทีนะ '' จิ่งหยูที่นั่งรอคนน่ารักอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่หน้าห้อง ชะเง้อหน้าทีหลังที รอคนในห้องนั้นเปิดประตูออกมา จนแล้วจนรอดก็ไม่ออกมาเสียที สุดท้ายก็เป็นเค้าเองที่ทนไม่ไหว เดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายทันที
'' คุณเว่..... '' จิ่งหยูเงียบเสียงลงในทันที ที่เห็นร่างบางหลับสนิท ฟุ๊บหน้าลงกับโต๊ะทำงานที่มีเอกสารมากมายกองอยู่
'' คงจะเหนื่อยมากสินะ แมวน้อยของพี่ '' จิ่งหยูว่าแล้ว ก้เดินไปข้างหลังของเว่ยโจวที่ตอนนี้หลับสนิท กำลังที่จะเอื้อมมือไปปลุก แต่ก็ต้องชงักมือเอาไว้ เมื่อมีความคิดบางอย่างแล่นแปร๊ดดด เข้ามาในสมอง
'' แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ..... '' เสียงชัตเตอร์จากโทรศัพท์ ปลุกร่างบางที่กำลังนอนหลับอยู่ เว่ยโจวจึงหันมองมาตามเสียง แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจอร่างสูงยืนถ่ายรุปเขาอยู่ด้านหลัง
'' ท... ทำอะไรเนี่ย! '' คนตัวบางว่าอย่างตกใจ
'' ปล่าวนี่ครับ! นี่ก็เลิกงานแล้ว ไปหาอะไรทานด้วยกันนะคับ '' จิ่งหยูว่า แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือทันที ทำทีเป็นเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อจะไม่ให้คนตัวเล็กสงสัย
'' ง...งั้น รอแปปนึงนะ เดี๋ยวผมขอเก็บของก่อน '' คนตัวเล็กตั้งใจเก็บของใช้ที่จำเป็นของตน จนไม่สังเกตว่าอีกคนกำลังก้มหนามาเพื่อจะฟัดแก้มขาวๆนั่น
'' อ๊ะ !'' เมื่อเว่ยโจวกำลังจะหันไปบอกคนข้างหลังพอดีว่าเก็บของเสร็จแล้ว แต่ใบหน้าของร่างสูงเลื่อนมาใกล้ในจังหวะเดี๋ยวกันกับที่เว่ยโจวจะหันไป ริมฝีปากของคนทั้งคู่ แนบชิดกัน ก่อนเว่ยโจวสะดุ้ง และลุกถอยห่างจาก จิ่งหยูทันที
'' ข..ขอโทด '' เว่ยโจวงุดหน้าไม่กล้าสบตา
'' ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ ^^ '' จิ่งอวี๋ว่าอย่างสบายใจ ทำเป็นไม่รู้เย็นรู้ร้อน ( เพราะแกต้องการแบบนี้อยู่แล้วสินะ ) แล้วเดินออกไปรอที่หน้าห้องเพื่อให้คนตัวเล็กได้ตั้งสติ สักพักประตูบานหนาก็เปิดออกพร้อมๆกับร่างบางก้าวเดินออกมา
'' ปะ ไปกินข้าวกัน '' จิ่งหยูว่าพลางส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางเว่ยโจว
'' อ...อืม '' เว่ยโจวว่าแล้วก็รีบเดินนำหน้าคนร่างสูงไปก่อน แต่เอ๊ะ! นี่เราไปสนิทกับคนๆนี้ตอนไหน ไหงมาชวนไปสะง่ายๆ แล้วเราก็ตอบตกลงง่ายๆเหมือนกัน โอ๊ะ นี่เราจะเบลออไปไหนเนี่ยยย!!!
TALK
สวัสดีค่าาา วันนี้ไรท์เพิ่งเริ่มเขียนเป็นครั้งแรก และก็ตอนแรกด้วย เป็นเรื่องราวความรักความผูกพันธ์ ของสองคนนี้ที่มีให้กันตั้งแต่เด็กๆ เหมือนจะตัดๆ กระโดดข้ามไปนั่นไปนี่ก็ขออภัยนะค่าาา ตอนนี้ไรท์ก็ยังเขียนไม่ค่อยเก่ง ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ถ้ายังไงคนที่หลงเข้ามาอ่านก็ฝากติดตามฟิคนี้ต่อไป และคอมเม้นติชมกันได้เลยนะค่าาา
( พอจะเดาๆกันออกไหมเอ่ย ที่พี่จิ่งของเรา เรียกน้องว่าแมวน้อย และ เรียกเหมือนคุ้นเคยกันซะขนาดนี้ เอ... เป็นใครกันน๊าา 555 )
ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง
[ ไรท์เตอร์ ]
18/07/59 : 2016